อัปเดต Windows 10 เวอร์ชัน 2004 อาจทำร้าย SSD ของคุณ
![อัปเดต Windows 10 เวอร์ชัน 2004 อาจทำร้าย SSD ของคุณ](http://s.isanook.com/hi/0/ud/301/1509417/6.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
ล่าสุดมีการรายงานว่า อัปเดต Windows 10 2004 ที่ปล่อยให้อัปเดตตั้งแต่ช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของ SSD ให้สั้นลงเพราะเครื่องมือ “Optimize Drives” ทำงานบ่อยเกินไป
![Windows 10 Devices](https://s.isanook.com/hi/0/ud/301/1509417/1509417-20200828050022-fbcf758.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ปัญหานี้เริ่มจากที่ผู้ใช้งานบางรายสังเกตว่าเครื่องมือ Optimize Drives ไม่สามารถบันทึกว่าระบบได้ทำการ defragment หรือจัดเรียงข้อมูลขอไดรฟ์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่บ้าง เป็นสาเหตุมาจากที่ระบบเริ่มทำการ optimize พื้นที่ของไดรฟ์เอง บ่อยเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งมันส่งผลโดยตรงต่ออายุขัยการใช้งานของ SSD
![windows 10](https://s.isanook.com/hi/0/ud/301/1509417/1509417-20200828050023-7591aac.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็บอกว่าการที่ระบบทำการ defragment บ่อย ๆ ก็ไม่ได้ส่งผลต่อ SSD อะไรขนาดนั้น แต่เป็นผลดีด้วยซ้ำ เราควรจะทำการ defragment อย่างน้อยเดือนละครั้ง
แต่ผลปรากฏว่าระบบจะทำการ optimize ตัว drive ทุกครั้งที่เชื่อมต่อกับระบบใหม่ หรือก็คือทุกครั้งที่เกิดการรีบูตเครื่อง หรือเปิดเครื่องใหม่ ส่งผลให้มันทำงานบ่อยกว่าปกติถึงราว ๆ 30 เท่า
![Seagate BarraCuda Fast SSD](https://s.isanook.com/hi/0/ud/301/1509417/1509417-20200828050025-0c6aabc.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg)
โดยทาง Microsoft ก็ได้รับทราบปัญหานี้แล้ว และออกแพตช์แก้ไปแล้วใน Windows 10 เวอร์ชันทดสอบ Insider program ในอัปเดต Windows 10 Build 19042.487 (20H2) ส่วนทางผู้ใช้งานทั่วไปยังต้องรอไปก่อน น่าจะไม่นานเกินรอ เราก็ขอแนะนำให้ปิดการทำ defragment อัตโนมัติไปก่อน
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ