[Hands On] OnePlus 8T มือถือสเปกเรือธง จอลื่นสุด กล้องครบเครื่อง ราคาเริ่มตัน 24,990 บาท
OnePlus ได้เปิดตัว OnePlus 8T อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ตามหลังตลาดโลกไม่นานและพร้อมวางขายในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ แต่ก่อนที่จะถึงวันวางจำหน่าย วันนี้ทีม Sanook Hitech ได้ไปสัมผัส OnePlus 8T ตัวเป็นๆ ก่อนที่จะนำมารีวิวให้คุณได้รับชมกันเร็วๆ นี้พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
แรกเห็นรูปร่างหน้าตา
เริ่มจากด้านหน้าขนาดหน้าจอ 6.55 นิ้ว เป็นแบบ Fluid AMOLED ไม่ได้โค้งแต่อย่างใด พร้อมกับค่า Refresh Rate 120Hz และรองรับการทัชที่ 240 Hz เช่นเดียวกัน และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องหน้าที่มีขนาด 16 ล้านพิกเซล ขนาดเล็กใช้ได้เลยครับ ทำให้กล้องไม่ได้บังพื้นที่มากสักเท่าไหร่
รอบตัวเครื่องยังคงใช้เฟรมโลหะที่ขัดเงาอย่างดีและตัดขอบกับด้านหลังที่โต้งลงมาปิดกันพอดี มีทั้งปุ่มปรับระดับเสียงที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีปุ่มสำหรับ เปิด / ปิดเครื่อง และมีปุ่มปรับ Profile เสียง เลื่อนบนสุดเป็นเงียบ, กลาง เป็นระบบสั่น และล่าง ทั้งสั้นและเสียง ส่วนบนสุดมีไมโครโฟนจัดการเสียงรบกวน ล่าสุดมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM รองรับ 2 ช่อง, USB-C, ลำโพงตัวหลัก (ตัวรองจะอยู่ส่วนของหูฟังสนทนาที่ด้านบนสุดของหน้าจอ
ด้านหลังเครื่องจะเป็นวัสดุที่มีคุณภาพพร้อมกับกระจกด้านหลังที่ดูแข็งแรง ทั้งนี้ทั้ง 2 สีไม่ว่าจะเป็น เขียว Aquamarine Green และ เงิน Lunar Silver จะแตกต่างชัดเจนคือ สีเงินจะเป็นผิวด้านไม่มีลายนิ้วมือติด แต่สีเขียวจะเรียบและสะท้อนกับแสงได้อย่างดี
ฟีเจอร์และสเปกของ OnePlus 8T ที่โดดเด่น
รายละเอียดสเปกเครื่อง OnePlus 8T
- หน้าจอ Fluid AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.55 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
- ขนาดตัวเครื่อง: 160.7 x 74.1 x 8.4มม.
- น้ำหนัก: 188 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 865 | Adreno 650
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 8 - 12GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 128/256GB
- หน่วยความจำภายนอก -
- การเชื่อมต่อ: 5G (Dual Mode), WiFi 802.11 AX (WiFi 6), Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.7 PDAF
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา F 2.2
- เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
- ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Opical
- แบตเตอรี่ความจุ: 4500mAh
- รองรับ Warp Charge 65W แบบสายเท่านั้น
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Oxygen OS 11
- สี: เขียว Aquamarine Green และ เงิน Lunar Silver
หากดูจากตารางสเปกแล้วพบว่า OnePlus 8T นั้นไม่ได้แตกต่างจาก OnePlus 8 สักเท่าไหร่ครับ แต่ความจริงในเรื่องของฟีเจอร์นั้นเปลี่ยนค่อนข้างมากเพราะใช้ระบบปฏิบัติการ Oxygen OS 11 ครอบบน Android 11 เช่นเดียวกัน จากที่ลองเล่นมานั้น จับจุดที่แตกต่างเบื้องต้นได้ดังนี้
- Interface ที่แบ่งเป็นส่วนที่ชัดเจนทำให้ปัดใช้งานได้ง่ายมากขึ้น
- ฟีเจอร์ของ Android 11 มาเยอะมาก
- Always On Display เพิ่มเข้ามาพร้อมกับฟีเจอร์เปลี่ยนทั้งปก Wallpaper, การกดจำนวนครั้งว่าเราเปิดเครื่องไปกี่รอบ และรวมไปถึงการแสดงเวลา เป็นต้น
- Zen Mode สามารถทำงานได้ทั้ง คนเดียวนานสุด 120 นาที หรือจะเป็น Group ก็ทำได้
- โหมดปรับประสิทธิภาพที่ทำงานได้เจาะลึกกว่าเดิม
ทางด้านกล้องนั้นก็ได้ให้กล้องเหมือนกับ OnePlus 8 แต่ว่ามีการปรับปรุงในเรื่องของการทำงานที่รองรับโหมดต่างๆ ได้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็น
- ภาพนิ่งจะมีการปรับให้ Night Scape ทำงานอัตโนมัติเมื่ออยู่ในโหมดกล้องปกติ เมื่อแสงน้องกล้องจะเข้าโหมดเอง
- Video Night Scape การถ่ายวิดีโอจะสว่างมากขึ้นเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวติดตั้งมาเช่นเดียวกัน
- Video Portrait ละลายหลังและยังสามารถใช้ทำงานร่วมกับ Beauty Mode ได้เช่นเดียวกัน
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
และอีกจุดหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ ระบบชาร์จไฟกำลัง 65W ที่มีที่ชาร์จมาให้ในกล่อง และยังสามารถใช้งานชาร์จกับอุปกรณ์อื่นได้ โดยสามารถปล่อยไฟให้อุปกรณ์อื่นได้กำลัง 45W และแบตเตอรี่มีขนาด 4500 mAh ถือว่าใหญ่เหมือนกันใช้งานรอดแน่นอน และครั้งนี้รองรับ 5G แล้วในประเทศไทย แค่ใส่ซิมการ์ดแล้วใช้ได้เลย
สรุปหลังจากสัมผัสสั้นๆ กับ OnePlus 8T
ถือว่าเป็นอีกมือถือที่มีความโดดเด่นและสวยงามอย่างมากเพราะมีสเปกที่ทันสมัยรองรับ 5G และยังได้บอดี้ที่สวยน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้ดี และมีให้เลือกถึง 2 รุ่นได้แก่
- 8+128GB ราคา 24,990.บาท สี Lunar Sliver
- 12+256GB ราคา 29, บาท สี Aquamarine Green
นอกจากนี้ยังสามารถซื้อกับผู้ให้บริการเริ่มต้น 12,490 บาท และยังได้รับของสำหรับการ Pre-Order มูลค่ากว่า 15,170 บาท อันได้แก่
- E-VIP Card บัตรประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี มูลค่า 10,990 บาท
- กระเป๋าเดินทาง มูลค่า 2,690 บาท
- ขวดน้ำ OnePlus (ลิมิเต็ด) มูลค่า 1,490 บาท
โดยตัวเครื่องพร้อมจำหน่ายวันที่ 30 ตุลาคม นี้ ส่วนการทดลองใช้จริงรอติดตามที่ Sanook Hitech เร็วๆ นี้ครับ
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ