3 สถานการณ์ที่คาดไม่ถึงของ multi-taskers หรือคนที่ชอบทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้แบบมือโปร ด้วย 4 ไอเท็มอัจฉริยะจากหัวเว่ย HUAWEI FreeBuds Pro, HUAWEI FreeLace Pro, และ HUAWEI FreeBuds Studio ตัวช่วยที่จะทำให้วันวุ่นๆ ราบรื่นอย่างน่ามหัศจรรย์ และอีกแฟชั่นไอเท็มอัจฉริยะ HUAWE x Gentle Monster Eyewear II ที่เป็นทั้งแว่นและหูฟังในวันที่อยากเสริมความคูล
เวลาเป็นสิ่งมีค่าโดยเฉพาะในยุคนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายคนจึงเลือกบริหารเวลาด้วยการทำหลายๆ กิจกรรมที่สามารถทำพร้อมกันในเวลาเดียว กลายเป็นเทรนด์ที่คนยุคใหม่ชอบ multi-tasking ไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นการคุยงานระหว่างเดินทาง หรือฟังพอดแคสต์ที่ชอบขณะออกกำลังกาย การทำสองอย่างในเวลาเดียวกัน กลายเป็นเรื่องปกติที่เราคุ้นเคย และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชีวิตในยุคนี้ หลายๆ คนจึงมองหาตัวช่วยเป็นไอเท็มไฮเทคที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้
ซึ่งหูฟังไร้สายก็กลายเป็นหนึ่งในไอเท็มอัจฉริยะที่ตอบโจทย์นั้น ด้วยการลดความวุ่นวายและทำให้เรามีสมาธิกับหลายๆ กิจกรรมที่เกิดขึ้นพร้อมกันได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากจะต้องมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ ที่ช่วยให้กิจกรรมต่างๆ ของเราสมูทขึ้นแล้ว ยังต้องมีดีไซน์ที่เข้ากับบุคลิกที่แตกต่างของผู้ใช้ได้ วันนี้เราได้รวบรวม 3 สถานการณ์คาดไม่ถึงที่ multi-taskers มักจะเจอและวิธีแก้ปัญหาด้วยไอเท็มเทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ
ต้องทำงานบนสองอุปกรณ์พร้อมกัน จะให้สลับไปมาก็เสียเวลา หูฟัง TWS ของหัวเว่ยเชื่อมต่อสองอุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมฟังก์ชันสลับอุปกรณ์รวดเร็วเพียงกระพริบตา
แน่นอนว่าเราไม่ได้ฟังเพลงแค่เวลาที่ว่าง เพลย์ลิสต์เพลงเพื่อสมาธิถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่หลายคนเปิดระหว่างทำงาน หรือบางคนอาจดูซีรีส์เพลินๆ ระหว่างทำงานไปด้วย แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ที่เราฟังเพลงจากคอมพิวเตอร์แล้วอยู่ๆ มีคนโทรเข้าสมาร์ทโฟน
การหยิบหูฟังออกเพื่อรับสายเป็นอะไรที่ถือว่ายุ่งยากเกินไปแล้วในยุคนี้ เพราะปัจจุบันหูฟังของหัวเว่ยมีเสารับสัญญาณคู่ (Dual Antennas) ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างสองอุปกรณ์เสถียรและรวดเร็ว โดยหูฟังไร้สายรุ่นท็อป HUAWEI FreeBuds Pro และหูฟังไร้สายแบบเฮดเซ็ต HUAWEI FreeBuds Studio มาพร้อมเสาสัญญาณคู่นี้ ดูซีรีส์อยู่บนแล็ปท็อปแล้วมีคนโทรมา ก็ไม่ต้องกดหยุด หยิบหูฟังออกให้วุ่นวาย แค่กดรับสาย ระบบจะทำการเปลี่ยนดีไวซ์อัตโนมัติ ให้ Multi-Tasking กันได้รัวๆ ไม่มีสะดุด
ขณะที่หูฟัง TWS สำหรับสายสปอร์ตอย่าง HUAWEI FreeLace Pro ก็รองรับการเชื่อมต่อกับ 2 อุปกรณ์ ผ่านเทคโนโลยี HiPair ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Quick Switch ช่วยให้สลับการเชื่อมต่อระหว่าง 2 อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายในพริบตา*
*หมายเหตุ: เทคโนโลยี HiPair และฟังก์ชัน Quick Switch ใน HUAWEI FreeLace Pro สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนและสมาร์ทดีไวซ์ในระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไปเท่านั้น
ต้องโฟกัสกับงานหรือกิจกรรมในบรรยากาศสุดวุ่นวาย เต็มไปด้วยเสียงรบกวน
อีกหนึ่งสถานการณ์ไม่คาดฝันสำหรับ multi-taskers ทั้งหลาย คือการต้องประคองสติทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ให้จบในบรรยากาศที่ไม่เป็นใจ มีแต่เสียงรบกวน เทคโนโลยี Active Noise Cancellation ของหัวเว่ยที่มีใน HUAWEI FreeBuds Pro, HUAWEI FreeLace Pro และ HUAWEI FreeBuds Studio ประสานการทำงานกับไมโครโฟนเพื่อดักจับเสียงรบกวน พร้อมระบบเสียงที่ดีกว่าด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่และชิปเสียงที่ให้เก็บทุกรายละเอียดเสียงอย่างคมชัด ลดความเพี้ยน
มอบประสบการณ์ทางดนตรีที่เหนือกว่า ให้ผู้ใช้เอ็นจอยกับเพลงที่เปิดจนมองข้ามบรรยากาศรอบข้างที่กวนใจไปเลย และหากอยากจะเปลี่ยนโหมดจากตัดเสียงรบกวนเป็นโหมดรับรู้ (awareness) โดยไม่ต้องถอดหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro และ HUAWEI FreeBuds Studio ก็สามารถสลับโหมดได้อย่างรวดเร็ว เพียงสัมผัสที่ตัวเครื่อง ไมโครโฟนจะดูดเสียงภายนอกเข้ามาให้ทุกการสนทนาในที่ทำงานลื่นไหล ขณะที่ไอเท็มแว่นตาอัจฉริยะ HUAWEI x Gentle Monster Eyewear II ที่เป็นหูฟังไร้สายในตัว สามารถรับโทรศัพท์และเชื่อมต่อเพื่อฟังเพลงได้ มาพร้อมกับระบบเสียงส่วนตัว Inverse Acoustic ที่ทำให้ผู้ใช้โฟกัสกับเสียงปลายสายสนทนาหรือเพลงได้อย่างไร้ที่ติ
จะฟังหลายอย่าง ฟังพร้อมกัน หรือฟังทั้งวันก็ทำได้แบบ Non-Stop เพราะแบตเตอรี่อึดใช้ได้ต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด
หนึ่งในสถานการณ์รบกวนใจ ที่ทำให้ multi-taskers ต้องหงุดหงิด คือการที่ต้องหยุดกิจกรรมกลางคัน เพราะหูฟังที่ใช้แบตเตอรี่หมด แล้วก็ต้องเสียเวลาชาร์จอีกนานกว่าจะกลับมาใช้งานได้ยาวๆ และก็แน่นอนว่าหูฟัง TWS และแว่นตาอัจฉริยะใหม่ล่าสุดจากหัวเว่ย ไม่ลืมที่จะคิดถึงสถานการณ์นี้ HUAWEI FreeBuds Pro, HUAWEI FreeLace Pro, HUAWEI FreeBuds Studio, และ HUAWEI x Gentle Monster Eyewear II มาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่เสริมพลังให้กับแบตเตอรี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อย่างใน HUAWEI FreeBuds Pro และ HUAWEI FreeBuds Studio ก็มาพร้อมกับชิปเซ็ต Kirin A1 ที่ประมวลผลการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้พลังงานต่ำ สามารถเล่นเพลงหรือใช้งานอย่างต่อเนื่อง และสำหรับสายฮาร์ดคอร์ที่มีไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟ HUAWEI FreeLace Pro ก็มากับแบตเตอรี่ขนาด 150 mAh ใหญ่สะใจ ชาร์จหนึ่งครั้งใช้ไปยาวๆ 24 ชั่วโมง หรือใครที่เป็นสายแฟชั่น
อยากได้ไอเท็มที่บ่งบอกความเป็นตัวเองและโชว์ความทันสมัยสุดล้ำ ก็ต้องโดน HUAWEI x Gentle Monster Eyewear II ที่แม้จะเป็นแว่นตาน้ำหนักเบาและมีแบตเตอรี่เล็ก แต่ก็สามารถเล่นเพลงได้อย่างต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมง
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
HUAWEI FreeBuds Pro เปิดตัวที่ราคา 5,499 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ Carbon Black, Ceramic White และ Silver Frost พร้อมโปรโมชั่นเปิดตัวสำหรับผู้ที่ซื้อระหว่างวันที่ 6 - 22 พฤศจิกายนนี้ รับฟรีทันที HUAWEI SuperChargeTM Wireless Charger มูลค่า 1,690 บาท *ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด ขอสงวนสิทธิ์ตามลำดับการซื้อ
HUAWEI FreeLace Pro เปิดตัวที่ราคา 2,999 บาท มีให้เลือก 3 สี Graphite Black, Dawn White และ Spruce Green
HUAWEI FreeBuds Studio เปิดตัวที่ราคา 9,990 บาท วางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Black และ Gold
HUAWEI x Gentle Monster Eyewear II เปิดตัวที่ราคา 13,990 บาท โดยวางจำหน่ายทั้งหมด 3 แบบ ประกอบด้วย แว่นกันแดด (Smart-Myma) แว่นสายตากรอบครึ่งเลนส์ (Smart-Havana) และแว่นสายตากรอบเต็มเลนส์ (Smart-Kubo)
ใครที่อยากได้หูฟังที่นอกจากจะเสียงดี ฟังก์ชันครบ และเพิ่มเติมคือสามารถเป็นตัวช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นก็อย่าลืมเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store, HUAWEI Online Store และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ