[Review] Samsung Galaxy Z Fold2 5G มือถือพับได้สุดล้ำที่ปรับปรุงข้อเสียจนน่าใช้มากขึ้น

[Review] Samsung Galaxy Z Fold2 5G มือถือพับได้สุดล้ำที่ปรับปรุงข้อเสียจนน่าใช้มากขึ้น

[Review] Samsung Galaxy Z Fold2 5G มือถือพับได้สุดล้ำที่ปรับปรุงข้อเสียจนน่าใช้มากขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง สำหรับครั้งนี้ทีมได้รับมือถือสุดแพงและล้ำสุดจาก Samsung มาทดลองใช้นั่นคือ Samsung Galaxy Z Fold2 5G เรามาดูกันว่ามือถือรุ่นนี้กับราคาเกือบ 7 หมื่นบาท เรามาดูกันดีกว่า 

เปิดกล่อง Samsung Galaxy Z Fold2 5G 

ภายในกล่องสุดหรูของ Samsung Galaxy Z Fold2 5G ที่ออกแบบไม่อย่างดีประกอบไปด้วยรายละเอียดที่ครบครันไม่ว่าจะเป็น 

  • Samsung Galaxy Z Fold2 5G 
  • คู่มือ / ใบรับประกัน 
  • สายชาร์จ USB-C to USB-C 
  • ปลั๊กชาร์จไฟ 25W 
  • เข้มจิ้มถาดใส่ซิม

แต่น่าเสียดายไม่ให้เคสมาให้ทำให้รู้สึกว่าเสี่ยงเหมือนกันที่จะถือ แต่ถ้าอยากได้คงต้องซื้อแยกต่างหากไปครับ 

รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Samsung Galaxy Z Fold2 5G 

เริ่มต้นกับดีไซน์หน้าตาที่มีหน้าตาสวยงามตามท้องเรื่อง กับขนาดหน้าจอ 6.26 นิ้ว เมื่อพับ และมีกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล หน้าจอของ Samsung Galaxy Z Fold 2 จะได้หน้าจอแบบ Super AMOLED คมชัดอดอยู่ แนวยาว ดูแล้วน่าใช้กว่า ไม่น้อย แต่ถ้าต้องใช้นำทางมองไปแล้วมันจะเล็กไปหน่อย 

batch_fz-dsc03627

ส่วนบนของด้านหน้าจะมีกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Ear Peach ไว้สนทนา และ icon การแสดงผล 

batch_fz-dsc03628

ส่วนล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มกดเมนูต่างๆ สะดวกใช้งาน วิธีการเปลี่ยนให้เข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) >Display (หน้าจอ) > Navigation Bar (แถบการนำทาง) สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบ ได้แก่

batch_fz-dsc03629

เป็นแบบปุ่มกดปกติที่เปลี่ยนรูปแบบได้ ค่าเริ่มต้นคือ Recent Apps, กลางคือ Home และ ขวาสุดคือ Back หรือ ย้อนกลับ และมีอีกแบบบให้เลือกตามภาพครับ  

ปุ่มกดที่เป็นแบบปัด จะมีการเปลี่ยนแปลงคือ   

  • ปัดตรงกลางขึ้น 1 ครั้งเท่ากับกลับหน้า Home  
  • ปัดตรงกลางขึ้นค้างไว้ จะกลับไปหน้า Recent Apps  
  • ปัดข้างซ้ายหรือขวาของหน้าจอ จะเป็นการย้อนกลับ  

หากไม่สะดวกจะใช้ 3 Tab แบบเดิมก็ได้ (ซ้าย = Recent Apps, กลาง = Home, ขวา = Back) และยังสามารถเลือกความไวได้ด้วย 

 

รอบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุโลหะทั้งหมดที่ดูดี โดยเฉพาะสี Mystic Bronze ที่ได้มาทดลองครั้งนี้ทั้งหมดจะประกอบไปด้วย ฝั่งซ้าย ฝั่งซ้ายจะเป็นบานพับที่สวยงาม ภายในส่วนนี้จะมีแปลงทำความสะอาดที่ซ่อนไว้ภายใน และยังสามารถเลือก Custom สีขอบได้หากซื้อกับทาง Samsung.com เท่านั้น เลือกได้ถึง 4 สีด้วยกัน 

batch_fz-dsc03621

ฝั่งขวาจะมี ปุ่มกดรวมถึงระบบสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งรวมกับปุ่ม Side Key จะอยู่ทางขวา และปุ่มเปิด ระดับเสียงมาให้ และส่วนบนของหน้าจอจะมีช่องใส่ NanoSIM  

batch_fz-dsc03641

batch_fz-20201013_134724

ส่วนบนและล่างจะมีลำโพงติดกับหน้าจอนอกจาก แต่ถ้าอีกฝั่งนั้น ด้านบนจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนมาให้  

 batch_fz-dsc03625

ส่วนด้านล่างมีไมโครโฟนสำหรับสนทนา และ USB-C  

batch_fz-dsc03623

พลิกมาด้านหลังจำเป็นกระจกแบบ Galaxy Note20 Ultra แต่ถ้าวางกับโต๊ะเหล็กก็จะดูดติดได้เหมือนกัน ในส่วนนี้มีกล้องติดมาให้ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ฝั่งด้วย NFC, Wireless Charge ภายใน 

batch_fz-dsc03620

และเมื่อกางออก หน้าจอขนาด 7.6 นิ้วถือว่ากว้างอลังการมา โดยความละเอียดหน้าจอถือว่ากว้างมาก และให้ความละเอียด 2208x1758 พิกเซล และเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X มีค่า Refresh Rate 120 Hz ทั้งนี้บานพับสามารถปรับเป็น Flex Mode ได้ 

batch_fz-dsc03631
batch_fz-dsc03637
batch_fz-dsc03638

ภาพรวมการออกแบบ  

batch_fz-dsc03652

ต้องบอกว่ามือถือรุ่นนี้มี 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่กางจะเป็นแท่งที่ถือได้ง่ายทุกอย่างกดได้พอดีแต่ก็จะแคบกว่ามือถือทั่วไปพอสมควร แต่ถ้ากางออกด้วยความที่มันกว้างมากทำให้การกดอาจจะต้องเลือกรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสม ในส่วนนี้ดูรายละเอียดในลำดับถัดไป ทั้งนี้หน้าอจเวลาสัมผัสจะฝืดมือหน่อย เพราะฟิล์มกันรอ แนะนำว่าใช้แบบนี้ต่อไปดีกว่า ห้ามลอกฟิล์มออกเด็ดขาด!!!!!!! 

batch_fz-20201008_173751

และน้ำหนักของเครื่องถือว่าเยอะอยู่แต่เยอะที่เข้าใจได้คือ มันมีกลไกของเรื่องที่ใหญ่เหมือนกันครับ ส่วนสีสันจะมีให้เลือก 2 สีคือ น้ำตาล Mystic Bronze, ดำ Mystic Black 

เปิดเครื่องลองใช้งาน Samsung Galaxy Z Fold2 5G 

รายละเอียดสเปกของ Samsung Galaxy Z Fold2 5G 

  • สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : (ก่อนกาง) 159.2 x 128.2 x 6.9 มม. | (เมื่อกาง) 159.2 x 68 x 16.8 มิลลิเมตร  
  • น้ำหนัก : 279 กรัม  
  • การป้องกันน้ำและฝุ่น : -  
  • หน้าจอแสดงผล : ด้านนอก Super AMOLED 6.23 นิ้วความละเอียด 2260x816 พิกเซล และหน้าจอภายใน Dynamic AMOLED 2X ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล (อัตราส่วน 4:2:3)  
  • กระจกคลุมจอเป็น Ultra Thin Glass   
  • ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 865 + Adreno 650  
  • การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS, 5G, 4G  
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 10 + One UI 2.5  
  • ระบบความปลอดภัย  
  • สแกนลายนิ้วมือผ่านด้านข้าง  
  • ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า  
  • กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว :   
  • 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.4, Telephoto   
  • 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.8, Wide  Dual Pixel  
  • 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.2, Ultra-Wide  
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้า : (ด้านในหน้าจอ) 10 ล้านพิกเซล F2.2| (ด้านนอก) กล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F2.2  
  • แบตเตอรี่ความจุ : 4,500 mAh (แบ่งแบตเตอรี่ 2 ข้าง) + Fast Charge 25W, Wireless Charge 11W, Reverse Wireless Charge 4.5W  
  • พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type-C  
  • หน่วยความจำแรม (RAM) : 12 GB  
  • หน่วยความจำภายใน (ROM) : 256GB  
  • หน่วยความจำภายนอก : -  
  • สีสันของเครื่อง : Mystic Bronze และ Mystic Black 

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / การลองเล่นเกมด้วย Galaxy Z Fold2  

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดย AnTuTu = 583,807 คะแนน 

screenshot_20201006-235712_ge

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดย Geekbench 5 = 972 คะแนน (Single Core) | 2891 คะแนน (Multi Core) 

batch_-p1310506

เมื่อเห็นคะแนนแบบนี้อาจจะผิดหวังเพราะว่าถ้าใช้ขุมพลัง Snapdragon 865+ น่าจะทำได้มากกว่านี้ แต่อย่าลืมว่าเครื่องมีหลายส่วนที่ต้องใช้ประมวลผลทำให้อาจจะประสิทธิภาพ จะดรอปมาหน่อย ทั้งนี้การใช้งานจริงไม่ได้ส่งผลอะไรมากมาย 

แต่การเล่นเกม ถ้าใช้ฟีเจอร์ Game Space ของ Samsung ก็จะผลักไปสุดทางมากขึ้น จนเรียกได้ว่าสเปกของมันดีเลยครับ และยังสามารถจัดการ Notification ได้มากมายเลยครับ 

การเชื่อมต่อ / ลองใช้นำทาง 

batch_fz-20201007_103214

เรือธงแบบนี้ต้องมีเทคโนโลยีมากมายทั้ง WiFi 6, 5G Dual Mode, Bluetooth 5.1  เรื่องใช้นำทางถือว่าลงตัวเพรามาทั้ง GPS, A-GPS ครบเครื่อง 

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง 

batch_-p1310510

การแสงผลนั้นต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือจอนอกจะเป็นแบบ Super AMOLED ปกติถือว่าให้คามดำและสีสันที่สมจริงมากอยู่ครับ แต่การตอบสนองอยู่ที่ 60 Hz และเวลาดูหนังมันจะกว้างกว่าปกติ 

batch_fz-dsc03654

แต่ถ้าเป็นจอข้างในนั้นเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X แบบเดียวกับ S20 Ultra, Note20 Ultra ที่มีค่า Refresh Rate 120Hz การตอบสนองหน้าจอจะไวกว่า และสีสันสวยคมกว่าชัดเจนเลยครับ เพียงแต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือ อัตราสวน 4.3:2 จะทำให้ขอบเหลือเวลาดูหนังเยอะ เพราะหน้าจอรุ่นนี้ไม่ได้สร้างมาแค่การดูหนัง แต่มันสามารถใช้ทำงานได้หลากหลายหน้าจอในเวลาเดียวกัน หรือ Flex Mode นั่นเอง 

batch_fz-dsc03623
batch_fz-dsc03625

ส่วนระบบเสียงนั้นรองรับทั้ง Dolby ATMOS และยังสามารถปรับได้เองผ่าน Sound Alive อีกด้วย และด้วยความที่ให้ลำโพงใหญ่ทั้งบนและล่างทำให้เสียงที่ออกมาถือว่าดังมาก!!! ครับ แต่ว่าไม่มีช่องเสียบหูฟัง แต่ตัวแปลง USB-C ใช้ได้นะครับ 

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย 

batch_fz-z_ui

screenshot_20201011-092322_on

batch_fz-z_tools

ในส่วนทั่วไปแล้ว Samsung Galaxy Z Fold2 ก็ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย OneUI 2.5 และยังอัปเกรดได้ 3 ปีด้วยกัน เครื่องมือที่มีทั้ง Samsung Note, เครื่องคิดเลข, My Files, Smart Thing, Nearby Share, Quick Share, ยังสามารถต่อกับ Wireless DEX ได้อยู่ครับ และอื่นๆ ที่มือถือ Samsung ควรจะมีนั้นครบ แต่ รุ่นนี้จะมีจุดเด่นเกี่ยวกับการเปิด Apps พร้อมกัน หรือ Multi Window มากกว่า 

การใช้งาน Multi Window 

batch_fz-dsc03635

ส่วนส่วนของการแบ่งหน้าจอของ Samsung Galaxy Z Fold 2 จะแบ่งได้สูงสุดถึง 4 หน้าจอ แบ่งออกเป็น 

batch_fz-z_multi

  • กรอบใหญ่ซ้ายมือ 1 กรอบ 
  • กรอบเล็กทางขวา 2 กรอบ 
  • กรอบลอย 1 กรอบ  

การใช้งานง่ายมาก เลือก กดเปิด Apps ไว้ 1 ตัว แต่ที่เหลือให้ลากจาก EDGE Screen ไปวางโดยมีตำแหน่งที่วางได้บอกโดยอัตโนมัติ 

 

ข้อสังเกตกรอบลอยจะขยายขนาดได้ กรอบเล็กและใหญ่สลับตำแหน่งได้ และสามารถจำการเลือก โดยการกดปุ่มตรงกลางแล้วเลือกปุ่มเป็นปุ่ม + จะบันทึกตำแหน่งอัตโนมัติ ไปเก็บที่ EDGE Screen 

การใช้งานต่อเนื่องระหว่างจอเล็กไปจอใหญ่ หรือ จอใหญ่ไปจอเล็ก 

หากมือถือพับได้แบนี้ถ้าไม่มีฟีเจอร์ให้ใช้งานต่อเนื่องได้ระหว่างการปิด / เปิด หน้าจอคงดูไม่ดีแน่นอน เพราะ Galaxy Z Fold2 5G ก็มีตัวเลือกเปิดเฉพาะโปรแกรมให้ทำงานในแบบนี้ได้ โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า (Setting) > จอภาพ (Display) > ใช้’านแอปส์ใหน้าจอฝาปิดต่อไป (Continue apps on Cover Screen) จากนั้นเลือกเปิดได้ตามความพอใจเลยครับ เวลาใช้ถ้าเปิด Apps ที่เลือกหน้าจอใหญ่หรือเล็ก พับและกางออกได้ ทั้งนี้ได้ทดลองกับเกม แลัวก็ทำได้เหมือนกันครับ 

Flex Mode 

โหมดความสะดวก และทำให้นึกถึงมือถือที่มี Keyboard อย่าง Nokia ตระกูล Communicator จากยุค 90 มาเลยครับ วิธีใช้งานง่ายมาก 

ให้เปิด Apps เต็ม แล้วพับจอมาครึ่งเดียวเท่านั้น จอก็จะแบ่งครึ่งอัตโนมัติโดยส่วนนี้จะเหมาะกับการโปรแกรมเหล่านี้ 

batch_fz-dsc03673

  • Microsoft Office ส่วนบนเป็นจอพิมพ์ข้อมูล ส่วนล่างเป็น Keyboard 
  • โปรแกรมกล้อง ส่วนบนเป็นจอแสดงผล และ ส่วนล่างเป็นจุดควบคุมกล้องและสแกนภาพตัวอย่างได้ 
  • การเปิด Multi Window แบบ 2 หน้าจอ ส่วนแรกเป็น Apps 1 และอีกส่วนเป็น Apps ที่ 2 ครับ 

batch_fz-z_secu

batch_fz-dsc03644

ส่วนระบบความปลอดภัย แบ่งออกเป็นส่วนขอการเข้าถึงหน้าจอมีทั้งระบบสแกนใบหน้า และ สแกนนิ้วด้านข้าง แต่ว่า ข้อมูลภายในของมือถือรุ่นนี้ก็มี Samsung KNOX ป้องกันความปลอดภัยที่เรียกได้ว่าแน่นหนามากเลยครับ 

เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย Samsung Galaxy Z Fold2 5G 

batch_fz-dsc03634

มาดูที่สเปกและรายละเอียดของกล้องในตัวมือถือรุ่นนี้ดีกว่าครับ Samsung Galaxy Z Fold2 5G ให้กล้องมาดังนี้ 

  • กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล F1.7 Dual Pixel AF, OIS 
  • กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา 
  • กล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล  2X Optical และ 10X Space Zoom 
  • LED Flash 
  • กล้องหน้าทั้งจอในและจอด้านนอกความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F 2.2 เท่ากันทั้งหมด 

ภาพรวมคือกล้องอาจจะไม่ได้สเปกเท่ากับ Galaxy Note20 ในบางตัวแต่ก็ยังถือว่าดีระดับหนึ่งเลยครับแต่ที่เด็ดมันคือฟีเจอร์ครับ 

ฟีเจอร์กล้องของ Samsung Galaxy Z Fold2 5G 

screenshot_20201011-092147_ca

โหมดต่างๆ ยังคงเหมือนกับ Samsung Galaxy Note20 Series มีทั้ง Single Take, Picture, Video, Pro Video, Live Focus, Live Focus Video, Hyperlapse, Slowmotion, Super Slowmotion พร้อมกับเลือกฟิลเตอร์ ที่เครื่องมีให้เลือก หรือ เราเลือกเป็น และปรับ Beauty Mode ได้แบบครบเครื่องเลยครับ เนื่องจากหนาจอองมันพับได้ทำให้ความแตกต่างจากมือถือทั่วไปนั่นคือ 

batch_fz-dsc03675

  • ถ้าอยู่ในโหมดกล้องปกติ หรือ วิดีโอปกติ สามารถให้กล้องหลังเป็นกล้อง Selfie แทนกล้องหน้าได้ แค่กดคำว่า Selfie เวลากดถ่ายภาพด้วยจอนอก (ยังทำงานได้บางโหมด) 
  • Flex Mode ทำให้คุณควบคุมกล้องได้และดูภาพการแสดงผลได้ เหมาะกับโหมดโปร แต่ใช้ได้เฉพาะจอด้านในเท่านั้น 
  • นอกจากนี้ระหว่างที่ถ่ายเราอยากให้แบบทำตามและเห็นว่าภาพที่ออกมาเป็นเป็นอย่าง สามารถสั่งให้จอด้านนอกเปิดแล้วแสดงผลเป็น Mirror ให้แบบเห็นได้ด้วย ขณะที่หลังกล้องก็สามารถสั่งถ่ายภาพได้ตามปกติ 

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy Z Fold2 5G ในรูปแบบต่างๆ  

 Ultra Wide

batch_fca-20201007_1732591x

batch_fca-20201007_17324510x

batch_fca-20201007_161551

สภาพแสงปกติ / ภาพกลางวัน ให้การเก็บรายละเอียดและสีที่สวยกำลังดีและมีโหมดละลายมาให้เลือกด้วยและซูมได้แต่ถ้าสุดจะแตก แนะนำว่าซูมได้ไม่เกิน 4 เท่าครับ 

 batch_fca-20201007_202945โหมดปกติ

Night Mode

batch_fca-20201007_203117

สภาพแสงน้อย / ภาพกลางคืน ให้รายละเอียดที่ดี แต่ว่าถ้าเป็น Scene Optimizer และ Night Mode จะเห็นได้ชัดว่า Night Mode จะหน่วงเวลาได้มากกว่า ทำให้ภาพออกมาสว่างกว่า 

 batch_fca-20201007_164754
batch_fca-20201007_165118
batch_fca-20201007_203207

ส่วนภาพอื่นๆ ยังถ่ายภาพอาหาร, Live Focus, และเลือกฟิลเตอร์มาให้ใช้ได้มากเลยครับ 

ลองถ่ายวิดีโอด้วย Samsung Galaxy Z Fold2 5G เป็นอย่างไร 

 

สำหรับกล้องหลังรองรับการถ่ายวิดีโอได้มากถึง 4K 60 FPS กันเลยทีเดียวและโหมด Super Steady จะสามารถถ่ายได้ความละเอียด FHD 30FPS เท่านั้น รองรับการถ่าย Hyperlapse ภาพเคลื่อนไหวเร็ว และ Super Slommotion ในแบบ 960 FPS มาให้ และโหมดโปร แม้ว่าจะไม่ได้ถ่ายวิดีโอแบบ 120 FPS ได้ แต่ว่าโหมดโปรลูกเล่นยกจาก Note20 Series ทั้งการซูม, เลือกไมค์หน้าหลัง, รอบทิศ, USB, Bluetooth 

ชมผลงานและฟีเจอร์ของกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล 

 batch_fz-z_fcam

batch_fcam-20201013_133444Selfie ปกติ

batch_fcam-20201013_133456Live Focus

หลังจากดูผลงานของกล้องหลังไปหมดแล้ว มาดูผลงานของกล้องหน้า กันบ้าง ส่งที่สังเกตได้คือกล้องหน้าของ Samsung Galaxy Z Fold2 ไม่ว่าจะเป็นจอในหรือจอภายจะมีความละเอียด 10 ล้านพิกเซลเท่ากัน รองรับการถ่ายวิดีโอได้แบบ 4K ทั้งคู่ และนอกจากนี้ ยังเลือกฟิลเตอร์ และ ปรับ Beauty ได้อีกด้วย 

แบตเตอรี่/ระบบการชาร์จไฟของเครื่อง 

ฟีเจอร์เยอะแบบนี้มาถึงเรื่องแบตเตอรี่จะดีแค่ไหนมาดูตั้งแต่ความจุแบตเตอรี่ที่Samsung Galaxy Z Fold2 ให้มาถึง 4500 mAh เท่านั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน จุดเด่นคือทำให้ระบบชาร์จแบ่งการชาร์จไฟได้ แต่เนื่องจากตัวเครื่องเองมีประสิทธิภาพสูงและฟีเจอร์เยอะ ทำให้การทดสอบจาก 100 – 19% โดย PC Mark ทำได้ที่ 6:40 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานแบบเปิดจอต่อเนื่องทั้งวันพบว่า 4 โมงอาจจะต้องพามันไปชาร์จไฟแล้ว ถ้าใช้ไม่เยอะก็รอดครั 

ส่วนระบบการชาร์จไฟของ Samsung Galaxy Z Fold2 5G เหมือนกับ Galaxy Note20 Series นั่นคือรองรับกำลังชาร์จไฟเร็วสุด 25W แบบสาย Wireless ได้แบบ 11W สามารถกระจายไฟออกได้ในอัตรา 4.5W เท่านั้น 

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน Samsung Galaxy Z Fold2 5G มาสักระยะเวลาหนึ่ง 

ถือว่าเป็นมือถือสุดล้ำที่รวมร่างระหว่าง Tablet และ Smart Phone เข้าได้ดีกว่าตัวเดิม เพราะรุ่นนี้ปรับปรุงจอใหญ่ขึ้น คมชัด ตอบสนองไวขึ้น แค่ไม่รองรับปากกา เพราะเป็นข้อจำกัดของกระจกแบบ Ultra Thin Glass นันเอง 

batch_fz-dsc03632

การทำงานของเครื่องถือว่าลงตัวมากอยู่ โดยเฉพาะ Multi Tasking แต่สิ่งที่ต้องทำใจคือ แบตเตอรี่ของรุ่นนี้ไม่อึดครับ ต้องพกพา Power Bank ถ้าต้องใช้งานหนักถึงจะรอด หรือ อาจจะต้องรอ Firmware มาแก้ในลำดับถัดไปนะครับ 

batch_fz-dsc03678

ส่วนราคาของ Samsung Galaxy Z Fold2 5G อยู่ที่ 69,900 บาท หากอยากได้ถูกกว่านี้ลองคุยกับผู้ให้บริการอาจจะทำให้ราคาลดลงไป แถมได้ Package เน็ต 5G ดีๆ ก็ได้ครับ และนี่คอมือถือแห่งนวัตกรรม ดังนั้นราคาอย่าไปคิดมาก ถ้าคิดจะคบหานะครับ 

จุดเด่น 

  • จอใหญ่กว่าเดิม 
  • พกพาสะดวกโดยเฉพาะตอนพับ 
  • สเปกเครื่องถือว่าใหม่แรงล้ำ 
  • Flex Mode สุดอเนกประสงค์ 
  • ได้ความพรีเมี่ยมและประกันเครื่องเหนือกว่า 
  • ถือแล้วไม่เหมือนใครเหมือนแน่นอน 
  • จอใหญ่ใช้เล่นเกมก็ดี เทรดหุ้นก็มันส์ 

ข้อสังเกต 

  • แบตเตอรี่หมดไว 
  • ราคาค่อนข้างสูง 
  • หน้าจอมีข้อควรระวังควรศึกษาคู่มือให้ดี 

อัลบั้มภาพ 47 ภาพ

อัลบั้มภาพ 47 ภาพ ของ [Review] Samsung Galaxy Z Fold2 5G มือถือพับได้สุดล้ำที่ปรับปรุงข้อเสียจนน่าใช้มากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook