เปิดประสบการณ์ใหม่กับการได้ลองใช้งาน โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle
เมื่อไม่นานมานี้ Dyson ได้เปิดตัว Lightcycle Desk โดยเป็นโคมไฟรุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย และเป็นอีกนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยกับฟีเจอร์มามากย
วันนี้ทีม Sanook Hitech จะมารีวิวทดลองใช้งาจริงแล้วเล่าให้ฟังว่า โคมไฟหลักหมื่นตัวนี้จะน่าสนใจและดีจริงไหมกับฟีเจอร์ต่างๆ รอบตัวมากมาย
แกะกล่อง Dyson Lightcycle Desk
ภายในกล่องของตัวนี้จะประกอบไปด้วย
- Lightcycle โคมไฟตั้งโต๊ะ รุ่น CD05 สีขาว-เงิน
- Power Supply Unit (PSU)
- รวมถึงชุดติดตั้ง
- ใบรับประกัน
- คู่มือการติดตั้ง อยู่ที่ฝากล่องเป็นรูปบที่ชัดเจน
รูปร่างหน้าตาของ โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle
ตามสไตล์ของ Dyson ครับด้วยสินค้าของเขาเป็นสินค้าที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยม ดังนั้นกล่องของมันก็จะมาพร้อมกับความใหญ่และเวอร์วังเอาเรื่องอยู่ครับ
และกล่อง Dyson Lightcycle ที่เราเห็นตรงหน้าบอกจากมาพร้อมกล่องที่ใหญ่แล้วขนาดของน้ำหนักก็มากเหมือนกันโดยเจ้ากล่อง Dyson Lightcycle ขนาดกล่อง 99.5 x 282.5 x 80.9 มม. หนักถึง 5.77 กรัม เดี่ยวในรีวิวเราจะมาเฉลยว่าส่วนไหนของโคมไฟที่ทำให้หนักขนาดนี้
โดยชุดของ Dyson Lightcycle Desk ประกอบด้วยตัวเสาเป็นโลหะ ซึ่งเป็นขาสำหรับติดตั้งกับโต๊ะ
ต่อกันที่ส่วนของก้านหลอดไฟครับหรือตัวโคมไฟครับ
ตรงนี้เป็นส่วนของท่อทองแดงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า Heat Pipe ซึ่งช่วยลดความร้อนหลอด LED โดยดึงความร้อนผ่านท่อทองแดงที่ผนึกแบบสุญญากาศที่บรรจุของเหลวภายใน ปกป้องคุณภาพของแสงได้ถึง 60 ปี เรียกได้ว่านานมากครับ
ส่วนต่อมาเป็นพระเอกของเราครับโคมไฟที่เป็นอลูมิเนียมผสมกับพลาสติกนิดหน่อย
เมื่อเราพลิกส่วนของโคมไฟไปมาด้านแรกที่เราเจอจะเป็นแถบสีทองๆ มันคือ Heat Pipe ที่มาพร้อมความสามารถในการะบายความร้อน และเป็นตัวช่วยในการรักษาและระบายความร้อน ทำให้หลอดไฟอยู่กับเราได้นานๆ (เขาบอกว่าอยู่ได้นานถึง 60ปีครับ)
ต่อมาเมื่อเชื่อมต่อเป็นรูปร่างแล้ว ถ้ามองถึงการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟในบ้านก็ต้องพึ่งพา Adaptor เราสามาถเสียบปลั๊กกับเต้ารับด้วยปลั๊กมาตรฐานในประเทศไทยได้ ในส่วนของสายไฟจะมีความยาวประมาณ 3 เมตรนิดๆ ครับ
แต่ถ้าจะเสียบปลั๊กตรงก็จะดูไม่เรียบร้อย ดังนั้น Dyson ก็มีการออกแบบให้สายไฟซ่อนอยู่ใต้ฐานของโคมไฟตามรูปนี้ เพื่อความเรียบร้อย
การประกอบ Dyson Lightcycle สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะทั้งหมดไม่มีน๊อต เริ่มกันด้วยส่วนของฐานก่อน ด้วยการนำฐานตั้งไว้แล้วนำขาตั้งมาเสียบและล็อคให้อยู่กับที่ วิธีการล็อคใช้การหมุนโคมไฟนั่นเอง ดังนั้นใครก็สามารถประกอบโคมไฟนี้ใช้งานได้
อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าเราจะมาเฉลยกันในบทความว่าทำไมโคมไฟมันถึงได้ค่อนข้างหนัก ตัวที่ทำให้หนักก็คือฐานของโคมไฟครับ ตัวแกนสามารถหมุนโคมไฟได้ 360 องศาครับ
หลังจากนั้นให้คุณนำฐานมาปลดล็อคขั้วออกเพื่อให้ปลั๊กสามารถเสียบเข้าไปได้
ตัวสีวงกลมสีดำที่เราเห็นในกรอบเล็กๆ สีแดงเป็นตัวยึดฐานกับตัวโคมไฟนั้นเอง
ต่อกันที่การนำส่วนของแกนไฟมาประกอบกับตัวเสาหลัก
หัวของเสาที่มาพร้อมกับล้อและสปริง
โดยปุ่มกดจะอยู่ส่วนของไฟประกอบด้วย ปุ่มสำหรับเปิด / ปิด ถัดมาคือปุ่มสำหรับปรับระดับความสว่าง และ สีของไฟว่าจะเป็นแบบขาว หรือ สีส้มนวลตา และเราสามารถใช้นิ้วลากซ้าย–ขวา เพื่อสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ทันที
นอกจากสั่งเปิด / ปิด ได้แล้ว โคมไฟนี้ยังมี Sensor จับการเคลื่อนไหวของคน หากไม่มีใครอยู่ ไฟสามารถจะปิดเองโดยอัตโนมัติ และดูสภาพแสงของห้องได้ เป็นต้น
หลอดไฟเป็น LED คุณสมบัติพิเศษคือเปลี่ยนสีของไฟได้และให้ความสว่างยาวนาน ถูกเคลมว่าใช้ได้นาน 60 ปี
ชิ้นส่วนตรงนี้มันจะเกี่ยวกับการเลื่อนขึ้นลงของชิ้นหลอดจริงๆ คือใช้ปรับระดับความสูงหรือต่ำของหลอดไฟให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละประเภท แกนส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่ทำออกมาได้คูลมากครับ เพราะแค่เราเลื่อนขึ้น-ลง และปล่อยมันก็จะอยู่ในตำแหน่งนั้นโดยไม่ต้องมีตัวล็อกอะไรเลย!
เสาหลัก มันจะมี USB-C Port สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ เช่นคุณสามารถเสียบมือถือชาร์จไฟก็ได้ เท่ากับการออกแบบนั้นแม้จะไม่ได้ดูหน้าตาเหมือนกับโคมไฟทั่วไป แต่ว่าสิ่งที่ดูแล้วสามารถปรับแต่งได้เหมาะสมทั้งความแคบและกว้างสูงของตัวไฟเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าความพิเศษ ที่แตกต่างน่าสนใจ
ลองใช้งาน Dyson Lightcycle Desk ฉบับจริงๆ
นอกจากการออกแบบแล้ว เมื่อใช้งานจริงโคมไฟ Dyson Lightcycle Desk แล้วตัวโคมไฟเองมีคุณสมบัติพิเศษต่าง ไม่ว่าจะเป็น
เลือกแสงไฟที่เหมาะสม เพียงปลายนิ้วสัมผัส
โคมไฟสำหรับทำงาน Lightcycle™ ถูกออกแบบเพื่อให้ใช้งานแบบ ปรับเปลี่ยนได้ และง่ายดาย ปรับตามใจได้ด้วยมือ
การเคลื่อนไหวแบบ 3 Axis Glide™ ให้แสงไฟในจุดที่คุณต้องการ
แตะแขนโคมไฟเบาๆ เพื่อปรับตำแหน่งของไฟ ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และหมุนรอบทิศทาง 360 องศา ไม่มีสปริงหรือเดือยหมุนที่อาจจะหย่อนตัวเมื่อใช้ไปนานๆ และสามารถยืดเข้า ยืดออก เช่นเดียวกัน
ควบคุมด้วยการแตะแบบสไลด์
ควบคุมด้วยการแตะแบบสไลด์ ทำให้คุณสามารถปรับความสว่าง และอุณหภูมิสีได้ในแบบของคุณ
ปรับเปลี่ยนอย่างชาญฉลาด ด้วยการติดตามแสงธรรมชาติในพื้นที่ของคุณ "ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสี และความสว่างของแสงธรรมชาติในพื้นที่ที่คุณอาศัย - ให้แสงสว่างที่เหมาะกับช่วงเวลาของวัน"
ทั้งนี้ Dyson ออกแบบแสงให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่ผ่านการคำนวณด้วยอัลกอริทึม ที่มีการปรับเปลี่ยนตามเวลา โดยโคมไฟนี้มี GPS สามารถคำนวณแสดงที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
คุณภาพของหลอดไฟ
โคมไฟสำหรับทำงาน Lightcycle™ ใช้ระบบระบายความร้อนที่พบบ่อยในจานดาวเทียม ทำให้ LED เย็นลงอย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องคุณภาพของแสงได้นานถึง 60 ปี
ส่วนหัวแบบออพติคัลอันชาญฉลาดเปลี่ยนข้อมูล ให้กลายเป็นแสงไฟแบบไดนามิก
ควบคุมไดร์ฟเวอร์ออพติคัลอย่างอัจฉริยะ เพื่อปรับแสงหลอดไฟ LED แบบโทนอุ่น 3 หลอด และแบบเย็น 3 หลอด, ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสี และความสว่างให้เหมาะกับช่วงอายุ , กิจกรรม และ ช่วงเวลาของวันอย่างแม่นยำ
ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการมองเห็นสำหรับทำงาน หรือเรียน
ความสว่างถึง 1000 ลักซ์ พร้อมการป้องกันแสงจ้าและแสงกระพริบระดับต่ำ4 ที่เหนือกว่าระดับแสงมาตรฐานที่แนะนำสำหรับการทำงาน
ควบคุุมแสงสีฟ้า
ต่างจากแสงไฟส่วนใหญ่ที่มีแสงสว่างคงที่ โคมไฟสำหรับทำงาน Lightycle™ จะปรับเปลี่ยนอุณหภูมิ สีความสว่างตลอดวัน และควบคุมแสงสีฟ้า เพื่อให้สัมพันธ์กับแสงธรรมชาติในพื้นที่ที่คุณอยู่
ปรับความสว่างโดยอัตโนมัติให้เข้ากับอายุของคุณ
เมื่อเราอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อดวงตาของเราก็จะอ่อนแรงลง และ เลนส์แก้วตาก็จะยืดหยุ่นได้น้อยกว่าเดิม เราจึงต้องการแสงสว่างที่มากขึ้นถึง 4 เท่า3 โคมไฟสำหรับทำงาน Lightcycle™ ปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติเพื่อให้ระดับความสว่างที่เหมาะกับอายุของคุณ
การใช้งานผ่าน Dyson Link App
ด้วยความที่ Dyson Lightcycle เป็นอุปกรณ์แบบ Internet Of Thing จะต้องมีการเชื่อมต่อกับ Application ตลอดเวลาดังนั้นพวกเขาจึงมีโปรแกรมที่ชื่อว่า Dyson Link App มาเชื่อมต่อกับ โคมไฟนี้
เมื่อเราใช้งานครั้งแรกจะต้องมีการติดตั้งลงทะเบียนชื่อและเลื่อกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ โดยโปรแกรมนี้สามารถเชื่อมต่อทั้ง เครื่องฟอกอากาศ, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น, และโคมไฟ
หลังจากที่ลงทะเบียนเรียบร้อยเราสามารถตั้ง Profile ว่าโคมไฟนี้เป็นของห้องอะไรก็ได้และมีฟีเจอร์จับเรื่องขงอการเชื่อมต่อแต่ละที่จะให้แสดงผลไฟเป็นแบบไหนก็ได้ เรียกได้ว่ามันฉลาดพอตัว
หลังการตั้งค่าการเชื่อมต่อระหว่างโคมไฟกับ Dyson Link App เสร็จสิ้นเราพอเราเข้ามาในตัว Dyson Link App ก็จะเจอหน้าต่างของแอปพลิเคชั่นแบบนี้ ทั้งนี้หลักๆ แล้วหน้าแรกของแอปมันก็จะแสดงโหมดการทำงานปัจจุบัน โดยเราสามารถปรับค่าของสีไฟและความเข้มรวมไปถึงความสว่างได้โดยการเลือกที่โหมด Boost สำหรับงานที่ต้องการเพ่งมองให้ชัดเป็นพิเศษ โหมด Boost จะเพิ่มแสงที่สว่างจ้าและขาวมากกว่าปกติ
นอกจากนี้สามารถปรับโคมไฟได้ทั้งหมด 4 โหมดได้แก่
โหมด Precision : ช่วยเพิ่มความคมชัดในการมองเห็น3 ด้วยการกระจายกลุ่มแสงที่มีความเข้มสูง CRI (Color Rendering Index) หรือดัชนีชี้วัดความถูกต้องของสี มากกว่า 90 หมายความว่าสีจะถูกแสดงให้ใกล้เคียงกับคุณภาพของแสงธรรมชาติมากที่สุด
โหมด Study : ระดับแสงที่เหนือกว่า ระดับมาตรฐานที่แนะนำสำหรับการเรียน3 และปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสีให้สัมพันธ์กับแสงธรรมชาติในพื้นที่ของคุณ
โหมด Relax : ให้อุณหภูมิสีโทนอุ่นแบบผ่อนคลายด้วยความเข้มแสงต่ำ แต่ยังคงสว่างพอสำหรับการอ่านหนังสือ
แต่ทั้งหมดนี้ คุณสามารถเพิ่มรุปแบบต่างๆ ผ่านการกดปุ่ม Add ที่อยู่ขวามือ
ทั้งนี้ แอพฯ Dyson Link ยังฉลาดด้วยมันมาพร้อมความสามารถในการตั้งค่าอย่างชาญฉลาดตามอายุของผู้ใช้งาน การตั้งเวลานอน/ตื่นนอน และอื่นๆ อีกมากมายสำหรับการอัพเดทแอพฯ ในอนาคต ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าผ่านแอพฯ Dyson Link ได้ทันทีตามความต้องการ
บทสรุปของ โคมไฟอัจฉริยะ Dyson Lightcycle หลังได้ทดลองใช้งาน
ถือว่าเป็นอีก Gadget ที่ใช้งานได้จริงภายในบ้านคุณ มีความทันสมัยมาก และอายุของการใช้งานาวนาน เรียกได้ว่าเป็นอีก Smart Gadget ที่ถ้าเงินถึงน่าจะจัดสักตัว เพราะเราสามารถวางไว้ส่วนไหนของบ้านก็ได้ โดยที่ไม่รู้สึกว่าแปลกและกลายเป็นอะไรเก๋ๆ ที่ประกับของไป
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับความสว่างของไฟที่มาถึง 1000 Lumen ซึ่งทำให้เราได้แสงสว่างมากๆ และด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานมาพร้อมกับระบบสัมผัสคือดีย์ ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะเลย ด้วยความฉลาดของ AI หากเราไม่อยู่ในบริเวณนั้นเกิน 2 นาที Lightcycle Desk ก็จะจับสัญญาณและทำการปิดไฟอัตโนมัติ หากเรากลับเข้ามายังบริเวณนั้นตัว Lightcycle Desk ก็จะทำการเปิดไฟให้เช่นกัน(ถูกใจที่สุด)
อีกเรื่องที่อยากเล่าให้ฟังคือโคมโฟ Lightcycle Desk ตัวนี้มันสามารถปรับอุณหภูมิสี–ความสว่างให้เหมาะกับการใช้งานของเราได้อัตโนมัติด้วยครับไม่ว่ากิจกรรมของคุณจะเป็นเป็นทำอะไรมันก็สามารถปรับตัวได้นั้นทำให้สายตาของเราไม่ต้องทำงานหนักและล้า(โครตดี) ซึ่งถือเป็นจุดเด่นหลักของโคมไฟรุ่นนี้เลย
โดยราคาของ Lightcycle Desk วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วที่ราคา 18,900 บาท ถือว่าราคาอาจจะสูงพอสมควร แต่ว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีมากมายไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้สามารถปรับใช้งานได้ 360 องศา, ไฟปรับได้หลากหลายสีทำให้คุณเลือกการใช้งานได้หลากหลายแบบ ประหยัดพลลังาน แข็งแรงและใช้งานได้นาน 60 ปี แถมดีไซน์ที่สวยงาม ดูยังไงก็ไม่เบื่อ ก็ยังคุ้มค่าอยู่ครับ
ดูแบบนี้แล้วหากคุณสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ Dyson หรือสามารถไปทดลองกันได้ตามร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของ Dyson ในประเทศไทย