[Review] Sony WF-SP800N หูฟังไร้สายทรงสปอร์ด ครบทั้งตัดเสียงและกันน้ำ ในราคาจับต้องได้
กลับมาพับกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ใน 2 ปีก่อนทีมได้รับ Sony WF-SP700N มารีวิว แน่นอนว่ามีหลายรุ่นที่ปรับปรุงจากรุ่นไร้สาย True Wireless ในก่อนหน้านี้ แต่ว่ามีจุดที่ต้องปรับปรุงในหลายเรื่องมากมาย จนสุดท้าย ออกมาเป็น Sony WF-SP800N มาดูกันว่าหูฟังรุ่นนี้จะปรังปรุงจากเดิมมากแค่ไหน
แกะกล่อง Sony WF-SP800N
สำหรับหูฟังของ Sony WF-SP800N จะมีดังนี้
- กล่องชาร์จ
- หูฟัง
- คู่มือ
- สายชาร์จไฟ USB-C
- จุกเปลี่ยนขนาดหูฟัง และ Shark Fin
รูปลักษณ์ดีไซน์ Sony WF-SP800N
เริ่มต้นกับกล่องเก็บกันก่อนดีกว่า เพราะเป็นสิ่งแรกที่เพื่อนๆ จะได้เห็นแน่นอน กล่องของมันมีจุดเด่นคือสีสันมีให้เลือกทั้งแบบเรียบและส้มอย่างที่เห็นอยู่นี้ ด้านห้นาจะมีไฟสถานการชาร์จไฟมาให้ด้วย
ส่วนฝาจะมีโลโก้ Sony
ใต้กล่องจะมีช่องชาร์จไฟแบบ USB-C
ส่วนด้านหลังจะมีบานพับสำหรับฝาหน้า น่าเสียดายที่ไม่มี NFC มาให้แล้วในรุ่นนี้
ส่วนการเปิดฝาสามารถทำได้ง่ายและตัวกล่องไม่ใหญ่เกินไป
ส่วนหูฟังนั้นด้านนอกจะมีดีไซน์เล็ก เหมาะกับการใส่หูได้ง่าย สามารถสั่งงานด้วยการแตะและมีให้เลือกทั้งสีขาว, ฟ้า, ส้ม และ ดำ
ใส่ง่ายพร้อมกับมี Sharkfin ล็อคกับหูแน่นหนา และใช้ออกกำลังกายได้ โดยหูเป็นแบบ In Ear นั่นเอง และสามารถถอดเปลี่ยนจุกได้ตามรูปแบบ พร้อมกับข้อความแยกข้างของหูฟังด้วย ส่วนแผงสีดำขนาดใหญ่คือเซนเซอร์จับการใส่หูฟังที่หู
แถมหูฟังออกแบบ IP55 สามารถถอดล้ายทำความสะอาด และกันฝุ่นได้
เปิดเครื่องลองฟังเพลงและดูฟีเจอร์ของ Sony WF-SP800N
สำหรับการ Pairing ครั้งแรก แค่ใส่กล่องที่หูฟัง เปิดโปรแกรม Sony Headphone Connect และเปิด Bluetooth ที่มือถือ เมื่อขึ้นมาให้เรากดเพื่อ Register กับมือถือ ก็สามารถต่อได้ทันที
ส่วนคุณภาพเสียงนั้นมีการปรับปรุงให้การทำงานมีความสมดุล และเสาอากาศเชื่อมต่อให้เกิดความเสถียรภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม แต่ยังคงคุณภาพเบสด้วย Extra Bass ให้เบสที่หนัก และยังรองรับ 360 Reality Audio ให้คุณภาพเสียงที่ดี แต่จะทำงานได้ต้องมีการปรับให้เข้ากับหูเราก่อน จะมีกระบวนการพอสมควร แนะนำว่าหาที่นิ่งๆ แลัวตั้งค่าดีกว่า
แต่การปรับปรุงของรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Digital Noise Canceling ระบบตัดเสียงที่ทำงานร่วมกับ Adaptive Sound Control เท่ากับหูฟังรุ่นนี้ยังสามารถตัดเสียงและรูปว่าช่วงจังหวะไหนสภาพแวดล้อมแบบไหนควรจะปรับเรื่องการตัดเสียงเช่น
- ถ้าอยู่นิ่งๆ จะระบบ Noise Canceling จะทำงานเต็มที่
- อออกำลังกายจะมีการให้สภาพแวดล้อมเข้ามาได้
- การวิ่งของอยู่ภายนอก ก็จะให้เสียงสภาพแวดล้อมเข้ามาเต็มที่
- รวมถึงการนั่งในรถสาธารณะ, การใช้นำทางเป็นต้น
ทั้งหมดสามารถกดสั่งงานผ่านปุ่มข้างซ้าย ที่ควบคุมทั้งการตัดเสียง, เปิดเสียงรอบข้างเข้ามา ในแบบ Quick Attention ส่วนด้านที่เหลือทั้งการโทร, การฟังเพลง, ระบบ Voice Assistant จะสั่งงานจากปุ่มข้างขวา
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับโปรแกรม Sony Headphone Connect ควบคุมหูฟังที่สามารถควบคุมระบบเสียง และการปรับตัดเสียงรบกวนได้เช่นเดียวกัน พร้อมกับสถานแบตเตอรี่ เช่นเดียวกัน
จากที่ได้ลองใช้โทรศัพท์พูดคุยสายกลับตอบสาย คมชัดกว่าเดิมกว่าเดิม เพราะรุ่นแรกนั้นมีปัญหาเรื่องการโทรพอสมควร แต่ถามว่าดีเลิศไหม แค่เกือบครับ อาจจะยังมีเรื่องของระบบไมค์ที่ต้องปรับปรุงต่อสักหน่อย
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
สำหรับหูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานต่อมากถึง 18 ชั่วโมง(กล่องชาร์จได้อีก 9 ชั่วโมง) แต่ตัวหูฟังจะฟังได้นานต่อเนื่องถึง 9 ชั่วโมง ทั้งนี้สามารถใช้งานได้ 13 ชั่วโมงด้วยกัน หากไม่ได้เปิดระบบเสียงรบกวนและ 26 ชั่วโมงรวมกับแท่นชาร์จ ดีกว่าเดิมเยอะมาก
ส่วนระบบชาร์จไฟนั้นสามารถเสียบกับที่ชาร์จ USB-C พร้อมกับ 1 ชั่วโมงก็เต็มแล้ว และสามารถ Quick Charge 10 นาที สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 60 นาที โดยเปิด ระบบ Noise Canceling ถือว่าอึดขึ้นและชาร์จไฟเร็วขึ้นกว่าเดิม
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน Sony WF-SP800N มาสักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากลอง Sony WF-SP800N ที่จะมาพร้อมกับการปรับปรุงที่น่าสนใจ ทั้งรูปทรงที่น่าใช้งานมากกกว่าเดิม ใส่ง่ายขึ้น มีจุกให้เปลี่ยนเยอะ แบตเตอรี่อึดมากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์มากมายไม่ว่าจะเป็น แถมมีระบบ Noise Canceling ที่ดีขึ้น ถ้ามองถึงข้อสังเกตอาจจะยังคงไม่เน้นการโทรมากนัก
อย่างไรก็ตามราคา ก็อัปเกรดขึ้นเป็น 6,490 บาท ราคาแม้จะแพงขึ้น แต่ว่าจะถูกใจคุณหรือไม่ลองไปใส่ฟังได้ด้วยตัวคุณเองที่ ตัวแทนจำหน่าย Sony ก่อนได้ แต่ถ้าคุณค้องการฟังเพลงและออกกำลังกาย นี่คือหูฟังที่คุณควรเลือกครับ
จุดเด่น
- หูฟังใส่ง่ายขึ้นและดูดีเหมือนกัน
- แบตเตอรี่อึดกว่าเดิม
- เทคโนโลยีเกี่ยวกับเสียงอัดแน่น
- คุณภาพเสียงดีขึ้นกว่าเดิมชัดเจน
- มีระบบ Noise Canceling
- มีหลากสีให้เลือก
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่ที่อยู่ในกล่องให้ไฟยังไม่เยอะเท่าคู่แข่ง
- ระบบตัดเสียงการโทรยังไม่ดีเท่าไหร่
- ไม่มี NFC มาให้แล้ว