รวมมือถือรุ่นเด่นและน่าซื้อมาใช้ที่สุด ส่งท้ายเดือนพฤษภาคม 2020
กลับมาพบกับการรวมมือถือใหม่และรุ่นคุ้มค่ากันอีกแล้ว สำหรับปลายเดือนพฤษภาคม 2020 ก็มีมือถือหลากหลายราคาให้เลือกเช่นเคย แต่รุ่นไหนจะน่าสนใจมากที่สุด ทีม Sanook Hitech ได้รวมมาถึง 5 รุ่น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
Samsung Galaxy S20+ ราคาเปิดตัว 31,900 บาท แต่หาได้ในราคาประมาณ 29,000 – 30,000 บาท
รุ่นกลางของ Samsung Galaxy S20 Series ที่มีหลายจุดก็น่าใช้กว่ารุ่นท๊อปเช่นเรื่องกล้องทำงานได้รวดเร็วกว่า ขนาดที่เหมาะมือ พร้อมกับน้ำหนักไม่มากเกินไป เรียกได้ว่าสเปกของเครื่องรุ่นนี้ไม่ได้ด้อยกว่าใครเลยครับ
สเปกของ Samsung Galaxy S20+
- หน้าจอ DynamicAMOLED 3200 x 1440 พิกเซล WQHD+ (HDR10+) ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 161.9 x 73.7 x 7.8 มม.
- น้ำหนัก 186 - 188 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 990
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB (LTE)
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB รองรับการเพิ่มความจำภายนอกสูงสุด 1TB (รุ่น LTE มีความจำ 128GB)
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Tele 3x ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Digital Zoom 30x), เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ ToF (Time-of-Flight) สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้น
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition Ultrasonic Fingerprint
- แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh
- รองรับ Fast Charge 25W (แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย Qi Wireless Power Share 2.0
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
- ราคาในประเทศไทย : 31,900 บาท
Huawei Mate 30 Pro (RAM 8GB / ROM 256GB) ราคาเปิดตัว 31,990 ณ เวลานี้ซื้อได้ในราคา 28,990 บาท
รุ่นท๊อปอีกรุ่นหนึ่ง Huawei ที่ให้สเปกดีใช้ได้พร้อมกับกล้องหลังที่เป็นแบบเน้นการถ่ายวิดีโอ นิ่งและสามารถตอบโจทยกับการถือ ขอบเครื่องที่โค้งลงมารับกับมือได้อย่างดี เรียกได้ว่าเป็นอีกมือถือที่มีรูปทรงที่สวยงามเลยครับ
สเปกของ Huawei Mate 30 Pro
- ขนาด: 158.1 x 73.1 x 8.8 มิลลิเมตร
- หนัก: 198 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : AMOLED แบบ Huawei Horizon Display ความละเอียด FHD+ 18.5:9 (1176 x 2400 พิเซล) ขนาดประมาณ 6.53นิ้ว
- ชิปเซ็ต : HiSilicon Kirin 990
- RAM : 8 GB
- ROM : 256 GB
- ความจำเสริม : Nano Memory ขนาด 256GB
- ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 (ไม่มี Google Apps)
- WiFi 802.11 AX
- Bluetooth 5.0
- กล้องหลัง 4 ตัว: เป็น Leica
>>>>กล้องตัวแรกเป็นเลนส์ SuperSensing Wide ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, F/1.6(OIS)
>>>>กล้องตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra-Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล,F/1.8
>>>>กล้องตัวที่สามเป็นเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, F/2.4 (3x optical zoom)
>>>>สุดท้ายเป็นกล้อง 3D Depth Sensing - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล + เลนส์ ultra-wide + เซนเซอร์ ToF
- รองรับ: Face ID
- รองรับ: สแกนนิ้วบนหน้าจอ( fingerprint )
- 3D Face Unlock รองรับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ
- รองรับ : nano SIM Dual SIM
- Bluetooth: 5.0
- มาตรฐานระดับการกันน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4500 mAh รองรับ Super Charge 40W และ Fast wirelessCharge 27W
- สี: Black, Space Silver
OPPO A31 (RAM 6GB / ความจำ 128GB) ราคา 6,999 บาท
เริ่มต้นกับ OPPO A31 สเปกใหม่ RAM 6GB สเปกที่ดีขึ้นและขุมพลัง MediaTek Heilo P35 และมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัวและรายละเอียดสเปกคุ้มค่า แต่ถ้าอยากได้ถูกกว่านี้ก็จะได้ RAM 4GB ในราคา 5,499 บาท เท่านั้น
สเปกของ OPPO A31
- ขนาด: 163.9 x 75.5 x 8.3 มิลลิเมตร
- หนัก: 181 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : LCD Display ความละเอียด HD+ 20:9 (1600x720พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.5 นิ้ว
- ชิปเซ็ต : MediaTek Helio P35| GPU PowerVR GE8320
- RAM : 4 - 6 GB
- ROM : 128 GB
- ความจำเสริม : Micro SD รองรับความจุสูงสุด 256GB
- ระบบปฏิบัติการ: Android 9 Pie ครอบบน Color OS 6.1
- WiFi 802.11 B/G/N/AC (Dual Band)
- Bluetooth 5.0
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G LTE
- กล้องหลัง 3 ตัว:
กล้องตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F2.0
กล้องตัวที่ 2 เป็นเลนส์ Depth Sensor ขนาด 2 ล้านพิกเซล
สุดท้ายเป็นกล้อง 2 ล้านพิกเซล Marco เข้าใกล้ได้ 4 เซนติเมตร - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D
- รองรับ: สแกนนิ้วที่ด้านหลัง
- รองรับ : nano SIM Dual SIM + Micro SD
- ช่องเสียบ : หูฟัง 3.5 mm. และ MicroUSB
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4230 mAh
- สี : Fantasy White, Mystery Black
Redmi Note 9 (RAM 3GB / ความจำ 64GB) ราคา 4,999 บาท
เปิดตัวไม่นานในประเทศไทยและจะวางจำหน่ายวันที่ 28 พฤษภาคม นี้กับราคาเริ่มต้น 4,999 บาท จุดเด่นแทบจะบอกว่า สเปกใช้ได้และใหม่พอสมควรกับ MediaTek Heilo G80 พร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัวหน้าจอ Dot Display เรียกได้ว่าล้ำ และแบตเตอรี่ใหญ่ชาร์จไฟเร็ว แถมติดมาในกล่องด้วย ใครที่หามือถือดี ๆ สักเครื่องแต่ไม่อยากจ่ายเงินเกินงบ นี่ก็ถือว่าเลือกได้
สเปกของ Redmi Note 9
- หน้าจอ IPS-LCD 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.53 นิ้ว
- ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.2 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก 199 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G85 Octa Core
- ชิปกราฟิก Mali-G52 MC2
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 - 4GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 64 -128GB
- หน่วยความจำภายนอก : MicroSD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวประกอบด้วย
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + PDAF, LED Flash รูรับแสง F1.8
- เลนส์ ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- เลนส์มาโครให้มาที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- เลนส์ depth ให้มาที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ระบบปลดล็อค Face Recognition, สแกนนิ้วด้านข้าง
- แบตเตอรี่ความจุ 5020mAh
- รองรับ Fast Charge 18W แบบสาย
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 11.0.1
- ราคาในประเทศไทย :4,999 บาท (RAM 3GB / ความจำในตัว 64GB) 6,499 บาท (RAM 4GB / ความจำ 128GB)
- สี Forest Green, Midnight Grey, Polar White
Samsung Galaxy A51 RAM 6GB / ROM 128GB (10,900 บาท) (รีวิว)
ปิดท้ายกับ Samsung Galaxy A51 ถึงแม้ว่าจะเข้ามาจำหน่ายนานแล้วแต่สเปกของเครื่องคุ้มค่า เลือกใช้ Exynos 9611 RAM 6GB และความจำภายใน 128GB พร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัวบอดี้สวยงามและสเปกเมืองไทยมีรุ่นสีชมพู แต่ยังไม่มี 5G ให้เลือก แต่ถือว่ายังดีอยู่กับราคาไม่แรงเกินไป
สเปกของ Samsung Galaxy A51
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 158.5 x 73.6 x 7.9 มม.
- น้ำหนัก: 171 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
- หน้าจอ: Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ 2400x1080 พิกเซล ความหนาแน่น 405 ppi
- ชิปเซ็ต Samsung Exynos 9611+ Mali G72MP3
- การเชื่อมต่อ : 4G LTE (Nano SIM 2 Slot) WiFi 802.11 B/G/N/AC Dual Band, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 (One UI 2)
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 2 มิติ
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
- กล้องหลัง 4 ตัว
- 48 ล้านพิกเซล F1.8 เป็นเลนส์หลัก
- 12 ล้านพิกเซล Ultra Wide มุมมองกว้างสุด 123 องศา
- 5 ล้านพิกเซล เป็น Depth Sensor
- 5 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Marco
- กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล (f2.0)
- แบตเตอรี : 4,000 mAh + Fast Charge 15W
- แรม (RAM) : 6GB
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD (รองรับ 1TB)
- ช่องเสียบ : USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : Prism Crush Black, Prism Crush Pink, Prism Crush Blue
สำหรับในครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะนำมือถือกลุ่มไหนมานำเสนออีกต้องรอติดตามกันต่อไปนะครับ