รีวิว "realme Buds Air" หูฟัง True Wireless ดีไซน์ สีสันสดใสในราคา 1,999.-
กลับมาพบกับรีวิว Gadget โดยทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ในครั้งนี้ขอนำเสนอกับหูฟัง realme Buds Air ที่ถือว่าเป็นรุ่บนสุดและมาพร้อมกับสีสันที่น่าสนใจเพราะรุ่นที่ได้รับมานั้นเป็นมีเหลือสดใส และ realme Buds Air เป็นหูฟังในรูปแบบ True Wireless ที่มาพร้อมกับสเปกและฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการเชื่อมต่อที่ทำได้รวดเร็วผ่าน Google Fast Pair, รองรับการชาร์จไร้สาย, ใช้งานได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง...
- ตัวหูฟัง realme Buds Air พร้อมเคสชาร์จไร้สาย
- สายชาร์จแบบ USB Type-C
- คู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกันสินค้า
หูฟังที่มาพร้อมดีไซน์สวยในราคาประหยัด
realme Buds Air จะมาพร้อมกับเคสชาร์จแบบไร้สายที่มีตัวหูฟังอยู่ด้านใน ตัวเคสมีขนาด 51.3 x 45.3 x 25.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 42.3 กรัม ตัวหูฟังนั้นเป็นหูฟังแบบ Earbuds น้ำหนักในแต่ละข้างเบาเพียง 4.16 กรัม และยังมาพร้อมกับกล่องผลิตภัณฑ์สีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์ของแบนรด์ realme พร้อมพิมพ์ภาพ และชื่อของสินค้าเอาไว้ที่หน้ากล่องผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน
ตัวเครื่องด้านหน้าเป็นตำแหน่งของไฟแสดงสถานะ และปุ่มกดสำหรับใช้สำหรับ Pairing กับมือถือ
ด้านหลังตัวเคสมีสกรีน “Designed by realme”
ด้านล่างเป็นพอร์ตแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคส และข้อมูลต่างๆ ของตัวเครื่อง
มาต่อกันที่ส่วนของตัวหูฟังเป็นแบบ True Wireless หรือหูฟังไร้สาย จะเป็นลักษณะของ Earbuds คล้ายกับของ AirPods รุ่นปกติ แต่สิ่งที่แตกต่างคือเรื่องของความแน่นที่ตัวนี้สามารถใส่หูแล้วยังอยู่ พร้อมกับเซนเซอร์รอบตัว และตัวก้านจะสามารถกดสั่งงานได้
ด้วหูฟังด้านในจะมีเซนเซอร์และไมโครโฟนตัวที่ 2 ไว้สำหรับจับการใส่ที่หูและวัดเรื่องของเสียงที่หูพร้อมกับมีไมโครโฟนอีกตัวอยู่ที่ก้าน
ล่าสุดจะมีขั้วสำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่ กับกล่อง Charging Case และไมโครโฟนหลักสำหรับใช้สนทนา
เชื่อมต่อง่ายๆ แค่ครั้งเดียวฟังยาวไป
- เปิดสัญญาณ Bluetooth ที่สมาร์ทโฟน
- เปิดตัวเคสหูฟังและยังไม่ต้องนำหูฟังออกมาจากเคส
- กดปุ่ม Pair ที่ข้างหน้าตัวเครื่องค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จนไฟ LED สีเขียวกะพริบ
- ให้สมาร์ทโฟนเชื่อมต่อบลูทูธอุปกรณ์ในชื่อ "realme Buds Air"
เชื่อมต่อโดยการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟน เปิดฝาเคสชาร์จและนำเข้าใกล้สมาร์ทโฟน จะมีหน้าต่าง Pop-up ขอเชื่อมต่ออุปกรณ์เด้งขึ้นมา ให้กด Pair หลังจากนั้นสามารถใช้งานได้ทันที
การควบคุมต่างๆ
- แตะสองครั้งที่ตัวหูฟัง = เพื่อรับสายโทรศัพท์ / เล่น-หยุดเพลง
- แตะสามครั้ง = ข้ามไปเพลงต่อไป
- แตะค้างที่ตัวหูฟังข้างเดียว = วางสาย/ ตัดสายที่ไม่ต้องการรับอ
- แตะค้างสองข้างพร้อมกัน = เพื่อเปิด/ปิด Gaming Mode
ฟีเจอร์ใช้งานได้เหมือนกันทั้ง Android และ iOS ได้เวลาลองฟังกันแล้ว!
สำหรับใน iOS ยังเป็นการรใช้งานแค่เปิด ปิด และมี Gaming Mode เท่านั้น เพราะว่าโปรแกรมเชื่อมต่ออย่าง realme Link จะสามารถเชื่อมต่อกับ Android ได้เท่านั้น ความสามารถของโปรแกรมดังกล่าวสามารถดูทั้งปริมาณแบตเตอรี่, การตั้งค่าหูฟังเช่นการแตกแต่ละครั้งให้ทำอะไร รวมไปถึงการ Update Firmware ของตัวหูฟังอีกด้วย
ได้เวลาลองสวมใส่และฟังกันแล้ว!
การสวมใส่ ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบ Ear Buds ทำให้ใส่ได้ง่ายและอยู่ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องการใส่ ซึ่งความหนาแน่นอาจจะไม่เท่ากับกลุ่มหูฟังที่เป็นแบบ In Ear แต่ว่าก็ยังให้ความสบายและไม่ดันหูมากมายเท่าไหร่
ในเรื่องคุณภาพเสียง สิ่งที่ได้พบกับประสบการณ์ในการใช้หูฟัง realme Buds Air นั้นถือว่าให้คุณภาพเสียงที่สมกับราคาที่จ่ายไป โดยจะเน้นเบสหนัก กลางกำลังดี แต่ว่าสิ่งที่ขาดไปคือเสียงแหลมนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีผลกระทบอะไรมาก และตอบโจทย์ได้ครบไม่ว่าจะฟังเพลงหรือดูซีรีย์ คุณภาพของการโทรนั้นอาจจะต้องทำใจเพราะต้องอัปเดต Firmware ใหม่ ให้ระบบตัดเสียงรบกวนทำงานก่อน หากไม่ได้อัปเดต ระบบเสียงจะดูดเสียงรอบข้างมาบดบังหมด
การชาร์จไฟ / อายุการใช้งาน
สำหรับแบตเตอรี่ของ realme Buds Air สามารถใช้งานฟังเพลงได้ต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง ถือว่ายาวนานอยู่ และกล่องสามารถยืดอายุได้ 17 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จนอกจากรองรับ USB-C ที่ใต้เครื่องแล้ว ยังรองรับ Wireless Charging ด้วยในตัว นับว่าเป็นหูฟังไม่เกิน 2,000 บาท ที่ได้ที่ชาร์จครบเครื่องครับ
สรุปให้ realme Buds Air คุ้มหรือไม่สำหรับการเสียเงิน?
realme Buds Air ถือว่าเป็นอีก Gadget หูฟังรุ่นหนึ่งจาก Brand มือถือที่เป็นสิ่งที่เริ่มต้นในงบประมาณไม่ได้สูงมากนัก แถมยังได้โหมดเล่นเกมที่ตอบสนองเสียงแทบจะทันที อาจจะมีจุดด้อยในเรื่องการใช้งานโทรบ้างแต่ก็เป็นสิ่งที่เล็กน้อยครับ
realme Buds Air โดยรวมถือว่าเหมาะกับการใช้งานหลายแบบ ทั้งการฟังเพลงที่ทำได้สบาย การเล่นเกมที่ทำได้ดีเพราะ Gaming Mode รวมถึงการใช้สนทนาที่ใช้งานจริงจังได้ดีเลยทีเดียว realme Buds Air มีให้เลือก 3 สีคือ ขาว, ดำ และ เหลือง ราคาวางจำหน่าย 1,999 บาท