รีวิว "Huami Amazfit Neo" สมาร์ตวอร์ชสไตล์ Retro ฟังก์ชันครบในราคาหลักพัน
กลับมาพบกับรีวิว Gadget จากทีม Sanook Hitech อีกครั้งในรอบนี้ยังคงอยู่กับ Smart Watch รุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Amazfit นั่นคือรุ่น Neo ที่ดูแล้วจะเป็น Retro Smart Watch มากกว่าเรามาดูกันว่า มันโดดเด่นอย่างไร ถ้าบอกว่าราคาของเครื่องถูกมากเพียง 1,190 บาท
แกะกล่อง Amazfit Neo ภายในประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Amafit Neo
- สายชาร์จไฟ แบบ USB-A
- คู่มือการใช้งาน
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Amazfit Neo
เริ่มต้นกับหน้าปัดของเครื่องมาทรงเหลี่ยมถ้าใครคิดถึง Casio สมัยก่อนหรือ G-Shock ตระกูล DW-5600 พูดเลยว่า เหมือนกันเลยครับ จะแตกต่างกันแค่การออกแบบหน้าจอที่มีกราฟฟิกด้านข้างบนซ้ายมือที่นาฬกากลุ่มนั้นจะไม่มีให้แต่ตัวเลขทั้งหมดเหมือนกันหมดครับ
ปุ่มกดมีทั้ง 2 ฝั่งแตกต่างหน้าที่กัน โดยฝั่งซ้ายจะเปนการกดเพื่อเลือกการทำงาน และ ย้อนกลับ โดยถ้ากดค้างนั้น ตัวของ Select จะปิดหน้าจอ ส่วน Back จะเปิดไฟ
ฝั่งขวาจะมาพร้อมกับปุ่มขึ้นและลงเปลี่ยนหน้าเมนูข้างบนเพื่อเลือกการแสดงผลต่างๆ
สายนั้นเป็นแบบเรซินให้ความแข็งแรงทนทานและใส่ง่ายมาก มีให้เลือก 3 สี
ใต้เรือนจะเป็น Heart Rate Sensor, ขั้วสำหรับเสียบอุปกรณ์ชาร์จไฟนั่นเอง
ภาพรวมการออกแบบ
เมื่อสวมใส่แล้วตัวเรือนน้ำเบามาก นึกว่าใส่นาฬิกาทั่วไป และการออกแบบดูไม่น่าเบื่อให้โอกาสใส่ได้ทุกวันมากกว่า Smart Watch รุ่นอื่น แต่ว่าปุ่มการสั่งานนั้นค่อนข้างทำงานได้น้อยไปหน่อยก็เท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม มีสีให้เลือกทั้งสีดำ, สีเทา และ สีแดงให้เลือกเช่นเคย
เปิดเครื่องลองใช้งาน Amazfit Neo
เริ่มด้วยกับหน้าปัดที่สามารถดูเวลา, ระยะทางที่วิ่งได้, จำนวนก้าวเดินอัตราการเต้นของหัวใจ PAI หรือ รูปแบบการออกกำลังกายและมีการเคลื่อนไหวสามารถดูข้อมูลเพิ่มใน Apps, การเผาพลาน, สภาพอากาศ วัดการนอนและยังมีการตั้งเปิด / ปิด ไฟของเครื่องได้ด้วย และไม่ต้องเลือกหน้าปัดเพราะว่า หน้าปัดของมันนั้นเป็นแบบขาวดำธรรมดา
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโปรแกรมที่เชื่อมต่อคือ Zepp สามารถโหลดได้ทั้ง Android และ iOS โดยเฉพาะ โดยโปรแกรมนี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น
- โปรแกรมวัดการนอน แถมคำแนะนำ
- วัดการออกกำลังกาย หรือ PAI
- บอกเรื่องของก้าวเดิน
- วัดชีพจร
- ตั้งค่า Smart Watch พร้อมกับการ Update Firmware เป็นต้น
การเชื่อมต่อนั้นทำได้ง่ายแต่ต้องตัดการเชื่อมต่ออันนึงก่อนครับ แล้วเชื่อมต่อใหม่ซึ่งง่ายกว่าเดิม
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
สำหรับแบตเตอรี่นั้นไม่ได้ให้ขนาดใหญ่มากนักอยู่ราวๆ 200 mAh แต่ว่าเนื่องจากตัวเครื่องค่อนข้างที่จะประหยัดพลังงานมากเอาเรื่อง จนทำให้คุณสามารถใช้งานได้นานสุดในแบบปกติ 28 วัน และ Power Saving Mode อยู่ได้ 37 วันถือว่านานมากพอสมควรเลยครับ และระบบชาร์จไฟยังคงต้องใช้ที่ชาร์จเฉพาะและต้องต่อเชื่อมกับด้านล่างของที่ชาร์จนั่นเอง
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้ Amazfit Neo มาระยะเวลาประมาณหนึ่ง
เรียกได้ว่าเป็นอีก Smart Watch ในแบบเรียบง่ายมากเลยทีเดียวและมีฟีเจอร์แบบพอเพียงเน้นเรื่องของการดูเวลามากกว่า ซึ่งหายากขึ้นทุกทีแล้วกับนาฬิกาแบบนี้ แต่อาจจะมีข้อจำกัดสำหรับคนที่อยากได้แบบวัดสุขภาพโดยตรง เพราะรุ่นนี้ยังบอกไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าต้องการความอึดของแบตเตอรี่ นี่ก็ถือว่าจัดได้ครับ
สำหรับราคานั้นเปิดตัวได้ถูกเร้าใจมากเพียง 1,190 บาท เท่านั้น เรียกได้ว่าถูกมากๆ ถ้าใครต้องการ Smart Watch ที่ทนไม่ต้องเตือนอะไรเยอะ แต่ครบเครื่องในเรื่องการบอกและติดตามสุขภาพนี่เป็นรุ่นที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งครับ ส่วนใครสนใจนอกจากสั่งซื้อทางออฟไลน์หน้าร้านแล้ก็ยังมีช่องทางออนไลน์อีกด้วยเช่นเดียวกัน สายสุขภาพแต่อยากได้ความเรียบง่ายควรจัดเลยครับ
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ