กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้ง ในครั้งนี้เนื่องจาก ASUS ประเทศไทยได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ระดับการทำงานขั้นสูง และ องค์กร ซึ่งจากทั้งหมดหลายรุ่น ทีมได้เลือกมา 2 รุ่น แต่รุ่นแรกที่เราจะเริ่มคือ ASUS ProArt Studiobook H500GV ที่เป็น Workstation Notebook สเปกสูงและทำงานได้แต่ราคาไม่สูงมากนัก จะเป็นอย่างไรมาดูกันเลยดีกว่า

sa_h500_gv_b001 อุปกรณ์ติดกล่อง ASUS ProArt Studiobook H500GV

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ ASUS ProArt Studiobook H500GV

การออกแบบของ ASUS ProArt H500G จะมีความคล้ายกับ ASUS ทั้งตระกูล TUF หรือ ROG แต่ลดความดุดันลงมาพอสมควร ด้วยการตัดขอบส่วนล่างของจอออกพร้อมกับไฟแสดงผลการทำงานของเครื่องอกมาถึง 3 ดวงและมีโลโก้ ASUS สลักไว้ที่ฝาอะลูมิเนียม

sa_h500_gv_b009

รอบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรงสามารถผ่านมาตรฐาน MIL-G810 ได้สบายประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายจะมีช่องชาร์จไฟ, LAN RJ45, HDMI, USB-A ช่องต่อไมโครโฟนและหูฟัง

sa_h500_gv_b007
sa_h500_gv_b008

ฝั่งขวามาพร้อมกับ USB-C รองรับเทคโนโลยี Power Delivery จ่ายไฟเข้าได้ และมี USB-A อีก 2 ช่องพร้อมกับส่วนบนเป็นระบบระยายอากาศ

sa_h500_gv_b002
sa_h500_gv_b003
sa_h500_gv_b004

ด้านหลังของเครื่องมีช่องระบายอากาศของเครื่องที่สามารถระบายอากาศได้รวดเร็วฝั่งซ้ายและขวา

sa_h500_gv_b005

ส่วนหน้าของเครื่องจะมาพร้อมกับร่องที่สามารถยกฝาหน้าของเครื่องขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย

sa_h500_gv_b006

ส่วนใต้มาพร้อมกับระบบระบายอากาศของเครื่องที่ทำงานได้ดี และยังมีลำโพงมาให้อีก 2 ตัว

sa_h500_gv_b010
sa_h500_gv_b011
sa_h500_gv_b012

เมื่อเปิดฝาเครื่องออกมาจะพบกับกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วและมี Kehboard พร้อมกับ Trackpad ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วแม้ว่าขนาดจะไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ยังลงตัว พร้อมกับหน้าจอกางได้มากสุด 180 องศา

sa_h500_gv_b013

ภาพรวมของรูปร่าง / น้ำหนักเครื่อง

ในภาพรวมแล้วทีมมีความเห็นว่า ASUS ProArt Studiobook ตัวนี้ออกแบบเน้นความแข็งและทนทานเป็นพิเศษ แต่ก็ยังให้รายละเอียดตัวเครื่องที่ดีเช่นจอก้างได้มากถึง 180 องศา ระบบระบายความร้อนที่ทำงานรวดเร็ว และช่องเสียบครบครันทั้ง 2 แทบไม่ต้องเสียบ HUB ให้เสียเวลาในการใช้งานเลยครับ

อย่างไรก็ตามน้ำหนักของ ASUS ProArt Studiobook H500GV ไม่ได้ออกแบบเพื่อน้ำหนักเบาอยู่แล้วทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักราวๆ เกือบ 3 กิโลกรัม แต่ก็ยังถือว่าเบาสำหรับสเปกระดับการทำงาน Workstation

เปิดเครื่องลองประสิทธิภาพของ ASUS ProArt Studiobook H500GV

สเปกของ ASUS ProArt Studiobook H500GV

หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียด 3840x2160 พิกเซล ขอบหน้าจอหนาเพียง 7.5 มิลลิเมตร ความสว่าง 400 และค่า Contrast Ratio 1,200 : 1
ขนาด : กว้าง 36 x ยาว 25.2 x หนา 1.89 เซนติเมตร
หนัก : 1.98 กิโลกรัม
ชิปเซ็ตประมวลผล : Intel® Core™ i7 9750H Processor
ชิปประมวลผลกราฟิก : NVIDIA® GeForce® RTX Studio 2060 , with 6GB GDDR5 VRAM
RAM : 16GB DDR4 2666MHz ใส่ได้สูงสุด 48GB
ความจุ : SSD 1TB ใส่ได้มากถึง 2TB และ รองรับ RAID 0/1 (up to 48Gbps)
กล้องหน้า : HD Camera
ตัวเชื่อมต่อ (Port)
1x Type-A USB 3.1 (Gen 2)
2x Type-A USB 3.1 (Gen 1)
1 x Type-C USB 3.1 (Gen 2) Thunderbolt 3 with DP1.4
1 x HDMI
LAN RJ45
ช่องเสียบไมโครโฟน และ ช่องเสียบหูฟัง
เชื่อมต่อ WiFi 802.11 AX, Bluetooth V5.0
ระบบปฏิบัติการ : Windows 10 64 Bit
แบตเตอรี่ขนาด 76Wh 4 Cell ที่ชาร์จแบบ 230W Power Adapter

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อไร้สาย

แน่นอนเมื่อเห็นผลการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องออกถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ทั้งคะแนนของ 3D รวมไปถึง การทำงานของเครื่องและ SSD เช่นเดียวกันครับ

การเชื่อมต่อรองรับ WiFi 802.11 AX, Bluetooth 5.1 ถือว่าครบเครื่องเหมือนกัน

หน้าจอ / ระบบการแสดงผลเสียง / การสัมผัส Keyboard

สำหรับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอของรุ่นนี้ที่เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเหมือนกัน ให้สีที่ตรงตามมาตรฐาน Adobe RGB color gamut มากถึง 100%,การแสดงผลสี 8-bit color Delta-E < 1.5 color accuracy,และ PANTONE® Validated ดังนั้นการตัดต่อวิดีโอ หรือ ภาพต่างๆ ที่ออกมาถือว่าคมชัดเหมือนกันครับ

sa_h500_gv_b011
sa_h500_gv_b012

ระบบเสียงถือว่าให้ลำโพงใหญ่และดังพร้อมกับ Audio Wizard ที่ปรับระบบเสียงออกมาที่น่าสนใจอย่างมากเลยครับ

ส่วนปุ่มของ Keyboard ยังให้ความรู้สึกเหมือนกับ ASUS ในกลุ่มของ Zenbook คือปุ่มสัมผัสทำได้ดีแต่ว่า Touchpad ที่เป็นสี่เหลี่ยมที่น้ยอยไปหน่อย

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ / ความปลอดภัย

ทั้งคู่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ทั้งคู่ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและลงตัวกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่พร้อมกับ

my1-vert

ฟีเจอร์ของตัวเครื่องอาจจะไม่ได้แตกต่างจาก Notebook ของ ASUS เพราะมีเรื่องของระบบดูแลตัวเครื่องและจัดการแบตเตอรี่ รวมไปถึง ASUS Gift ที่มีของขวัญให้

แต่สำหรับ ASUS ProArt Studiobook H500GV ถือว่าเป็กลุ่มของ Notebook ระดับองค์กร ASUS เลยมีโปรแกรม My ASUS เข้ามาให้ ช่วยดูแลภายในระบบของเครื่องและแจ้งเตือนปัญหา และยังมี Link To My ASUS สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้ รวมถึงการส่งภาพผ่านมือถือได้ทั้ง iOS และ Android ได้เช่นเดียวกัน รวมถึงการส่งหน้าจอมือถือขึ้นคอมพิวเตอร์ได้เช่นเดียวกัน

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ

สำหรับแบตเตอรี่ของ ASUS ProArt Studiobook H500GV ให้มาแบบ 4 Cell เมื่อเทียบกับสเปกของเครื่องแล้วการใช้งานอาจจะไม่ได้ยาวนานมากนักแค่ 5 - 6 ชั่วโมงก็เพียงพอ

แต่ที่ชาร์จเลือกได้ว่าจะชาร์จผ่าน Power Delivery จาก USB-C หรือที่ชาร์จที่ติดมากำลัง 180W ถือว่าแรงเหมือนกัน แต่แนะนำว่าควรชาร์จกับ Adaptor ตัดเครื่องจะดีกว่า ไวกว่าเยอะมาก

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้ ASUS ProArt Studiobook H500G มาสักระยะเวลาหนึ่ง

sa_h500_gv_b018

เรียกได้ว่าสเปกของ ASUS ProArt Studiobook H500GV ที่มาครบเครื่องและเหมาะกับการทำงานและให้เสียงดีและภาพที่สวยเหมาะกับการทำงานอย่างมากเลยทีเดียว แต่ว่าสิ่งที่ต้องเห็นคือ ราคาของเครื่องที่สูงเหมือนกัน โดยเริ่มต้นที่ 64,990 บาท

อย่างไรก็ตามนี่คือคอมพิวเตอร์กลุ่มแรกที่ ASUS เน้นสเปกเครื่องที่คุ้มค่าและเน้นการทำงานที่เน้นกราฟิกมากขึ้น แต่ถ้าไม่เน้นกราฟิกอยากได้เบาแต่แข็งแรงแบบนี้ก็ต้องเป็น ASUS Expertbook ครับ

จุดเด่น

สเปกแรงและเหมาะกับการทำงานกราฟิก
น้ำหนักของเครื่องไม่หนักเกินไป
ฟีเจอร์เครื่องถือว่าครบเครื่อง
การเชื่อมต่อทันสมัย
หน้าจอสีสันคมชัด

ข้อสังเกต

Keyboard ยังนิ่มไปหน่อยทำให้กดแล้วบางทียวบ
Touchpad อยากให้กว้างกว่านี้อีกสักหน่อย

[Review] ASUS ProArt Studiobook H500GV คอมพิวเตอร์สเปกแรงเพื่องานระดับ Workstation ที่พกพาได้

[Review] ASUS ProArt Studiobook H500GV คอมพิวเตอร์สเปกแรงเพื่องานระดับ Workstation ที่พกพาได้4 / 20

ASUS ProArt Studiobook H500GV