[Review] vivo X50 Pro มือถือรุ่นท็อป พร้อมกล้องหลังติด Gimbal ตัวแรกของโลก
กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง ในครั้งนีทีมได้รับ vivo X50 Pro ซึ่งจัดว่าเป็นมือถือที่มีจุดเด่นในเรื่องของกล้องหลังที่มี Gimbal หรือ ระบบกันสั่น รอบทิศแบบกลไก มาทดลองใช้งาน มาดูกันว่ามือถือรุ่นนี้มีจุดเด่นที่น่าใช้แค่ไหน มาดูกัน
แกะกล่อง vivo X50 Pro
สำหรับภายในกล่องของ vivo X50 Pro จะมีรายละเอียดอะไรบ้างเรามาดูกันเริ่มต้นจาก
- ตัวเครื่อง vivo X50 Pro
- หูฟังแบบ USB-C
- ตัวแปลงหูฟัง USB-C เป็น 3.5 มิลลิเมตร
- ที่ชาร์จ Flash Charge 33w
- สายชาร์จ USB-C
- คู่มือ / ใบรับประกัน / เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
- เคสใส
รูปลักษณ์และดีไซน์ ของ vivo X50 Pro
เริ่มต้นกับด้านหน้าของเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอโค้งมนกับขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว ถือว่าออกแบบได้สวยและกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลที่ไว้ตรงมุมซ้ายมือ นอกจากนี้ยังได้พื้นที่หน้าจอถือว่าเยอะมากพอสมควร เพียงแต่ว่า ความละเอียด FHD+
ส่วนบนพบว่าหน้าจอมีกล้องหน้าอย่างที่บอกพร้อมกับสถานะของ Apps และมีเซนเซอร์ พร้อมกับ ลำโพงสำหรับใช้สนทนา เท่านั้น
ส่วนล่างของหน้าจอจะมีปุ่มสำหรับกดสั่งงาน หรือจะซ่อนได้ ทั้งหมดสามารถเข้าไปที่ ตั้งค่า (Setting) > การนำทาง (Navigation Bar) จะมีตัวเลือกดังนี้
- ปุ่มกดนำทางปกติ จะมี Recent (สำหรับเปลี่ยนโปรแกรมที่เปิดก่อนหน้านี้) > Home (กลับหน้าหลัก) > Back (ย้อนกลับ)
- ท่าทางการนำทาง คือการปัด ขึ้นครั้งเดียวคือการกลับหน้าหลัก, ปัดขึ้นค้าง = Recent, ปัดซ้าย หรือ ปัดขวา = ย้อนกลับ (Back)
รอบตัวเครื่องนั้นออกแบบได้บางเฉียบสวยงามกว่าทุกรุ่นของ vivo เลยก็ว่าได้ ประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายจะมีแค่เส้นของเสาอากาศเท่านั้น เพราะเป็นบอดี้โลหะนั่นเอง
ส่วนฝั่งขวามาพร้อมกับเป็นปุ่มกดสำหรับการเพิ่ม / ลดระดับเสียง และปุ่มสำหรับ เปิด / ปิดเครื่องครับ
ส่วนบนมาพร้อมกับการมีการติดข้อความว่าเป็น Profressional Photography, ไมโครโฟนตัวที่ 2
ส่วนล่างของเครื่องจะมาพร้อมกับ ช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่องด้วยกัน, USB-C และไมโครโฟน ตัวหลัก และ ลำโพงตัวเครื่องด้วยกันครับ
พลิกมาด้านหลัง ด้วยสีสันแบบ Alpha Gray ที่เป็นแบบผิวด้านที่วางรายละเอียดที่สวยงาม และมีกล้องหลังวางบนมุมซ้าย จะมีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน เลนส์ใหญ่สุด มาพร้อมกับเลนส์หลักที่เป็น Gimbal แต่ถ้าเจาะลึกกล้องลองดูใน Part ของกล้องด้านล่างได้ครับ และมีโลโก้ vivo ที่อยู่ตรงล่างสุดวางแนวนอนแบบเดียวกับกล้อง
ภาพรวมการออกแบบ / น้ำหนัก / สีสัน
จากที่ได้สัมผัสถือว่าเป็นอีกมือถือที่น้ำหนักเครื่องถือว่าเบาพอสมควร แม้ว่าจะได้หน้าจอที่ค่อนข้างใหญ๋ กล้องที่มาพร้อมกับ Gimbal ที่ยังไงแล้วส่วนนี้จะทำให้เครื่องหนักขึ้น แต่เมื่อลองถือใช้งานพบว่ามันเบากว่ามือถือทั่วไปเยอะพอสมควรเลยครับ
แต่ว่าสีที่มีจำหน่ายมีเพียงแค่สีเดียวคือ Alpha Gray เท่านั้น น่าเสียดายที่สีอื่น เคยเปิดตัวในประเทศจีนนั้นยังไม่ได้ออกมาเท่าไหร่
เปิดเครื่องลองใช้งาน vivo X50 Pro
สเปกของ vivo X50 Pro
- หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1080 x 2376 พิกเซล ขนาด 6.56 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
- ขนาดตัวเครื่อง: 158.46 x 72.8 x 8.04 มม.
- น้ำหนัก: 181.5 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 765G | Adreno 620
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 256GB
- หน่วยความจำภายนอก -
- การเชื่อมต่อ: 5G (Dual Mode), WiFi 802.11 AC (WiFi 5), Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.6 พร้อมกับระบบ Gimball
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 119 องศา F 2.2
- เลนส์ Periscope Zoom 5X ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Portrait 8 ล้านพิกเซล
- ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical
- แบตเตอรี่ความจุ: 4315mAh
- รองรับ vivo Fast Charge 33W (แบบสาย)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย FunTouch OS 10.5
- สี: เทา Alpha Gray
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / ทดลองเล่นเกม
คะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTU = 331,364 คะแนน
คะแนนประสิทธิภาพจาก Geekbench 5
เมื่อเห็นภาพรวมแบบนี้ ก็ถือว่าใช้ได้ดีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าถ้าสายอยากเล่นเกมโหด รุ่นนี้ผมว่าอาจจะยังไม่คณามือเท่าไหร่นะ แต่ก็ยังรับได้แค่ต้องปรับค่า Refresh Rate นิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม vivo X50 Pro มีฟีเจอร์ Game Management ที่ช่วยปรับประสิทธิภาพ, ปิดการแจ้งเตือน, ปรับโทรเข้า/ออก ให้เป็นกรอบเล็ก
การเชื่อมต่อไร้สาย / ลองใช้นำทาง
จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับ 5G รองรับคลื่น 2600 MHz ทำให้ใช้กับ AIS และ Truemove H และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ WiFi 802.11 AX (WiFi6), Bluetooth 5.1 เชื่อมต่อ A-GPS และ GPS ครบเครื่องที่น่าใช้ไม่เบา
การแสดงผล / ระบบเสียงของเครื่อง
หน้าจอของ vivo X50 Pro มาพร้อมกับ Panel แบบ Super AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ ถือว่ากำลังดีและให้สีสันที่สวยคมและตรงมากอีกรุ่นหนึ่ง
ส่วนระบบเสียงนั้นมีชิปเสียง AK4377A รองรับทั้งการเสียบหูฟัง และลำโพงตัวเครื่องให้เสียงที่ถือว่าดีกว่าคู่แข่งเล็กน้อยทำให้เครื่องมีเสียงแหลมกำลังดี แต่เบสอาจจะน้อยไปหน่อย
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่องที่น่าสนใจ / ระบบความปลอดภัย
ทางด้านฟีเจอร์ภายในของเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับ Android 10 พร้อมกับการครอบด้วย Funtouch OS 10.2.5 เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีการปรับเปลี่ยนที่เรียบง่ายพอสมควร รวมถึงสามารถเปลี่ยน Theme ได้ และมี Notification และ Quick Setting ปัดจากบนลงล่าง ไม่เหมือนรุ่นก่อนแล้ว
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจนอกจากเครื่องมือต่างๆ FunTouch OS 10.2.5 นะมีความโดดเด่นในเรื่องการสั่งงานด้วย 3 นิ้ว ทำให้ เช่นเวลาเปิด Apps จะแบ่งเป็น 2 หน้าจอได้, นำ 3 นิ้วลากลงหน้าจอ จะเป็นการ Capture Screen เป็นต้น ถือว่าเป็นอีกมือถือที่ให้เครื่องมือครบชนิดไม่ต้องโหลดเพิ่มเลยครับ
ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอแบบ Optical และระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D เท่านั้น
เปิดกล้องลองถ่ายด้วย vivo X50 Pro
สำหรับกล้องของ vivo X50 Pro มาพร้อมกับสเปกกล้องที่มาครบทั้ง 4 กล้องที่มากความสามารถประกอบด้วย
- 48 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูรับแสง F1.6, PDAF, GIMBAL
- 8 ล้านพิกเซล Periscope ซูมได้ 5 เท่าและรองรับการซูมได้ 60 เท่า
- 13 ล้านพิกเซล Ultra Wide มุมกว้าง
- 8 ล้านพิกเซล Portrait สำหรับละลายหลัง
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
ทั้งหมดรองรับ LED Flash และมีเซนเซอร์สำหรับวัดเรื่องของสีแบบความแม่นยำสูงพอสมควร
ความโดดเด่นของมือถือรุ่นนี้คือกล้องหลังแบบ Gimbal ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวจะหักเห มุมได้มากถึง 3 องศา จึงสามารถกันภาพสั่นไหวได้มากอยู่ แต่ก็มีข้อจำกัด ถ้าเกิดอยู่ที่สั่นสะเทือนมากยังคงสู้กับ Gimbal แท้ยากหน่อย และ แต่อย่างน้อยยังงสะดวกพกอยู่เหมือนเดิม
ส่วนกล้องที่เหลือเรียกได้ว่ามาครบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซูม, มุมกว้าง ละลายหลัง และสามารถถ่ายภาพในระยะใกล้ได้เช่นเดียวกัน
แล้วการทำงานจะเป็นอย่างไร เรามาดูกันดีกว่า
ฟีเจอร์ของกล้อง vivo X50 Pro
เมนูของกล้อง vivo X50 Pro นั้นจะเป็นโหมดของการถ่ายภาพนิ่งมีให้เลือกทั้งรูปแบบของเลนส์, ฟิลเตอร์ต่างๆ ทั้งการถ่ายภาพบุคคล, กลางคืน จะมี Effect ให้คุณได้เลือกใช้เหมือนเดิม นอกจากนี้ ในโหมดอื่นๆ ก็น่าใช้เช่นโหมดโปรฯ, ถ่ายเอกสารที่แม่นยำ เรียกได้ล้องหลังมาครบเรื่องการถ่ายภาพครับ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง vivo X50 Pro
สภาพกลางวัน ให้สีสันที่น่าสนใจไม่เบาเลยครับ เพราะว่าการรับแสงที่สว่างมากพอสมควรเลยครับ อย่างไรก็ตาม ก็มี ฟิลเตอร์หลากหลายแบบให้ได้เลือกใช้ครับ และยังซูมได้คมชัดถึง 60 เท่า
สภาพกลางคืน สำหรับภาพกลางคืนนั้นเนื่องจากรูรับแสง F1.6 ทำให้สามารถรับแสงได้ดีมากขึ้นและมี Effect สีที่ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนนั้นสวยและแตกต่างมากขึ้น
รูปแบบภาพแบบอื่นๆ ที่ลองถ่ายมา พบว่ารองรับการถ่ายภาพได้มากมายเช่น การเข้าใกล้, การถ่ายอาหาร บุคคล เป็นต้น
ลองถ่ายวิดีโอจากกล้อง vivo X50 Pro
นอกจากระบบกันสั่นของ vivo X50 Pro แล้วในเรื่องของการถ่ายวิดีโอของ vivo X50 Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 30FPS ได้สบาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เพิ่มให้ EIS ให้ระบบกันสั่นได้ดีมากขึ้น และ มีฟีเจอร์ Automatic สำหรับการซูมภาพอัตโนมัติ แต่ว่ารองรับความละเอียดที่ Full HD 30 FPS เท่านั้น
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ของ vivo X50 Pro เป็นอย่างไร
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดเล็กแต่ว่าภาพรวมของการถ่ายภาพที่สวยและมีปรับ Beauty Mode ที่สามารถปรับได้หลากหลายมากมาย และยังมีท่าทางต่างๆ ให้เราได้เลือกใช้ได้มากมาย ส่วนการถ่ายวิดีโอรองรับที่ความละเอียด Full HD
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
ขนาดแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มาพร้อมกับกำลัง 4315 mAh แม้จะไม่ได้ใหญ่เหมือนกับคู่แข่ง แต่การใช้งานหากไม่ได้เปิด 5G จะพบว่า สามารถใช้งานได้ทั้งวันแบบจัดหนักจะสามารถอยู่ได้ 9 ชั่วโมง ถ้าปิด 5G จะอึดกว่านี้
ส่วนระบบชาร์จไฟมาพร้อมกับกำลังที่ชาร์จไฟ 33W ที่ให้กำลังสูงอยู่ทำให้สามารถชาร์จไฟได้งานมากมายเลยทีเดียว แต่ว่า ถ้ามองถึงมือถือระดับราคานี้ก็ควรจะได้กำลังที่เยอะกว่านี้น่าจะดี
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน vivo X50 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง
เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่น่าสนใจเพราะว่า เป็นเครื่องที่มาครบทั้งรองรับ 5G, ถ่ายภาพได้ดี มี Gimbal ที่แสดงศักยภาพสูงพอสมควร ถ้าไม่ได้ใช้เกินขอบเขตเกินไป และดีไซน์เครื่องเบาสวยและน่าใช้อีกรุ่น เพียงแต่ว่าแบตเตอรี่ผมว่าน้อยไปทำให้ไม่สามารถใช้งานได้นานเท่าไหร่
สำหรับราคาของ vivo X50 Pro จะมาพร้อมกับราคา 24,999 บาท ถือว่าค่อนข้างสูงแต่ก็แลกกับสิ่งที่ได้มาผมถือว่ายังคุ้มค่าอยู่ หลายคนอยากให้เป็น Snapdragon 865 แต่ว่าถามาราคาก็จะแพงเกินไป มาจุดนี้ผมถือว่ารุ่นนี้ที่แม้ว่าจะแพง แต่ถ้าต้องการมือถือเน้นกล้องและต้องการความนิ่ง เป็นมือใหม่หัดถ่าย รุ่นนี้คือคำตอบที่ผมว่า ควรเก็บไว้เป็นตัวเลือกบนๆ ครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบาประกอบแน่น
- รองรับ 5G
- กล้องหลังครบเครื่องและสเปกดีงาม
- Gimbal ป้องกันภาพสั่นไหวได้ดี (ถ้าใช้ไม่เกินขอบเขต)
- ฟีเจอร์ครบเครื่อง
- รองรับ Dual SIM
ข้อสังเกต
- ราคาของเครื่องถือว่าค่อนข้างสูง
- ลำโพงมีตัวเดียวเท่านั้น
- แบตเตอรี่ค่อนข้างน้อย
อัลบั้มภาพ 25 ภาพ