[Review] Samsung Galaxy S20 FE มือถือเพื่อแฟนคลับ ลูกเล่นจัดหนักจัดเต็ม และรองรับ 5G

กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง สำหรับรอบนี้ทีมได้รับ Samsung Galaxy S20 FE รุ่นที่หลายคนกำลังพูดถึงพอดี มาทั้งความคุ้มกับสเปกที่แรงจัดด้วยขุมพลัง Snapdragon 865 รองรับ 5G ด้วย มีอะไรที่โดดเด่นบ้างเรามาดูกันกับรีวิวเจาะลึกรุ่นนี้กันดีกว่า

แกะกล่อง Samsung Galaxy S20 FE

ภายในกล่องของ Samsung Galaxy S20 FE จะประกอบไปด้วย

• ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S20 FE
• สายชาร์จไฟ USB-C
• Adaptor กำลัง 15W
• คู่มือ / ใบรับประกัน / เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด

รูปร่างและดีไซน์ของ Samsung Galaxy S20 FE

ขอเริ่มจาก ด้านหน้าของเครื่อง จะใช้หน้าจอความละเอียด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล และเป็น Panel แบบ Super AMOLED ที่มีคุณภาพการแสดงผลดี สังเกตว่ารูกล้องนั้นเล็กลงทำให้พื้นที่หน้าจอถือว่าเยอะมากอยู่ครับ

ส่วนบนของหน้าจอมีลำโพงของเครื่องเป็นการสนทนาและเสียงเพลงด้วย และมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และมี การแจ้งเตือนและบอกสถานะของเครื่อง

ส่วนล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มกดเมนูต่างๆ สะดวกใช้งาน วิธีการเปลี่ยนให้เข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) >Display (หน้าจอ) > Navigation Bar (แถบการนำทาง) สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบ ได้แก่ 

• เป็นแบบปุ่มกดปกติที่เปลี่ยนรูปแบบได้ ค่าเริ่มต้นคือ Recent Apps, กลางคือ Home และ ขวาสุดคือ Back หรือ ย้อนกลับ และมีอีกแบบบให้เลือกตามภาพครับ 
• ปุ่มกดที่เป็นแบบปัด จะมีการเปลี่ยนแปลงคือ  
• ปัดตรงกลางขึ้น 1 ครั้งเท่ากับกลับหน้า Home 
• ปัดตรงกลางขึ้นค้างไว้ จะกลับไปหน้า Recent Apps 
• ปัดข้างซ้ายหรือขวาของหน้าจอ จะเป็นการย้อนกลับ 

• หากไม่สะดวกจะใช้ 3 Tab แบบเดิมก็ได้ (ซ้าย = Recent Apps, กลาง = Home, ขวา = Back) และยังสามารถเลือกความไวได้ด้วย 

 

 รอบตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติก พร้อมกับแบ่งระหว่างส่วนบนและล่างที่ชัดเจน ขอบจะค่อนข้างเงาทำให้เครื่องดูแพง ประกอบฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มกดอะไร

ฝั่งขวาจะมีปุ่มต่างๆ ทั้งปุ่มปรับระดับเสียง และ Side Key ที่สามารถสั่งงานทั้งเรียก Bixby, สั่งเปิดกล้อง, สั่งเปิด / ปิดเครื่อง จะอยู่ทางขวาทั้งหมด  

สำหรับปุ่มด้านข้าง หรือ Side Key สามารถสั่งงานได้ด้วยการกดที่ Setting (ตั้งค่า) > Advance Feature (คุณสมบัติขั้นสูง) > Side Button (ปุ่มด้านข้าง) จะมีให้ตั้งค่าทั้งแบบกด 2 ครั้ง หรือกดค้างหากจะเลือกให้เป็นปุ่มเปิดเครื่อง หรือเลือกกดค้างเป็นปุ่มควบคุมของเครื่อง

 

ส่วนบนของตัวเครื่องมีเพียงแค่ไมโครโฟนตัวที่ 2 พร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ดรองรับทั้ง NanoSIM, Hybrid Slot รองรับทั้ง Nano SIM และ MicroSD การออกแบบดูแข็งแรงมากขึ้น

ส่วนล่างของเครื่องจะมีไมโครโฟนตัวเครื่อง, USB-C สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อข้อมูล, ลำโพงตัวเครื่องด้านล่าง

ส่วนด้านหลังเป็นการออกแบบในลักษณะแบบกลาสติก (วัสดุพลาสติกทำให้ด้านและจับแล้วละมุนเหมือนกระจก) ที่ดูดีไม่น้อยเลยครับ และมีกล้องอยู่มุมซ้ายด้านบนพร้อมกับ LED Flash ส่วนรายละเอียดสเปกกล้องนั้นรอติดตามต่อในส่วนของรีวิวกล้องด้านล่าง 

ภาพรวมของ Samsung Galaxy S20 FE

เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่ออกแบบได้ลงตัวสวยจับง่ายไม่กว้างเกินไปและยังได้องค์ประกอบที่ครบครัน  ทำให้ตัวเครื่องรุ่นนี้ดูสมบูรณ์แบบมากมายแต่ว่าอาจจะไม่ได้ดูวัสดุ Premium สักเท่าไหร่ อาจจะต้องเป็นเรื่องที่ต้องทำใจแต่แลกกับสีสันที่มากมายไม่ว่าจะเป็น Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Orange, Cloud Red และ Cloud White

เปิดเครื่องลองใช้ฟีเจอร์ ของ Samsung Galaxy S20 FE

รายละเอียดสเปกของ Samsung Galaxy S20 FE

• ขนาดตัวเครื่อง 159.8 x 74.5 x 8.4 มิลลิเมตร   
• น้ำหนัก 190 กรัม  
• หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super AMOLED ในแบบ Infinity O Display  
• ความละเอียดหน้าจอ : 2400x1080 หรือ WFHD+ อัตราส่วน 19.3:9 ส่วนค่า Refresh Rate 120Hz รองรับการแสดงผล HDR10+   
• กระจกหน้าจอ : Gorilla Glass 6 

• มาตรฐานการกันน้ำ IP68   
• ชิปเซ็ต : Exynos 990 Octa Core | GPU Mali G77 (4G) / Snapdragon 865 | Adreno 650 (5G) 
• RAM: 6GB 
• ความจำในตัว :128 / 256GB 
• เพิ่มความจำผ่าน microSD ได้   

• ระบบปฏิบัติการ : Android 10 ครอบด้วย One UI 2.5 
• การเชื่อมต่อ WiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.0 NFC และรองรับ USB-C เวอร์ชั่น 3.2 
• รองรับ eSIM และ Nano SIM      
• ระบบเสียง 
• ลำโพง Stereo ทั้งด้านบนและล่าง ปรับจูนโดย AKG    

• กล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   
  • กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ขนาดDual Pixel AF LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 FPS, Full HD 30/60, Slowmotion สูงสุด 960 FPS (720P), Hyperlapse (Timelaspe แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ) 
  • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง F2.2 มุมมอง123 องศา 
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมได้ 3 เท่าแบบ Optical และ Space Zoom 30 เท่า 
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล  

• แบตเตอรี่ 4500 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ (25W) รองรับทั้ง ชาร์จไร้สาย (15W) และ Reverse Wireless Charging   
• สี : Cloud Lavender, Cloud Mint, Cloud Red, Cloud Orange และ Cloud White 

ผลการทดลองประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม

ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก AnTuTu = 561,342 คะแนน ในแบบ Normal Mode และ 578,399 คะแนน ในแบบ Performance Mode

ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench 5 = 654 คะแนน (Single Core) | 3040 คะแนน (Multi Core)

 

เมื่อเห็นแบบนี้การทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมถือว่าตอบสนองได้ดีเหมือนกัน โดย Samsung มีฟีเจอร์ Game Launcher แต่ระหว่างนี้แนะนำว่าให้ลองปิดดีกว่าเพราะอาจจะมีผลกับการทำงานของหน้าจอได้อยู่ครับ

การเชื่อมต่อไร้สาย / การทดลองใช้นำทาง

ในรุ่นของ Samsung Galaxy S20 FE ที่ได้รับมาทดลองเป็นรุ่น 5G ดังนั้นถ้ามือถือรุ่นนี้ไปในพื้นที่รองรับ 5G ก็สามารถใช้งานได้แน่นอน นอกจากนี้ยังรองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.1 และต่อ GPS ใช้นำทางได้อย่างสบายๆ ครับ

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงของเครื่อง

เห็นเป็นรุ่นเล็กแบบนี้แต่หน้าจอที่ใช้นั้นเป็นแบบ Super AMOLED มาพร้อมกับความละเอียด 2400x1080 พิกเซล หรือ Full HD+ ให้ความคมชัดถือว่าสอบผ่านเลยครับ และยังมีโหมดถนอมสายตามาให้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบเสียงจากลำโพงคู่ทั้งด้านบนและล่าง มาพร้อมกับ Dolby ATMOS ที่ปรับคุณภาพเสียงให้ดีมากขึ้นเช่นเดียวกันครับ

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย

ระบบปฏิบัติการของ Samsung Galaxy S20 FE เลือกใช้ One UI 2.5 เวอร์ชั่นใหม่พร้อมกับ Android 10 และสามารถอัปเกรดได้แน่นอน จุดเด่นที่สำคัญคือมันปรับแต่งได้เยอะ และรวมถึงการทำงานคล้ายกับ Pure Android แต่ก็มีการครอบทับอยู่พอสมควร ถ้าใครคุ้นเคยก็จะปรับตัวไม่ยาก

ส่วนลูกเล่นที่โดดเด่นต้องยอมรับว่า ถอดมาจาก Galaxy S20 แทบจะทั้งหมดประกอบด้วย

• โฟกัสโหมด สามารถให้คุณฝึกสมาธิในรูปแบบว่า จะทำงาน, พักผ่อน หรือการนอนหลับได้ 
• Bixby Routines เป็นฟีเจอร์ที่สามารถทำให้เครื่องปรับตัวเองตามกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่การตื่นจนถึงก่อนเข้านอน โดยเครื่องจะปรับฟีเจอร์ตามที่เราต้องการหรือที่เครื่องมีก็ได้เช่นเดียวกัน และคุณกำหนดเพิ่มเองได้  
• Screen Recorder สามารถกดเปิดอัดหน้าจอและเปิดกล้องหน้าในเวลาที่เราต้องการใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยเปิดไมโครโฟนเพื่ออัดเสียของเราเองก็ได้ และรองรับความละเอียด Full HD และวาดเขียนประกอบคำอธิบายได้ 

 

• ปุ่มด้านข้างเครื่องที่มาแทนตำแหน่งปุ่ม Bixby เดิม สามารถตั้งค่าได้ทั้งกด 2 ครั้ง จะให้ทำอะไรเช่น ให้เรียก Bixby, เปิด กล้อง หรือจะเปิด Apps อื่นๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน กดค้างไว้ก็สามารถเรียก Bixby หรือ จะให้เป็น Switch ปิด, Restart, หรือ โทรฉุกเฉิน  
• สามารถตัดต่อวิดีโอได้ โดยเฉพาะใน Gallery ที่สามารถเรียงหรือแทรกวิดีโอเข้าไป เติมคำภาษาไทยได้, เพิ่ม Effect ในการถ่ายวิดีโอได้  
• AR Doodle ยังคงอยู่แต่จะต้องเข้าโหมดกล้องเท่านั้น 
• หน้าของ Bixby Home เปลี่ยนชื่อเป็น Samsung Daily

 

Samsung DeX 

 

 

• เป็นการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ยังรองรับการทำงานของ Samsung DeX จะปรากฏข้างในหน้าจอ โดยเครื่องจะบังคับให้คุณ Download Apps จากเว็บไซต์ของ Samsung เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะปรากฏหน้าตาแบบนี้ และทำงานได้เหมือนกับใช้งานคอมพิวเตอร์ เราสามารถลาก File เข้า หรือ ออกจากคอมพิวเตอร์ได้ทันที ส่วนมือถือจะทำอะไรก็ได้ และควบคุมมือถือได้ระดับหนึ่ง ใช้งานได้ทั้ง macOS และ Windows 7, 10 
• นอกจากนี้ยังรองรับ Wireless Dex แบบเดียวกับ Galaxy Note20 โดยการต่อกับ TV ที่เป็น Smart TV ส่งภาพขึ้นได้เลย

Microsoft Link Your Phone

• หรือถ้าคิดว่าไม่สะดวกไม่อยากลง Apps เพิ่ม เฉพาะ Windows 10 จะมีฟีเจอร์ Link Your Windows ติดตั้งมาให้ในเครื่อง โปรแกรมนี้สามารถเชื่อมต่อกับ One Drive เพื่อเก็บรูป หรือ แสดงผล 25 รูปล่าสุด และยังรองรับการดูข้อความ SMS หรือ การแจ้งเตือนของภาพได้ด้วย (ต้องตั้งที่มือถือเท่านั้น)

 

ส่วนระบบความปลอดภัยนั้น Samsung Galaxy S20 FE จะมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D ผ่านการเข้าระบบความปลอดภัยโดย Samsung KNOX มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน

เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย Samsung Galaxy S20 FE

สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy S20 FE ถือว่าให้มาครบทุกความต้องการในการถ่ายภาพเลยทีเดียวเพราะประกอบไปด้วยกล้องทั้งหมด  4 ตัวได้แก่

• กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ขนาดDual Pixel AF LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 FPS, Full HD 30/60, Slowmotion สูงสุด 960 FPS (720P), Hyperlapse (Timelaspe แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ) 
• กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง F2.2 มุมมอง123 องศา 
• กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซูมได้ 3 เท่าแบบ Optical และ Space Zoom 30 เท่า 
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล  

ฟีเจอร์ของกล้อง Samsung Galxy S20 FE

 

ในหน้าจอควบคุมยังคงเหมือนกับ Samsung Galaxy รุ่นใหม่ที่ได้อัปเดตเป็น Android 10 รุ่นใหม่ และมีโหมดลูกเล่นที่เพียงพอ พร้อมกับ 2 เรื่องที่เพิ่มเข้ามาคือ Single Take กดครั้งเดียวและถ่ายภาพหรือวิดีโอรวมรูปแบบที่น่าสนใจ และรวมถึง Pro Video ใครคิดถึงฟีเจอร์ปรับแต่งหรือเลือกระบบโฟกัสของกล้องระหว่างการถ่ายวิดีโอเองตอนนี้ก็กลับมาแล้ว แต่ที่เหลือก็ยังครบเครื่องเหมือนเดิม ถ้าภาพนิ่งจะมี AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายของ Samsung Galaxy S20 FE

 

ภาพแสงปกติ / ภาพกลางวัน เนื่องจากเซนเซอร์ของมือถือรุ่นนี้ไม่ได้แตกต่างจาก Galaxy S20 ปกติทำให้ภาพที่ออกมานั้นถือว่าทำได้ดีไม่ผิดหวังในเรื่องความสว่างครับ

ภาพแสงน้อย / กลางคืน จะมีโหมดทั้ง Night Mode ทำให้การถ่ายภาพนั้นมีความสว่างขึ้นไม่ว่าใช้เลนส์ไหนก็ตามและมีปรับเองผ่าน Pro Mode ได้ด้วย

นอกจากนี้ความสามารถของกล้องรุ่นนี้ยังทำให้คุณถ่ายภาพสนุกๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์ต่างๆ รวมถีงการถ่ายภาพอาหาร หรือจะเป็น Single Take เป็นต้น

ลองถ่ายวิดีโอด้วย Galaxy S20 FE

เรื่องลูกเล่นการถ่ายวิดีโอของ Samsung Galaxy S20 FE นอกจากการรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS แล้วยังลูกเล่นมากมายทั้งฟิลเตอร์, ฟิลเตอร์ส่วนตัว, การปรับ Beauty และยังมีลูกเล่นอื่นๆ เช่น

• AR Doodle วาดเขียนในวิดีโอได้
• Super Steady ป้องกันภาพสั่นไหว แต่ทำงานแค่ Full HD 30 FPS
• โหมด Pro Video ปรับได้พอกับรุ่นใหญ่ แต่จุดอ่อนคือ ไมโครโฟนปรับได้แค่ไมโครโฟนของเครื่อง, Bluetooth, USB เท่านั้น น่าเสียดายที่ไม่สามารถปรับได้ทั้งหน้าและพหลังได้

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลของ Samsung Galaxy S20 FE เป็นอย่างไร

 

เห็นฟีเจอร์กล้องหลังกันไปแล้วมาดูกล้องหน้าดีกว่า แทบจะถอดลูกเล่นจากลก้องหลัง ยังสามารถปรับฟิลเตอร์, ฟิลเตอร์ส่วนตัวจากภาพ และรวมไปถึงการถ่ายวิดีโอแบบ 4k 60 FPS เช่นเคย แถมปรับ Beauty Mode ได้เหมือนกล้องหลังคือ อัตโนมัติ หรือปรับเป็นส่วนๆ ได้

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟของ Samsung Galaxy S20 FE

 

ส่วนแบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy S20 FE ให้ขนาดที่ 4500 mAh เมื่อลองใช้งานในโหมด 4G รับรองใช้ได้ทั้งวัน แต่ถ้า 5G โหมดจะพบว่าไฟฟ้าหมดเร็วกว่าที่คิดพอสมควร ถือว่าเป็นเรื่องทำใจ ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของมือถือโดย PC Mark พบว่าสามารถอยู่ได้ที่ 13 ชั่วโมง

 

ส่วนระบบชาร์จไฟนั้นรองรับ Super Fast Charging ที่กำลัง 25W แม้ว่าที่ชาร์จในกล่องให้แค่ 15W ก็ตาม และยังรองรับ Wireless Charging และยังสามารถปล่อยไฟออกให้อุปกรณ์ หรือ Reverse Wireless Charging เช่น

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้ Samsung Galaxy S20 FE มาสักระยะเวลาหนึ่ง

เรียกได้ว่า Samsung Galaxy S20 FE เป็นมือถือเรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่ครบเครื่องมาทั้งกล้องหลังที่จัดเต็ม กล้องหน้าความละเอียดที่ครบเครื่อง รวมไปถึงฟีเจอร์เครื่องที่ถอดออกจาก S20 มาเลย อาจจะไม่ได้ความหรูหราของบอดี้แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีเหมือนกันครับ

กับราคาของ Samsung Galaxy S20 FE นั้น

• Samsung Galaxy S20 FE 4G 128GB = 20,900 บาท
• Samsung Galaxy S20 FE 5G 128GB = 23,900 บาท
• Samsung Galaxy S20 FE 5G 256GB = 25,900 บาท

เมื่อเห็นราคาเครื่องแบบนี้ ถ้าเลือกจริงๆ แล้วรุ่นที่น่าสนใจคือ Galaxy S20 FE ในรุ่น 5G ความจำ 128GB เพราะว่าราคาเพิ่มจากรุ่น 4G เล็กน้อยแต่ได้อะไรที่เยอะกว่า และยิ่งซื้อผ่านเว็บไซต์ Samsung.com เห็นว่าราคาจะลดไปมากกว่านี้เหลือเริ่มต้น 18,810 บาท หรือจะซื้อกับผู้ให้บริการก็เริ่มต้นหมื่นต้นเท่านั้น

สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกแบบไหน Samsung Galaxy S20 FE คือมือถือที่ตอบโจทย์ในการใช้งานจริงสำหรับคนที่นอกจากคำตอบต้องเป็น Samsung เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนที่อยากได้มือถือครบเครื่อง และราคาไม่แพง นี่ก็ถือว่าเลือกได้เหมือนกับใช้ได้เหมือนกัน

จุดเด่น

• ตัวเครื่องสวยมีหลากสีสัน
• ให้สเปกเหนือกว่า S20 / S20+ สเปกขายไทย ยกเว้นหน้าจอนะ
• กล้องครบเครื่องถ่ายรูปสวยและมีเลนส์กว้าง
• มี Samsung Dex มาให้ พร้อมกับ Link To Windows
• อัปเกรด 3 ปี ยาวๆ ไป
• รองรับ 5G ครบทั้งปัจจุบัน และ อนาคต

ข้อสังเกต

• ยังเจอปัญหาหน้าจอทัชแล้วตอบสนองช้าอยู่บ้าง รอการแก้ไขต่อไปนะ
• ในสเปกบอกไม่รองรับ MIMO 4X4 แต่อยากบอกว่าอย่าไปเครียด
• สีหน้าร้านจะไม่มีสีขาว และ สีส้ม