เปิดสเปก Qualcomm Snapdragon 888 รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ได้มีดีแค่ 5 นาโนเมตร แต่แรงหมดทั้งตัว
ในที่สุด Qualcomm ก็เผยรายละเอียดของ CPU ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 888 โดยคาดว่าอุปกรณ์รุ่นแรกที่จะได้ใช้จะปรากฏตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 เรียกว่าใกล้มาก แต่ว่า ภายในของขุมพลังรุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจ วันนี้ทีม Sanook Hitech จะพาคุณมารู้จักกับภายในให้คุณได้รับทราบกันครับฃ
CPU แรงจัด
เป็นธรรมดาของขุมพลังเรือธงที่จะเลือกใช้ขุมพลัง Cortex-X1 ที่ออกแบบให้รองรับความเร็วที่สูงขึ้น โดยทำความเร็วได้มากถึง 33% จากเดิม และรวมกันทั้งหมดแล้วจะได้ 2.84GHz แต่ยังไม่หมดครับเพราะว่ายังมีขุมพลัง เสมียนอย่าง Cortex-A78 ที่มีความเร็ว 2.4GHz และ Coretex-A55 อีก 4 Core ความเร็ว 1.8GHz โดยเรียกขุมพลังภาพรวมนี้ว่า Qualcomm Kryo 680 โดยจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 25% จัดการพลังงานดีขึ้น 25% เช่นเดียวกัน
GPU ใหม่
ครั้งนี้เลือกใช้ Adreno 660 ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม 35% และยังมาพร้อมกับระบบจัดการพลังงานดีขึ้น 20% การ์ดจอรุ่นนี้ออกแบบให้สามารถรับการแสดงผลค่า Refresh Rate ที่สูงและทำให้ค่าความหน่วงของเกมที่ต่ำ เห็นว่ารับค่า Refresh Rate ได้ระดับ 1244Hz แถมยังมี Variable Rate Shading ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการ์ดจอใน Nvidia ที่ใส่ใน PS5 และ Xbox ในเวลานี้
ทำให้ภาพที่ออกมาสวยมากขึ้น และยังทำให้ค่า Touch มีความไวมากขึ้น และการ์ดจอรุ่นนี้จะรองรับการแสดงผล 10-bit HDR เช่นเดียวกัน
การทำงานกับกล้อง
ขุมพลังใหม่นี้มี Triple ISP นรองรับการแสดงผลกล้องแบบ Multi ได้มากขึ้นพร้อมกับความละเอียดที่รองรับคือ 5K HDR พพร้อมกัน 3 กล้อง และภาพนิ่งความละเอียด 28 ล้านพิกเซลในเวลาเดียวกันและจะเพิ่มความลื่นระหว่างการเปลี่ยนช่วงซูมระหว่างมุมกว้างไล่ไปที่ Telephoto นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 10-bit DR, HEIF, HDR 10+, Dolby Vision และวิดีโอ 4K ได้ในแบบ 120 FPS
การเชื่อมต่อกับ 5G
มันจะทำได้ดีขึ้นเพราะเลือกใช้ Modem Snapdrgon X60 ที่เคลมว่าความเร็ว Download ทำได้สูงสุด 7.5Gbps และ Upload ทำได้ 3 Gbps ทั้งนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง mmWave และ Sub-6 เช่นเคย ส่วน WiFi รองรับทั้ง WiFi 6, WiFi 6E ทำความเร็วสูงสุด 3.6Gbps โดยคาดว่า WiFi 6E จะเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทำให้การเชื่อมต่อได้ดีมากขึ้น แถมรอบรับ Bluetooth 5.2 ใหม่ที่ให้คุณภาพดีขึ้น, ความหน่วงต่ำ, รองรับฟีเจอร์สุดล้ำของหูฟังไร้สายและยังสามารถต่อเชื่อม Bluetooth ได้ดีเพราะมีเสาอากาศรับสัญญาณคู่
AI / ระบบความปลอดภัย
สำหรับ AI Engine มีการติดตั้ง Hexagon 780 ที่ทำให้การทำงานของเครื่องนั้นได้รวดเร็วและฉลาดมากขึ้น และรวมไปถึงความปลอดภัยในแบบ Truepic ที่จะเป็นมาตรฐานในการ Capture หน้าจอเครื่องเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวนั่นเอง
ระบบชาร์จไฟ
ยังรองรับ Quick Charge 5 ที่ให้กำลังสูงสุด 100W ขึ้นไป ครั้งนี้สามารถรองรับกับ USB Power Delivery โดยคาดว่ามือถือรุ่นใหม่ที่จะใช้จะเป็น Xiaomi ก่อนแล้วตามด้วยตลาดโลกกับ Motorola G Series ก็อาจจะเลือกใช้ขุมพลังนี้ในอนาคตเช่นเดียวกัน คงต้องรอดูกันต่อไป