realme X50 Pro 5G เรือธงรุ่นใหม่ จะดีแค่ไหน?
มือถือกล้องหกเลนส์ จอใหญ่ สเปคแรง แบตอึด ชาร์จไวเป็นอันดับ ๆ ต่อ 5G ได้ ทั้งหมดนี้อยู่ในมือถือเครื่องนี้แล้วครับ realme X50 Pro 5G วันนี้ผมมารีวิวแบบละเอียดให้ฟังกัน
ภาพลักษณ์ภายนอก
เทรนด์ตัวเครื่องในปีนี้เป็นของสี Low Saturation หรือความอิ่มตัวของสีต่ำ realme X50 Pro ก็ทำสีเครื่องมาให้เลือกสองสีคือ Moss Green และ Rust Red ที่เรากำลังรีวิวอยู่ครับ จุดน่าสนใจคือมันจะดูทึบ ๆ แต่พอสะท้อนแสงฝาหลังจะมีแสงสะท้อนออกมาดูน่าค้นหาดีครับ สำหรับขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 8.9 มม. ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 208 กรัมครับ
ต่อกันที่รอบตัวเครื่อง ขอบเครื่องใช้กับสีเดียวกับฝาหลังดูเข้ากันดี ส่วนปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงอยู่ฝั่งซ้าย และปุ่มปลดล็อกอยู่ฝั่งขวา ตรงนี้พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-C ครับ และก็ขอแสดงความเสียใจกับสาวกหูฟัง 3.5 mm. รุ่นนี้ไม่มีมาให้ ตามเทรนด์มือถือยุคใหม่
ถัดไปด้านข้างเป็นลำโพงระบบเสียง Dolby Atmos ลองฟังกันเลยครับ อื้มเสียงดัง ฟังเพลงรายละเอียดเครื่องดนตรีมาครบ รวมถึงเสียงคนก็ได้ยินชัดด้วย
ใช้ 5G ได้แบบซิมคู่
และตรงนี้เป็นไฮไลต์ของรุ่นนี้เลยครับ ช่องใส่ซิมคู่ที่รองรับเครือข่าย 5G ในไทย จากการทดสอบด้วยซิม Ture 5G ตามจุดที่เขาปล่อยสัญญาณ เช่น สถานนี MRT วัดมังกร, แยกอโศก ผลทดสอบได้ความเร็วประมาณ 500 – 600 Mbps เร็วทะลุลิมิตกันเลยทีเดียว
หน้าจอ
พูดถึงเรื่องหน้าจอกันบ้าง realme X50 Pro 5G ใช้หน้าจอเจาะรู Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR10+ และช่วงสี DCI-P3 100% ที่แสดงสีตอนดูหนังได้อย่างสวยสดงดงามเลยครับ ด้าน Refresh Rate ก็อยู่ที่ 90Hz เวลาสไลด์ฟีด Facebook ที นุ่มละมุนตามาก
และในหน้าจอก็ยังมีการฝั่งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอ อันนี้สแกนได้ไวใน 0.27 วินาที ส่วนลำโพงสนทนาอันนี้ซ่อนอยู่ด้านบนครับ ไม่สังเกตไม่เห็นเลยนะครับ
กล้องหน้า
มาดูที่กล้องหน้ากันบ้างสำหรับ realme X50 Pro 5G เป็นกล้องหน้าคู่ Dual In-display Selfie กล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และกล้องมุมกว้าง Super wide-angle 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ภาพที่ได้จากกล้องหน้าคู่นี้ถือว่าสวยเลยทีเดียว เก็บสีผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนกล้องมุมกว้างก็เก็บภาพได้ดีไม่แพ้กัน แต่เรื่องความละเอียดนั้นอาจจะน้อยไปสักหน่อย
กล้องหลัง
ต่อด้วยกล้องหลังกันบ้าง realme X50 Pro 5G มีกล้องหลัง 4 เลนส์ ที่ครบเครื่องเลยทีเดียวครับ
ตัวกล้องหลักมีความละเอียดอยู่ที่ 64 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Samsung GW1 ที่นิยมใช้กันใช้กับมือถือหลายรุ่นเลยครับ คุณภาพรูปที่ได้ก็จัดว่าดี เก็บสีและความคมชัดได้ในระดับที่เห็นแล้วร้องว๊าว
ถัดมาเป็นกล้องมุมกว้าง Ultra wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองรับภาพ 119 องศา เก็บภาพได้กว้างสะใจเลยล่ะครับ และยังเป็นกล้อง Macro ในตัวที่โฟกัสได้ใกล้ 3 เซนติเมตรอีกด้วย
ส่วนกล้อง Telephoto อันนี้ก็มีมาให้ตามเทรนด์ครับ ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล ซูมแบบ Optical ได้ 5 เท่า และซูมแบบ Hybrid ได้ 20 เท่า ครับ โดยการซูม 5 เท่าภาพจะยังคมชัดอยู่ แต่พอซูมถึง 10 เท่าขึ้นไป ความคมชัดก็จะค่อย ๆ ลดลงเป็นเรื่องปกติครับ
และสุดท้ายเลนส์ Portrait ความละเอียด 2MP พร้อมฟิลเตอร์ B&W เลนส์ตัวนี้เอาไว้ใช้จับระยะเพื่อทำเอฟเฟคหลังละลาย จากภาพถ่ายที่ได้ก็ละลายเป็นธรรมชาติเลยล่ะ แต่ทำเอฟเฟคได้เฉพาะภาพนิ่งนะ ยังทำฉากหลังละลายในวิดีโอแบบ Real-time ไม่ได้
ด้านการถ่ายภาพกลางคืนก็ต้องใช้โหมด Nightscape 3.0 ครับ คุณภาพถือว่าดูดีเลยล่ะครับ
ดูเรื่องการถ่ายวิดีโอกันบ้าง กล้องหลังถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ยกเว้นเลนส์มุมกว้างที่ถ่ายได้แค่ 4K 30fps เท่านั้น ส่วนกล้องหน้าถ่ายได้ 1080p 30fps เท่านั้นครับ โดยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังก็มีระบบกันสั่น UIS ที่จัดว่านิ่งเกือบ ๆ เท่าไม้กันสั่นเลยครับ แต่ก็ต้องแลกกับมุมมองภาพที่แคบลง
สเปคต่าง ๆ ของเครื่อง
Realme X50 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 865 ที่มีโมเดม 5G ที่อยู่ใน realme X50 Pro 5G ความเร็วความแรงถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของปีนี้เลยครับ ส่วนแรมก็มีมาให้มาก 12GB เป็นแบบ LPDDR5 ที่เร็วและประหยัดไฟกว่าเดิม ด้านความจุตัวเครื่องมีมาให้ 256GB เป็นแบบ UFS 3.0 พร้อมเทคโนโลยี Turbo Write และ HPB ที่เร่งความเร็วได้ถึงขั้นสุด เร็วแค่ไหนเดี๋ยวผมทดสอบให้ดูในช่วงถัดไป
ด้านแบตเตอรี่ก็มีความจุอยู่ที่ 4200 mAh ใช้งานได้ตลอดวันแบตเหลือประมาณ 20-30% ครับ เรียกได้ว่าแบตอยู่ได้จนจบวันแบบสวย ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบชาร์จไวเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการมือถือ SuperDart 65W สามารถชาร์จแบต ฯ เต็ม 100% ได้ใน 35 นาที แม้แต่ตอนเล่นเกมไปชาร์จไป ก็ยังทำได้ดีใช้เวลา 30 นาที แบตขึ้นมาถึง 57% เลยทีเดียวครับ
ทดสอบประสิทธิภาพ
เหลาสเปกมาขนาดนี้แล้ว เราก็ต้องมาทดสอบกันบ้าง กองบรรณาธิการ #beartai ได้ทดสอบกับแอป ฯ Geekbench 5 ก็ได้คะแนนอยู่ที่ Multi-Core อยู่ที่ 3186 ส่วนคะแนนที่ได้จาก 3Dmark Sling Shot กวาดคะแนนได้ 8775 ถือว่าไม่ธรรดา ส่วนการอ่านเขียนข้อมูลก็ได้คะแนนจาก AndroBench อยู่ที่ 1769 MB/s สำหรับการอ่าน และ 759 MB/s ถือว่าสูงมากเลยทีเดียวครับ
มาทดสอบเรื่องการเล่นเกมกันบ้าง กองบรรณาธิการ #beartai ทดสอบเล่นด้วยเกมที่ใช้กราฟฟิกสูง ๆ อย่าง Sky: Children of the Light ก็เล่นได้สบาย ๆ ภาพลื่นไหล ต่อด้วยเกมที่กินสเปคหนักกว่าอย่าง Black Desert Mobile ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ ภาพลื่นหัวแตกเลย ส่วนเกมที่เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง ROV หรือ Free Fire ก็ลื่น ๆ ไม่มีปัญหาเลยครับ
แต่ที่น่าแปลกใจคือตอนเล่นเกมนาน ๆ หรือใช้งานหนัก ๆ realme X50 Pro เครื่องไม่ค่อยร้อนเท่าไรเลยครับอยู่ที่ประมาณ 32-43 องศา ถือว่า Vapor Cooling ระบบระบายความร้อนที่ใส่มาทำงานได้ดีมากครับ
ข้อสังเกต
เรามาพูดถึงข้อสังเกตกันบ้าง จากการลองใช้งานก็พบว่า กล้องมุมกว้างด้านหลัง ถ่ายวิดีโอได้แค่ 4K 30fps เท่านั้น และตัวเครื่องค่อนข้างหนา และค่อนข้างหนักสักเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นอื่น ๆ แต่ถ้ามองถึงสเปกที่ได้มา ผมรับได้ครับ
ราคา
ทาง realme วางราคาของ X50 Pro 5G รุ่น 12GB ความจุ 256GB ไว้ที่ 28,990 บาทครับ เรียกได้ว่าครบเครื่อง คุ้มค่าแบบนี้ ไปจัดกันเลย!