Fitbit เผยโฉม Sense, Versa 3 และ Inspire 2 นาฬิกาเพื่อสุขภาพสุดหรูหรา วัดความเครียดได้
ไม่นานมานี้ Fitbit หนึ่งในผู้ผลิต Smart Watch ได้เผยโฉมอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน มาพร้อมกับจัดเด่นมากมายในเรื่องการบอกข้อมูลในการออกกำลังกาย แต่รองนี้กลับมาให้เพิ่มฟีเจอร์ของ Heart Rate Sensor ให้แม่นยำกับ 3 รุ่นฮิตที่ปรับโฉมกันอีกครั้ง เริ่มจาก
Fitbit Sense
มาพร้อมกับดีไซน์เหมือนกับ Fitbit Versa แต่ว่าเน้นเรื่องของการบอกการเต้นของหัวใจและฟีเจอร์เกี่ยวกับเซนเซอร์ภายในอย่าง Electrodermal Activity Sensor หรือ EAD ที่จะแนบวัดทั้งเลือดและความเครียดของเราได้ด้วย พร้อมกับฟีเจอร์ ECG และมี SpO2 หรือการวัดปริมาณ Oxygen ภายในเลือดของเราได้
และนอกจากนี้ Fitbit Sense ยังมีฟีเจอร์มากมายเช่น
- สามารถเรื่องของค่าความเครียดได้ ถ้าเป็น Package Premium จะสามารถดูได้ลึกขึ้น
- นอกจากการนอนหลับที่สามารถบอกค่าต่างๆ แล้วยังมีคำแนะนำอยู่ใน Fitbit Premium ทำให้คุณภาพการนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น
- มีระบบ ECG ทำงานร่วมกับ Abid พร้อมแจ้งเตือนว่า Heart Rate ขอบคุณสูงหรือต่ำเกินไป
- บอกความร้อนที่ผิวหนังของคุณว่ามากเกินไปหรือไม่
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียงทั้ง Google และ Amazon Alexa
- หน้าจอ AMOLED ครอบบนกระจก Gorilla Glass 3
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ 6 วันและสามารถชาร์จไฟได้เร็ว โดย 10 – 80 ใช้เวลา 40 นาที
- กันน้ำ 50 เมตร
ราคาเปิดตัวของ Fitbit Sense อยู่ที่ 330 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 10,340 บาท
Fitbit Versa 3
รุ่นที่ 3 สำหรับ Smart Watch จาก Fitbit แต่สิ่งที่แตกต่างคือรุ่นนี้จะมีการเพิ่มไมโครโฟนและลำโพงทำให้สามารถส่งข้อความ หรือจะเป็นการโทรได้เช่นเดียวกัน พร้อมกับฟัง Playlist จาก Apps ฟังเพลงชั้นน้ำ รองรับ Fitbit Pay และอื่นมากมายเช่น
- ติดตั้ง GPS ในตัวและแสดงผลการออกกำลังกายรวมถึงแผนที่ในการวิ่งของคุณ
- เปิด GPS แบตเตอรี่จะอยู่ได้ 5 ชั่วโมง
- รองรับการสั่งงาน Google Assistant และ Amazon Alexa
- สามารถรับสายและให้เครื่องพูดข้อความได้
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่าเดิม
- Heart Rate แบบเดียวกับ Fitbit Sense
- มีให้เลือก 3 สี
- ทั้ง 2 รุ่นนี้เปลี่ยนหน้าปัดได้หลากหลาย
ราคาของ Fitbit Versa 3 เปิดตัวที่ 230 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 7,200 บาท
Fitbit Inspire 2
เป็น Wearable รุ่นเริ่มต้นในงบ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 3,500 บาท จุดเด่นที่รูปลักษณ์ที่เล็กแต่ให้แบตเตอรี่ยาวนานถึง 10 วัน รองรับการวัดสุภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากนี้ยังมีโหมดออกกำลังกายมากถึง 20 รูปแบบเช่นเดียวกัน
และยังเปิดการแจ้งเตือนหรือส่งข้อความออกโดยไม่ต้องเปิดที่มือถือเฉพาะ มือถือระบบปฏิบัติการ Android และมฟีเจอร์เพิ่มเติมดังนี้
- เป็นรุ่นที่ยังคง Concept ใส่เพื่อดูเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกายได้
- สามารถเข้าถึง Fitbit Premium ผ่าน Apps ได้ และให้ใช้ Fitbit Premium 1 ปี
- แจ้งเตือน Notification ได้
- แบตเตอรี่อยู่ได้ 10 วัน มากกว่ารุ่นเดิม 2 เท่า
- ปุ่มกดด้านข้างเปลี่ยนเป็นการแตะสัมผัส
- มีให้เลือก 3 สีและสีสันของสายมีให้เลือกหลากหลาย
นอกจากนี้สำหรับ Fitbit Premium ยังเพิ่มคำแนะนำในเรื่องของการใช้งานคำแนะนำในการออกกำลังกาย และยังมีข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องของโรค COVID-19 และให้คำแนะนำในการออกไปใช้งานในนอกบ้านได้ง่ายมากขึ้น สามารถใช้งานกับ Smart Watch ได้และสามารถใช้งานได้นาน 1 ปีแบบฟรีไม่ต้องเสียค่าบริการ
ส่วนราคาในประเทศไทยรอดูกันต่อไปคาดว่าไม่นานเกินรอจะเปิดตัวอย่างแน่นอน
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ