รีวิว Motorola G 5G Plus มือถือ 5G ที่ครบทั้งจอกว้าง กล้องสวย แบตฯอึด ในราคาที่ใช้สุดๆ
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และมือถือจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ในรอบนี้สำหรับใครที่รอคอยการกลับมาของ Motorola บทความนี้เป็นของคุณครับ เพราะนั่นคือการทดลองใช้งาน Motorola G 5G Plus มือถือที่แม้ว่าจะมีสเปกเหมือนกับ Razr รุ่นพับได้ แต่มันก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ ถ้าพร้อมแล้วมารับชมกันเลยกับมือถือรุ่นนี้
แกะกล่อง Motorola G 5G Plus ว่ามีอะไรบ้าง
- ตัวเครื่อง Motorola G 5G Plus
- เคสใส่
- สายชาร์จไฟ USB-C To USB-A
- Adaptor Turbo Power 20W
- หูฟัง 5 มิลลิเมตร
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Motorola G 5G Plus
เริ่มต้นกับด้านหน้าที่มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้วแบบ AMOLED ที่ไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ แต่สังเกตว่าหน้าจอมีอัตราส่วน 21:9 ถือว่ากว้างมากๆ ในระดับ Cinema Display พร้อมกับการออกแบบทำให้ดูกลมกลืนเข้าด้วยกันอย่างดี
ส่วนบนของหน้าจอมีกล้องหน้าคู่พร้อมกับเซนเซอร์และลำโพง Earpeach ไว้สำหรับการฟังเสียงของเครื่อง
ส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มกดสั่งงานเครื่อง โดยสามารถเลือกเปลี่ยนได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ โดยต้องเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > System (ระบบ) > Gesture หรือ ท่าทาง > System Navigate (ปุ่มควบคุม)
- รูปแบบแรกคือ ปุ่มกด 3 ปุ่มที่จะแบ่งเป็น Back (ย้อนกลับ) | Home (กลับหน้าหลัก) | Recent (ปุ่มเรียกย้อนกลับ Apps ที่แล้ว)
- Gesture Navigation จะเป็นการสั่งงานด้วยการปัดต่างๆ ทั้ง การปัดซ้ายหรือขวาจะเป็นการย้อนกลับ, ปัดขึ้นบน กลับหน้าหลัก และ ปัดขึ้นค้างไว้แป๊ป ๆ จะเป็น Recent Apps
รอบตัวเครื่องออกแบบได้ลงตัวกับการใช้งานด้วยวัสดุ โพลีคาร์บอนเนต ประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM และอีกช่องเป็น Hybrid Slot ที่ประกอบด้วย NanoSIM, MicroSD สำหรับเพิ่มความจำต้องเลือกแบบใดแบบหนึง ส่วนบนมีปุ่มสำหรับกดเพื่อสั่งงาน Google Assistant
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มเพิ่ม / ลดระดับเสียง และมีปุ่ม Power สามารถกดสั่งเปิด / ปิดเครื่อง และมีระบบสแกนลายนิ้วมือ แต่ยังมีฟีเจอร์ที่มากกว่านี้ รอดูต่อไปว่าคืออะไร
ส่วนบนมีแค่ไมโครโฟนตัวที่ 2 ไว้ลดเสียงรบกวน
ส่วนล่างมีช่องเสียบหูฟัง, USB-C, ไมโครโฟน, ลำโพงของตัวเครื่องที่สามารถเรียกใช้งานได้เลย
พลิกมาด้านหลังของเครื่องคุณก็จะพบกับกล้องหลังทั้ง 4 ด้านหลังมีโลโก้ M พร้อมกับลวดลายที่สวยงามทำให้บอกถึงเอกลักษณ์ของมือถือรุ่นนี้ได้อย่างดี
ภาพรวมการออกแบบ
ในการสัมผัสครั้งนี้ต้องบอกว่า Motorola G 5G Plus ก็มีน้ำหนักเครื่องอยู่พอสมควร เมื่อเทียบกับรายละเอียดต่างๆ ในการออกแบบไม่ได้แตกต่างจากมือถือในปัจจุบันมากนัก แต่ว่าสิ่งที่อาจจะเห็นว่า ต้องปรับตัวคือเรื่ององระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างที่อาจจะยังไม่เหมาะกับบางคน ถ้าใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ตัว M แบบเดิม ก็ดูท่าจะเหมาะกว่าครับ และสีที่มีจำหน่ายนั้นมีแค่สีน้ำเงินเท่านั้น
เปิดเครื่องลองใช้งานจริงกับ Motorola G 5G Plus
รายละเอียดสเปกของ Motorola G 5G Plus
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 168 x 74 x 9 มม.
- น้ำหนัก: 207 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ แต่มีการเคลือบสารกันน้ำเบื้องต้น
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2520x1080 พิกเซล Refresh Rate 90Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765 Octa-core | GPU Adreno 620
- แรม : 8 GB
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G/4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 4 ตัว :
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้า:16 ล้านพิกเซล (F2.0) และ 8 ล้านพิกเซล Ultra Wide
- แบตเตอรี : 5000 mAh + Turbo Power 20W
- ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C และ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : น้ำเงิน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / ทดลองเล่นเกม
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก AnTuTu = 293,881 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก Geekbench = 578 คะแนน (Single Core) | 1871 คะแนน (Multi Core)
หากดูในภาพรวมของผลการทดสอบก็ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานและไว้ใจได้ครับ สำหรับเกมแล้วก็จะมีฟีเจอร์ Adaptive Performance และ Moto Gametime ที่ค่อยปรับประสิทธิภาพและปิดการแจ้งเตือนไม่ให้เกิดการรบกวนระหว่างการเล่นเกมเพื่อขัดจังหวะของคุณเรียกได้ว่าครบครันอย่างมากเลยครับ ในกรเองการตอบสนองเนื่องจากจอมีค่า Refresh Rate 90Hz กับหน้าจอที่ต้องชื่นชมว่า มันทัชสกรีนได้ดีมาก จึงไม่แปลกใจที่ รุ่นนี้จะทำงานได้ดีครับ
การเชื่อมต่อเครือข่าย / ทดลองใช้งานนำทาง
มือถือรุ่นนี้มีเทคโนโลยี 5G โดยไม่ได้บอกว่าเป็นแบบไหน แต่มีข้อดีในเรื่องของการทำงานของเครื่องที่เรียกได้ว่าตอบสนองได้ทันใจและใช้งานไดอย่างดีมากๆ เลยทีเดียว แต่ที่เหลือยังคงรองรับ WiFi 5 (802.11 AC), Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS ในการใช้นำทาง
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
สำหรับในเรื่องของการแสดงผลหน้าจอแบบ Cinema Display อัตราส่วน 21:9 ค่อนข้างดีสำหรับในการรับชมภาพยนตร์ และสีของหน้าจอค่อนข้างตรงทำให้การแสดงผลของเครื่องนี้จัดว่าดีใช้ได้เลยครับ แต่ว่าตำแหน่งของกล้องด้านบนไม่ได้ชิดอาตจะเสียพื้นที่มากกว่ามือถือตัวอื่นอยู่บ้างครับ
ส่วนระบบเสียงของเครื่องมาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่องเพียงตัวเดียวและสามารถเชื่อมต่อกับช่องเสียบหูฟัง หรือ Bluetooth ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม Motorola G 5G Plus สามารถปรับในเรื่องของคุณภาพเสียงผ่าน Equalizer ได้ด้วย และมี FM Radio ได้เช่นเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของตัวเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Motorola G 5G Plus เลือกใช้ Android 10 ไม่ได้ปรับแต่งอะไรมากมายนักและยังสามารถใช้งานแบบ Multi Tasking หรือการใช้งานพร้อมกับ 2 หน้าจอ และสามารถโหลดโปรแกรมมาปรับแต่งตัวเครื่องได้มากมาย
แต่ถ้าไม่อยากปรับแต่งด้วยการโหลดโปรแกรมแล้ว Motorola ก็มีฟีเจอร์ชื่อว่า My UI ที่สามารถปรับและเพิ่มฟีเจอร์การทำงานได้เช่น
- การแตะปุ่ม Power 2 ครั้งหรือ Double Tap จะเป็นการเรียกโปรแกรมที่เราต้องการใช้บ่อยๆ ขึ้นมา
- Media Controls ปุ่มกดเพิ่มหรือลดเสียงสามารถสั่งงานแทนการแตะหน้าจอเวลาเล่นเพลงหรือชม YouTube
- Attentive Display ฟีเจอร์ไล่ไปนอนด้วยการลดแสงความสว่างหากเราใช้งานไม่เหมาะสม เช่น ห่างเกินไปในเวลานอน
- Screenshot Toolkit ฟีเจอร์วาดเขียนและวงหน้าจอจากภาพที่เรา Capture หน้าจอ
- ยกเครื่องแล้วเสียงเรียกเข้าเบาลง
- ยกเครื่องขึ้นและปลดล็อค หรือ Lift to Unlock
- การปรับแต่สไตล์ของ ico และปุ่ม Layout ต่างๆ
- Peek Display จะแสดงผลเวลาที่เราปิดหน้จอให้ Always On Display ทำงาน แค่กดที่ icon ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมา
นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องมืออื่นๆ เช่นเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, การอำนวยความสะดวกในการย้ายข้อมูล เป็นต้น
ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง และ ระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D เช่นเดียวกัน
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
สำหรับกล้องของ Motorola G 5G Plus ประกอบไปด้วย
- กล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้าทั้งหมด 2 ตัว
- กล้องหน้ามุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าปกติ 16 ล้านพิกเซล F 2.0
ฟีเจอร์ของกล้อง
เมนูของกล้อง Motorola G 5G Plus ใช้งานไม่ยากแบ่งเป็นส่วนบนจะเป็น Tools สำหรับควบคุม และสามารถเปลี่ยน Manual Mode ได้เมื่อยู่โหมดกล้องปกติ และมีการเรียนรู้ว่าเรากำลังถ่ายอะไร เพื่อปรับโทนสีของภาพอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการกดเรียกเมนูจากด้านล่างเรียกว่าใช้งานง่ายมาก แถมยังสามารถใส่ลายน้ำได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Motorola G 5G Plus
ภาพแสงปกติ / กลางวัน ภาพออกมาถือว่าคมชัดและถ่ายง่ายเพราะรูรับแสงค่อนข้างกว้างทำให้เก็บรายละเอียดของสีได้อย่างดี
ภาพแสงน้อย / กลางคืน ถือว่าทำได้แต่ว่าเมื่อใช้ Night Vision อาจจะให้สีสันที่จัดจ้านมากไปสักหน่อยโดยเฉพาะพื้นหญ้า
และยังมีลูกเล่นอื่นเช่นการถ่ายภาพและดูดสีได้, Cinemagraph ขยับแค่บางส่วนของภาพ, Macro, การเปลี่ยนฉากหลักได้
ลูกเล่นในการถ่ายวิดีโอ
Motorola G 5G Plus มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ด้วยกัน และมีระบบกันภาพสั่นไหว EIS มาให้พร้อมกับ สั่งเปิด / ปิดไมโครโฟน, ถ่ายวิดีโอแบบ Macro, AR Sticker เพิ่มลูกเล่นด้วยสติ๊กเกอร์ในวิดีโอจะต้องโหลด Google Lens, Slowmotion, Timelapse จนต้องพูดว่า ครบจบในเครื่องเดียว
กล้องหน้าคู่มีความโดดเด่นในการถ่ายภาพแค่ไหน
มาถึงลูกเล่นกล้องหน้าที่แม้ว่าจะดูธรรมดา แค่ปรับ Beauty ชนิดที่เรียกว่าเก็บสิวได้จบหมด พร้อมกับถ่ายภาพทั้งมุมปกติ และกว้างกว่าปกติ และมีฟีเจอร์ต่างๆ เรียกได้ว่าอัดนานมาให้จนเรียกว่าไม่ผิดหวังเลยครับ
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
อีกเรื่องที่ Motorola ภูมิใจมากคือ แบตเตอรี่ของเครื่องที่ Motorola G 5G Plus ให้มาขนาด 5000 mAh โดยการทดสอบจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ การใช้งานจริงและการใช้โปรแกรม พบว่า การใช้งานจริงหากต่อกับ 5G บ่อย อาจจะมีการทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้แบบ 16 ชั่วโมง หรือต่ำกว่านั้น ถ้าเล่นเกม ก็อยู่ได้ 8 ชั่วโมง ส่วนการทดสอบด้วย PC Mark ทำได้ เกือบ 20 ชั่วโมงถือว่าผ่านแล้วครับ ถ้าจะอึดกว่านี้ลองปิดใช้ 4G ยังไงก็ข้ามวันได้แน่นอน
ข่าวดีอีกเรื่องคือระบบการชาร์จไฟของ Motorola G 5G Plus มาพร้อมกับระบบ Turbo Power 20 กำลัง 20W ที่เรียกว่าพอเพียงต่อการใช้งานและเมื่อชาร์จกับมือถือรุ่นนี้แล้วกลับใช้เวลาได้เร็ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้ที่ชาร์จติดกล่องก็ได้ ขอให้รองรับ Power Delivery หรือ PD ก็เพียงพอ
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้ Motorola G 5G Plus มาสักระยะเวลาหนึ่ง
เป็นอีกมือถือรุ่นที่เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ดูแล้วคุ้มค่าเพราะได้ทั้งหน้าจอที่ใหญ่โตอลังการสีสันที่สวยงาม พร้อมกับฟีเจอร์อลังการและครบครันไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วย Gesture Control, ความเป็น Pure Google ที่ให้คยวามลื่นไหล แถมยังมาพร้อมกับลูกเล่นครบครันแบบนี้ ถือว่าหายาก อาจจะดูว่ามันเรียบ ไม่มีอะไรสักเท่าไหร่ แต่ถ้าซื้อมาแค่ใช้งานผมว่าลงตัวแล้ว
สำหรับราคาของเครื่อง แทบจะบอกเลยว่าเปิดตัวมาแบบแทบทำตลาดแตกเพราะราคาเริ่มต้น 9,990 บาท เห็นว่าถ้าซื้อกับผู้ให้บริการจะถูกลงกว่านี้ สำหรับใครที่อยากได้ ต้องรอหน่อยเพราะมือถือรุ่นนี้วางขายปลายเดือนนี้ ส่วนคู่แข่งนั้นก็แทบไม่ต้อบอกครับ ตัวเลือกเยอะมาก แต่ทำไมถึงต้องเลือกตัวนี้คำตอบคือ ได้ทุกอย่างในราคาถูกและยังมีช่องเสียบหูฟังอยู่ ผมว่าแฟนโมโตที่ต้องการมือถือทน เรียบง่าย ราคาสวยๆ แบบนี้ไม่ควรพลาดครับ
จุดเด่น
- จอกว้างบอดี้สวยกำลังดี
- สเปกถือว่าพร้อมใช้มาก
- รองรับ 5G
- กล้องถือว่าสวยและทำงานได้ดีทุกโหมด
- มีระบบชาร์จไฟเร็วนะครับ
- ราคาถูกสุด สำหรับ 5G ในตอนนี้
ข้อสังเกต
- ความที่เรียบมากอาจจะต้องโหลดเครื่องมือมาอีกหน่อยถึงจะครบ
- มีให้เลือกสีเดียว
- ไม่กันน้ำ
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ