รีวิว “Dyson Digital Slim” นิยามใหม่ของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่เบาที่สุดแค่ 1.9 กิโลกรัม
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่เบาที่สุดของ Dyson ตั้งแต่มีมา!! Dyson Digital Slim เครื่องเล็ก น้ำหนักเบา แต่ประสิทธิภาพการทำความสะอาดเหนือชั้นรุ่นล่าสุด ที่โดดเด่นด้วยเรื่องของน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ชาวเอเชีย
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ Dyson Digital Slim
ผลิตภัณฑ์ได้ถูกออกแบบมาให้เข้ากับวิถีชีวิตของชาวเอเชีย Dyson ได้มีการศึกษาโดยนำผลิตภัณฑ์ไปทดลองใช้ในบ้านตัวอย่างอย่างหลากหลาย เพื่อทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมการทำความสะอาดและกฎการทำงานต่าง ๆ ของเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย นักวิศวกรของ Dyson ค้นพบว่าชาวเอเชียมีแนวโน้มที่จะทำความสะอาดบ้านเรือนบ่อย
โดยเฉพาะพื้นบ้านที่เป็นแบบแข็งจะต้องการการดูดฝุ่นที่ละเอียดและมีประสิทธิภาพ ในการพัฒนาเครื่องดูดฝุ่น Dyson Digital Slim นักวิศวกรของเราได้โฟกัสถึงการผลิตเครื่องดูดฝุ่นให้มีน้ำหนักเบามากที่สุด เพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมการทำความสะอาดของชาวเอเชีย โดยออกแบบด้ามจับให้สั้นลง ใช้งานสะดวกเหมาะกับคนตัวเล็ก พร้อมกับพลังการดูดอย่างดีเยี่ยมเพื่อมอบความสะอาดอย่างไร้ที่ติ
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- ตัวเครื่องพร้อม Dyson Digital Slim
- ท่อเหล็กสีม่วง
- อแดปเตอร์สำหรับชาร์จ
- หัวทำความสะอาดแบบ Slim Fluffy
- หัวทำความสะอาด Light Pipe หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง
- หัวดูดแบบแปรงดูดฝุ่น 2 in 1
- หัวดูดแบบหัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก
- คลิปล็อกเก็บด้ามดูด
- แท่นจัดเก็บอุปกรณ์
- คู่มือการใช้งาน 3 ภาษา
Dyson Digital Slim เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีขนาดบาง ทั้งยังเบาขึ้น 30% และเล็กลง 20% เมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่น Dyson V11™ พร้อมแรงดูดคงที่ยาวนานสูงสุด 40 นาที เทคโนโลยีสุดล้ำของ Dyson ที่ถูกนำมารวมไว้ด้วยกัน
Dyson Digital Slim เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ Hyperdymium อันทรงพลังและการทำงานของไซโคลนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงแผ่นกรองคาร์บอนที่ช่วยดักจับฝุ่นได้อย่างหมดจด
ตัวเครื่องน้ำหนักเบาและด้ามจับที่เล็กลง
ในขณะที่ตัวเครื่องของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11 จะประกอบด้วย 2 ชิ้น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim จะมาในรูปแบบชิ้นเดียว ไม่มีแยกส่วนประกอบและมีน้ำหนักเบากว่า ด้ามจับมีขนาดสั้นลง 15 % และบางเพียง 6.3 mm เปรียบเทียบกับ Dyson V11
หัวแปรงทำความสะอาดแบบนุ่มใหม่ เบากว่าถึง 40% และมีขนาดเล็กว่า 20%
นักวิศวกรของ Dyson ได้เย็บเชื่อมแผ่นกรองคาร์บอนไฟเบอร์กับหัวทำความสะอาดเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้กาว เพื่อทำให้มีน้ำหนักที่เบาลง แม้ว่าจะมีการปรับขนาดลงแต่เครื่องดูดฝุ่น Dyson Digital Slim ยังคงมีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นใกล้เคียงกับรุ่น Dyson V11 โดยสามารถดักจับเศษขยะขนาดใหญ่และฝุ่นขนาดที่เล็กมากได้พร้อมกัน
กระแสลมที่ผ่านทางหัวทำความสะอาดมีการออกแบบใหม่เพื่อปรับทิศทางลมให้เหมาะมากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับหัวมุมแปรงให้เรียบเพื่อสร้างทางการไหลเวียนของลมจากพื้นสู่หัวทำความสะอาดได้ดี ช่วยมอบประสิทธิภาพการทำความสะอาดตามขอบและมุมได้ดีขึ้น
แม้จะถูกย่อส่วนให้เล็กลง เบาลงแต่ Slim Fluffy ทำความสะอาดพื้นได้ไม่แพ้รุ่นพี่ๆ แถมยังทำความสะอาดได้แบบขอบจรดขอบ
ตัวแรกเป็นหัวดูดทำความสะอาด Slim Fluffy™ ที่เล็กลง 40% และเบาลง 40% ผลิตจากพลาสติก ABS ที่คงรูปได้ดีเพื่อความแข็งแรงและความเบา หัวดูดทำความสะอาด Slim Fluffy™ ใช้ไนลอนถักแบบนุ่มเพื่อดักจับสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ ในขณะที่ขนแปรงคาร์บอนไฟเบอร์ต้านไฟฟ้าสถิตสีดำจะปัดอนุภาคขนาดเล็กออกจากพื้นแข็ง
หัวดูดทำความสะอาด Slim™️ Fluffy
และอีกจุดเด่นของหัวตัวแรกคือมันถูกออกแบบมาให้ดูดจับฝุ่นผงขนาดเล็กและผมเส้นยาว และการทำความสะอาดอย่างหมดจดเฉพาะจุด ขนแปรงเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ต้านไฟฟ้าสถิตย์แบบนิ่มขจัดฝุ่นขนาดเล็กจากซอกมุม พร้อมกับปกป้องพื้นไม้
หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง
หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง ช่วยดูรายละเอียดง่ายขึ้น
หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง มีไฟ LED ที่ส่องให้เห็นว่าคุณกำลังทำความสะอาดในจุดไหน แม้แต่ในพื้นที่มืด ช่วยทำความสะอาด ทั้งข้างบน ข้างใต้ และทุกๆ ซอก ทุกมุม
หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก ทำความสะอาดทรงพลังแบบ 3-in-1
อุปกรณ์ทำความสะอาดทรงพลังแบบ 3-in-1 ที่สามารถทำความสะอาดได้ทั้งพื้นบ้าน ที่นอน และบริเวณอื่น ๆ ที่ยากต่อการเข้าถึง แรงดูดอันทรงพลังช่วยขจัดฝุ่นและอนุภาคที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจากเบาะที่นอน
หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก
หัวดูด 2 in 1
ของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson สามารถใช้ดูดฝุ่นได้ทั่วทั้งบ้านตามจุดที่ต้องการ พร้อมขนแปรงปรับเข้า-ออกได้ เพื่อช่วยถนอมบริเวณที่ดูดฝุ่น เช่น คีย์บอร์ด ทีวี หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
หัวดูด 2 in 1
แท่นจัดเก็บอุปกรณ์หรือแท่นติดผนัง เป็นอุปกรณ์เสริมที่ให้มา มันสามารถนำมาประกอบเข้ากับผนังบ้านได้เพื่อให้เราสามารถจัดเก็บเครื่องดูดฝุ่น Dyson Digital Slim ได้ง่ายๆ ช่วยเพิ่มพื้นที่ไม่ต้องวางแบบระเกะระกะ ตัวเครื่องสามารถวางลงได้พอดีกับแท่นชาร์จติดผนังพร้อมสำหรับการทำความสะอาดในครั้งต่อไปของคุณ
ประกอบติดกำแพงแล้วจะออกมาแบบนี้ครับ แต่จุดนี้ผมใช้ภาพประกอบของ www.dyson.co.th นะครับเพราะไม่อยากเจาะกำแพงบ้าน
ทดลองเปิดเครื่องใช้งาน พร้อมทดสอบฟังก์ชันต่างๆ
เริ่มกันที่หน้าจอ LCD ที่สามารถแสดงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ สามารถแสดงประสิทธิภาพการทำงานในปัจจุบัน และระยะเวลาการใช้งานที่เหลืออยู่ ทำให้ควบคุมการทำความสะอาดได้สะดวกยิ่งขึ้น
สับเปลี่ยนไปมาระหว่างโหมดพลังทั้งสามได้อย่างสะดวกสบาย Dyson Digital Slim มาพร้อมกับหน้าจอ LCD แสดงเวลาการทำงานคงเหลือของเครื่อง พร้อมข้อมูลอื่นๆ แบบเรียลไทม์ เช่น โหมดพาวเวอร์ ตัวแจ้งเตือนการดูแลรักษาตัวกรอง และรายงานปัญหาการอุดตัน
- โหมด Eco ใช้งานได้สูงสุด 60 นาที เหมาะสำหรับการดูดทั่วไป ใช้หัว Slim Fluffy แบตจะอยู่ได้นานมากกว่า 40 นาที สามารถทำความสะอาดที่ยาวนานขึ้นบนพื้นทุกประเภท
- โหมด Med ใช้พลังระดับกลาง แบตอยู่ได้มากกว่า 25 นาที
- โหมด Boost แรงพิเศษ ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกสำหรับฝุ่นที่ฝังแน่นแบตจะใช้งานได้ 5 นาทีเท่านั้น เพราะต้องใช้แรงดูดสูงตัวอย่างเช่นที่นอนครับ
- โหมดแจ้งเตือนการดูแลรักษา ที่แจ้งเตือนให้คุณทำความสะอาดตัวกรองเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และแจ้งให้ทราบหากเกิดการอุดตันและแนะนำวิธีการแก้ไข
ระบบทิ้งฝุ่นแบบ Point and Shoot ที่ถูกสุขลักษณะ
ระบบทิ้งฝุ่นแบบ ‘point and shoot’ ที่ถูกสุขลักษณะแบบเทลงถังทันทีในขั้นตอนเดียว คุณจึงไม่ต้องสัมผัสโดนฝุ่นเลยแม้แต่น้อย
ทำความสะอาดง่าย ถอดออกมาล้างได้สะดวกไม่ต้องกลัวพัง!
ถังเก็บฝุ่น ตัวกรอง หัวดูดทำความสะอาด Slim Fluffy™ และอุปกรณ์ต่างๆ สามารถล้างทำความสะอาดได้
ชุดแบตเตอรีแบบถอดใส่ได้ง่ายๆ คลิกเดียว
แบตเตอรี่แบบถอดใส่ได้ เพื่อพลังการทำความสะอาดที่ยาวนานขึ้น
ถอดออกและเปลี่ยนใส่อันใหม่ได้เพียงแค่กดปุ่ม ฐานแบตเตอรี่สามารถถอดได้ ใช้งานได้ 40 นาทีในโหมดประหยัดพลังงานและใช้งานได้ 5 นาทีโหมด Boost ใช้เวลาราว 3.5 ชั่วโมงในการชาร์จ เพื่อพลังการทำความสะอาดที่ยาวนานขึ้นกว่าเดิมชุดแบตเตอรีแบบถอดใส่ได้สามารถชาร์จได้ทั้งกับตัวเครื่องและแท่นชาร์จ
คุณสมบัติทางวิศวกรรมอื่น ๆ ในเครื่องดูดฝุ่น Dyson Digital Slim ตรงนี้เข้าใจยากหน่อยแต่อยากเอามาฝากให้ได้อ่านกัน
ตัวไซโคลน 11 ชั้น ใน 100,000g ของไซโคลน 11 ตัวได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พอดีกับตัวเครื่อง ทำให้แน่ใจว่าจะสามารถกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากกระแสลมได้เป็นอย่างดี รัศมีที่กว้างขึ้นจะช่วยลดการสูญเสียพลังงาน
การหมุนเวียนของอากาศในมุมสัมผัสที่น้อยลงช่วยลดแรงต้านของอากาศ เมื่อตัวไซโคลนแคบลง อากาศจะถูกเร่งความเร็วเพื่อสร้างแรงเหวี่ยงที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้
ไซโคลนที่ทำงานเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ตัวเครื่องไม่สูญเสียแรงดูด เนื่องจากฝุ่นที่มีขนาดเล็กจะไม่ถูกดันไปยังตัวกรองมอเตอร์ทั้งหน้า/หลัง ไซโคลนที่มีประสิทธิภาพพร้อมด้วยมอเตอร์ Hyperdymium อันทรงพลังช่วยสร้างกระแสลมได้อย่างต่อเนื่อง
สรุปผลการทดสอบของ Dyson Digital Slim
เรื่องแรกที่ต้องพูดถึงคงไม่พ้นการปรับขนาดและน้ำหนักทีมวิศวกรของไดสันได้พยายามพัฒนามันขึ้นมาใหม่ให้เหมาะสำหรับสาวๆ ชาวเอเชียอย่างเราด้วยการปรับน้ำหนักให้เบากว่ารุ่นก่อนถึง 30% ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น ส่วนเรื่องดีไซน์ของมันคงไม่ต้องพูดถึงเพราะชื่อของไดสันเชื่อขนมกินได้เลย
อีกเรื่องที่ต้องบอกว่าดีและถูกใจมากคือในเรื่องของการบำรุงรักษาของเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้นั้นไม่ยุ่งยาก เพราะตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นตามแถบแปรง ตัวถัง ตัวกรองมอเตอร์ และอุปกรณ์ที่มีไฟสามารถล้างทำความสะอาดได้ทั้งหมด
ต่อกันที่ตัวแบตเตอรี่สามารถถอดออกได้และมีความทนทาน อีกทั้งแบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้นั้นจะทำให้ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 80 นาทีในโหมดประหยัดพลังงานเลยทีเดียว จริงๆ เรื่องนี้ Dyson Digital Slim สามารถทำได้ตามมาตรฐานของตัวเองอยู่
ต่อกันที่เรื่องสุดท้ายที่หลายๆ คนกังวลคือเรื่องเสียง จุดนี้ขอบอกได้เลยว่า Dyson Digital Slim สามารถทำเสียงได้ประทับใจมากๆ แน่นอนว่าบ้านไหนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวน้องๆ ไม่วิ่งหนีแน่นอน
เอาเป็นว่าหากใครสนใจหรือกำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นเครื่องใหม่ไว้ใช้งานแล้วละก็อยากให้ลองเดินเข้าไปเล่นเจ้า Dyson Digital Slim ที่ศูนย์บริการใกล้บ้านดูนะครับ ที่นั้นมีพนักงานที่มีความรู้ความสามารถค่อยแนะนำตลอดเวลา
เอาเป็นว่าเรื่องของราคาก็ส่วนหนึ่งที่หลายคนอาจจะกังวลเพราะส่วนตัวผมว่ามันก็ค่อนข้างสูงพอสมควร แต่หากคุณได้ทดลองเล่นและใช้งานมันดู ผมเชื่อว่าคุณอาจเป็นใจและไม่ลังเลในการมีเครื่องดูดฝุ่น Dyson ดีๆ ไว้ใช้งานที่บ้าน!
เครื่องดูดฝุ่น Dyson Digital Slim มีวางจำหน่ายในราคา 19,900 ที่เว็บไซต์ www.dyson.co.th และร้าน Dyson Demo สาขา เซ็นทรัล เวิลด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว สยามพารากอน และ ไอคอนสยาม