NASA ทำสัญญากับ Blue Origin, Dynetics และ SpaceX พัฒนาระบบลงจอดบนดวงจันทร์
30 เมษายน NASA ได้เปิดเผยรายชื่อ 3 บริษัทในสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกให้ออกแบบและพัฒนาระบบการนำมนุษย์ลงจอด (Human landing systems : HLS) สำหรับโปรแกรม Artemis หรือการส่งผู้หญิงคนแรกและผู้ชายคนต่อไปลงไปเหยียบบนพื้นดวงจันทร์ในปี 2024 ซึ่งบริษัทที่ชนะการคัดเลือกก็คือ Blue Origin, Dynetics และ SpaceX โดยเสนอเงินค่าจ้างสำหรับสัญญาทั้งหมด 967 ล้านดอลลาร์
สัญญามอบหมายให้แต่ละบริษัทพัฒนาระบบการลงจอดที่แตกต่างกัน เพื่อผลักดันให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการลงจอดบนพื้นดวงจันทร์ในวงกว้างและยั่งยืน ซึ่งบริษัทที่ถูกรับเลือกจะได้เงินแตกต่างกัน คือ Blue Origin ได้รับเงินมากที่สุดเป็น 579 ล้านดอลลาร์เนื่องจากมีความคืบหน้าของระบบในช่วงต้นอย่างน่าสังเกต ต่อมาคือ Dynetics ที่ร่วมมือกับ Sierra Nevada ได้รับเงิน 253 ล้านดอลลาร์และ SpaceX ได้รับเงิน 135 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือโครงการ Starship
สัญญาจะให้ระยะเวลาในการดำเนินงาน 10 เดือนก็คือจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะต้องนำเสนอภารกิจการสาธิตขีดความสามารถในขั้นต้น หลังจากนั้น NASA ก็จะพิจารณาคัดเลือกเอาแค่ 2 บริษัทเพื่อพัฒนาระบบให้ครบถ้วนยิ่งขึ้นจนได้ระบบการลงจอดขั้นสุดท้ายที่สมบูรณ์
สัญญาครั้งนี้ไร้เงาของคู่สัญญาเดิมอย่าง Boeing หรือเพราะว่าผลที่ผ่านมาของ Starliner และ SLS ไม่สามารถทำคะแนนช่วยได้มากพอให้ถูกรับเลือก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ได้รับเลือกก็ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันอย่างมากมาย เพราะสหรัฐฯ และ NASA ต้องการจะส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์ในปี 2024 และภายในเวลา 10 เดือนไม่ใช่เวลานานมากสำหรับการพัฒนาและทดสอบระบบท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของ COVID-19 ในสหรัฐฯ ก็ขอให้ติดตามกันต่อไปว่า 2 บริษัทใดจะชนะการคัดเลือกสู่ภารกิจไปดวงจันทร์