ยุคนี้ถ้าเราจะมองหาโน้ตบุ๊กซักตัว ก็คงมองในเรื่องของความ บางเบา ดีไซน์หรูดูดี และที่สำคัญคือ สเปคต้องแรงพอที่จะทำอะไรได้มากกว่าการทำงานเอกสารทั่วไป

คลิปนี้ขอรีวิว acer Swift 3 โฉมใหม่ที่มาพร้อม CPU Ryzen 4000 Series มาดูกันว่าจะตอบโจทย์คุณได้ครบถ้วนหรือไม่?

ดีไซน์ภายนอก

เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อนเลย โดยตัวเครื่องที่ผมได้มานี้มาพร้อมกับสี Pure Silver สีเงินเรียบหรู ดูดีมาก ๆ ส่วนอีกสีที่มีคือ mauve purple สีม่วงดูหรูหรา โดยมาพร้อมวัสดุที่ทำจากอลูมิเนียม ลองจับดูก็รู้สึกถึงความแข็งแรงใช้ได้ งานประกอบดูแน่นหนาพอสมควร เขย่าแล้วไม่มีเสียงก๊อกแก๊กเลย

ซึ่งตัวเครื่องเราชั่งได้น้ำหนักอยู่ที่ 1,214 กรัมครับ ถือว่าเบามาก รวมน้ำหนักอแดปเตอร์ชาร์จไฟจะอยู่ที่ 1.477 กิโลกรัม เบาแบบนี้พกพาง่ายมาก

หน้าจอ

ทางด้านหน้าจอมีขนาด 14 นิ้วขนาด Full HD 1080P โดยจอเป็นแบบ IPS ครับ ถ้าสังเกตดูเราจะเห็นว่าขอบจอค่อนข้างบางเพียง 5.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ให้สัดส่วนหน้าจอกว่า 82.73% ทำให้ขนาดของ Acer Swift 3 นี่เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คขนาด 13 นิ้วเลยล่ะครับ

พอร์ตต่าง ๆ ของเครื่อง

มาดูกันในส่วนของพอร์ตที่มีมาให้บ้าง เริ่มจากทางซ้ายของตัวเครื่องเลยนะครับ ไล่เรียงตั้งแต่พอร์ตสำหรับเสียบอแดปเตอร์ชาร์จไฟ พอร์ต USB-C ซึ่งพอร์ตนี้รองรับการชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ แต่ไม่ใช่พอร์ต Thunderbolt 3 นะครับ ต่อมาก็พอร์ต HDMI สำหรับต่อจอแยกแล้วก็พอร์ต USB 3.1 ครับ

ส่วนอีกด้านก็เริ่มจากพอร์ต Kensington สำหรับล็อค Notebook ไม่ให้ถูกขโมยไปได้ ต่อด้วยพอร์ต USB 2.0 แล้วก็ปิดท้ายด้วยพอร์ต 3.5mm สำหรับต่อหูฟังนั่นเอง

คีย์บอร์ด

ในส่วนของคีย์บอร์ดก็พิมพ์ได้หนืบหนับดี และมีไฟ backlit ใช้งานในที่แสงน้อยได้สะดวกครับ และนอกจากนี้ตรงมุมขวาล่างของคีย์บอร์ดก็มี Fingerprint scan ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Hello ได้อีกด้วย ทำให้เราไม่ต้องปวดหัวกับการจำรหัสผ่านเข้าเครื่อง แถมปลอดภัยสุด ๆ อีกด้วย

สเปค

ส่วนทางด้านสเปคของ Acer Swift 3 รุ่นนี้มาพร้อมกับ CPU ตระกูล AMD Ryzen 4000 Series ตัวล่าสุดครับ โดยเครื่องที่เรารีวิวเป็น Ryzen 5 4500U ความเร็ว 2.38 GHz 6 Core 6 Threads ซึ่งจะมาพร้อม Cache 11 MB และมี AMD Radeon Graphics แบบ Build-in มาด้วย ซึ่งรุ่นนี้ไม่มีการ์ดจอแยกมาครับ

ในส่วนของ Ram มีขนาด 8 GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz ครับส่วนฮาร์ดดิสเป็น SSD ขนาด 512 GB ก็เรียกว่าให้มาเหลือ ๆ ครับ จะเปิดเครื่อง โหลดไฟล์ใหญ่ ๆ ก็รวดเร็วปุ๊ปปั๊บไม่มีหน่วงเหมือนฮาร์ดดิสจานหมุนสมัยก่อนเลยล่ะครับ

ทางด้านแบตเตอรีของตัวเครื่องอยู่ที่ 48 Watt-hours สามารถใช้งานได้ประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง โดยรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว ที่ชาร์จเพียง 30 นาที สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมงครับ

การใช้งาน

มาดูในเรื่องของการใช้งานกันบ้าง Acer Swift 3 ออกแบบมาตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบครับ จะเปิดเว็บไซต์ beartai หลาย ๆ Tab ก็ไม่มีปัญหา หรือจะเปิด Facebook อัปเดตโซเชียลไปด้วย หรือจะเปิด YouTube ดูคลิป beartai ไปพร้อมกัน ก็ทำได้ลื่น ๆ เลยล่ะครับ

มาต่อกันที่เรื่องเสียง ก็ได้ทดลองเปิดเพลง Billie Jean ของ Michael Jackson ก็รู้สึกได้เลยว่าเสียงดังดีมาก โดยลำโพงจะเน้นเสียงกลาง เสียงเบสค่อนข้างบางแต่ถือว่ามี ซึ่งโดยรวมฟังได้เพลิน ๆ ครับ

ซอฟต์แวร์

จุดเด่นของ Acer Swift 3 คือ นอกจากตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้แล้ว ยังมาพร้อมกับ Office รุ่น Home and Student 2019 อีกด้วย รุ่นนี้ดียังไง ดีตรงที่เป็นโปรแกรม Office แท้แบบใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งาน แถมเรายังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยของโปรแกรม Word Excel และ PowerPoint อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างสบายใจครับ

พูดถึงเรื่อง Office แล้วก็ขอแนะนำเพิ่มเติมกันซักเล็กน้อย เพราะช่วงนี้เราทำงานกันแบบ Work From Home ใช่ไหมครับซึ่งโปรแกรม Office ก็มี Feature ที่ช่วยให้เราสามารถทำงานได้เสมือนกับการทำงานอยู่ที่ออฟฟิศเลย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การทำงานร่วมกันแบบ Collabolation ในชิ้นงานเดียวกันได้ทันที รวมไปถึงการเข้ามา Comment งานได้แบบเรียลไทม์ แถมยังมีพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ OneDrive ที่ช่วยปกป้องงานของคุณ โดยไม่ต้องกังวลว่างานจะหาย แถมแก้ไขได้จากทุกอุปกรณ์อีกด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพ

มาดูกันในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพผ่านโปรแกรมต่าง ๆ มาดูว่าแต่ละโปรแกรมจะได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง

เริ่มด้วยโปรแกรมทดสอบกราฟิกอย่าง 3DMark แบบ Sky Diver สามารถทำคะแนนออกมาได้ค่อนข้างดีที่ 9,474 คะแนน

ส่วนโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพเครื่องอย่าง PCMark 10 ล่าสุด ก็ได้คะแนนแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่คือ หมวด Essentials 8,381 คะแนน หมวด Productivity 6,527 คะแนน และหมวด Digital Content Creation 4,199 คะแนน

ต่อด้วยในส่วนของโปรแกรม Crystaldisk Mark สำหรับทดสอบ Hard Disk ก็ได้ค่าการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 2,272 MB/s และค่าการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 1,079 MB/s ถือว่าตัวเลขออกมาค่อนข้างสูงใช้ได้ครับ

ปิดท้ายด้วยโปรแกรมทดสอบเครื่องอย่าง CINEBENCH ที่เน้นเรื่อง ของการประมวลผล CPU กันบ้าง ก็ได้คะแนนออกมาที่ 1,782 คะแนนซึ่งถือว่าแรงในระดับนึงเลยครับ

ทดสอบเล่นเกม

ส่วนในด้านการเล่นเกมก็ต้องลองกันซักหน่อยครับ โดยเราได้ทดลองเล่นเกมแบบหนัก ๆ เกินความสามารถของ Ultrabook ทั่วไปอย่างเกม Dark Souls III ดู ค่อนข้างกระตุกในระดับหนึ่ง แต่ก็ถือว่าพอเล่นได้ครับ ส่วนเกมภาพน่ารักอย่าง Ni No Kuni II: Revenant Kingdom อันนี้เล่นได้ลื่นไหลพอสมควรเลยล่ะครับ

และนอกจากนี้ผมได้สังเกตเห็นว่า หลังจากทดสอบเล่นเกมไปพักใหญ่ ๆ ตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนขึ้นมากนะครับ โดยอุณหภูมิของ CPU จะวิ่งไม่เกิน 75 องศาแม้ใช้งานหนักจริง ๆ ก็เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยนะครับสำหรับโน๊ตบุ๊คตัวบางแค่นี้

การรับประกัน

อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือเรื่องของการรับประกันครับ Acer Swift 3 มาพร้อมการรับประกัน 3 ปีเต็ม โดยเป็น On-Site Service ในปีแรก และมีบริการซ่อมไวใน 3 ชั่วโมงเมื่อส่งศูนย์บริการ ถือว่าตอบโจทย์ดีมากครับ

จุดสังเกต

จากที่ทดสอบไปทั้งหมด เรามาดูในเรื่องจุดสังเกตกันบ้าง สิ่งแรกที่ผมเห็นได้ทันทีเลยก็คือตรงพอร์ต USB ทางขวานี้ยังคงใช้เป็น USB 2.0 ซึ่งเป็นพอร์ตเก่าครับ อาจไม่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์บางชนิดได้ และมีความเร็วที่ค่อนข้างช้าสำหรับปัจจุบัน

และอีกเรื่องคือหน้าจอที่เป็นแบบ IPS ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการทำงานด้านกราฟิกโดยตรง ทำให้แสดงผลเฉดสีออกมาไม่ครบถ้วนเท่าไรนัก

ราคา

Acer Swift 3 Ryzen 4500U ตัวนี้มาพร้อมราคา 22,900 บาท และอีกรุ่นที่มาพร้อม CPU Ryzen 4700U จะอยู่ที่ราคา 25,900 บาท เรียกว่าคุ้มมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้โน้ตบุ๊กสเปคดี เครื่องบางแล้ว คุณยังได้
Windows 10 และ Office 365 Home and Student 2019 ที่ราคารวมกันเกือบหมื่นไปใช้ฟรี ๆ อีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน IT City และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศ

สั่งซื้อได้ที่นี่:https://www.itcityonline.com/products/CO6-008402

หรือโทรติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 02-656-5030

อัลบั้มภาพ รีวิว acer Swift 3 โน้ตบุ๊กโฉมใหม่ คุ้ม บาง ราคาเบา บน CPU Ryzen 4000 Series ภาพที่ 1 / 1

รีวิว acer Swift 3 โน้ตบุ๊กโฉมใหม่ คุ้ม บาง ราคาเบา บน CPU Ryzen 4000 Series

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

รีวิว MacBook Pro Apple M1 “ของโคตรดีย์ ไปซื้อเหอะ”

[Review] Intel Core I5-10600K สุดยอด CPU รุ่นกลาง พร้อมกับความแรงที่ไม่แพ้ใคร