หัวเว่ยเผยกลยุทธ์รับทศวรรษใหม่บน Huawei Mobile Services

หัวเว่ยเผยกลยุทธ์รับทศวรรษใหม่บน Huawei Mobile Services

หัวเว่ยเผยกลยุทธ์รับทศวรรษใหม่บน Huawei Mobile Services
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หัวเว่ย เดเวลลอปเปอร์ กรุ๊ป นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาบนแพลตฟอร์ม Huawei Mobile Services (HMS) และ HUAWEI AppGallery เชิญชวนนักพัฒนาแอปพลิเคชันให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์บริการทางดิจิทัลผ่านอีโคซิสเต็มของหัวเว่ย ด้วยชุดเครื่องมือครบครันที่พร้อมอำนวยความสะดวกแบบรอบด้าน พร้อมยกระดับประสบการณ์อันชาญฉลาดขึ้นไปอีกระดับให้กับผู้บริโภค ภายในงานประชุม Android Bangkok Conference 2020 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563

แพลตฟอร์ม Huawei Mobile Services ของหัวเว่ย มี HUAWEI AppGallery เป็นแอปพลิเคชันสโตร์ที่ใช้งานได้กับทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ผ่านการล็อกอินด้วย HUAWEI ID โดยปัจจุบัน มีนักพัฒนาทั่วโลกกว่า 1.8 ล้านรายที่ได้ลงทะเบียนเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้งานประจำกว่า 490 ล้านรายทั่วโลก และยังมียอด ดาวน์โหลดสูงถึง 261,000 ล้านครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา นอกจากนั้นตลาดสมาร์ทโฟนในระดับโลกในปี 2563 หัวเว่ยยังครองอันดับหนึ่ง ด้วยสัดส่วนยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ จากอันดับที่สองในไตรมาสที่สองของปี 2562 ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้น 17.7 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม Huawei Mobile Services พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดการสร้างสรรค์อีโคซิสเต็มครบวงจรเพื่อ “ชีวิตเอไอไร้รอยต่อ” หรือ Seamless AI Life ผ่านกลยุทธ์ 1+8+N ซึ่งเป็นกลยุทธ์ด้าน hardware ecosystem และยังมี application ecosystem ที่มี HMS Core เป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งข้อมูลต่างๆ ไปยังแอปอื่นที่อยู่ในอีโคซิสเต็มได้ด้วย เช่น HUAWEI AppGallery, HUAWEI Music, HUAWEI Video และ รวมแอปฯ จากนักพัฒนาทั่วไปก็สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งได้ด้วยเช่นกัน ด้วยการนำ SDK เข้ามาเชื่อมต่อกับ HMS

และหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อส่งมอบชีวิตเอไอไร้รอยต่อให้สมบูรณ์แบบ คือ HUAWEI AppGallery ศูนย์รวมแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนอย่างเป็นทางการของหัวเว่ย ที่มีถึง 18 หมวดหมู่ ที่ค้นหาง่าย และตอบโจทย์การใช้งานครอบคลุมทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์โปรด ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านเกม การศึกษา ไลฟ์สไตล์ ชีวิตประจำวัน แฟชั่น และอื่นๆ พร้อมแอปฯ ล่าสุด ที่ชาวไทยนิยมใช้งาน ทั้ง เป๋าตัง, foodpanda, LINE MAN, PUBG และ Rabbit Rewards และผู้ใช้งานยังสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์และกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมใน HUAWEI AppGallery ได้ อาทิ คะแนนสะสม HUAWEI Points บัตรกำนันและแคมเปญพิเศษ และยังมีช่องทาง wish list ที่ผู้ใช้งานสามารถแจ้งความต้องการแอปฯ ใหม่ได้โดยตรง

ทั้งหมดนี้ HUAWEI AppGallery ถูกออกแบบมาบนมาตรฐานความปลอดภัยถึง 4 ชั้น ตั้งแต่การตรวจจับพฤติกรรมที่เป็นอันตราย การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว การสแกนหาข้อผิดพลาดของระบบ และการตรวจสอบความปลอดภัยด้วยชื่อจริงของผู้ใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าแอปฯ บนแพลตฟอร์ม AppGallery ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการเริ่มสร้างสรรค์แอปพลิเคชันใหม่หรือนำผลงานที่มีอยู่เดิมขึ้นสู่แพลตฟอร์ม HMS และ HUAWEI AppGallery สามารถเริ่มต้นได้ที่การลงทะเบียนบน https://developer.huawei.com/ จากนั้น นักพัฒนาจะต้องลงชื่อเข้าใช้บนแพลตฟอร์ม AppGallery Connect ไปที่ My Apps เพื่อสร้างแอปฯ ใหม่ โดยเลือกแพคเกจ แอปพลิเคชันแบบ APK กรอกข้อมูลเกี่ยวกับแอปฯ และอัพโหลดแพคเกจแอปพลิเคชันขึ้นไปบนระบบ

ทั้งยังรองรับการพัฒนาแอปฯ ในรูปแบบ app bundle และ .abb อีกด้วย เมื่ออัพโหลดแอปฯ ขึ้นระบบ นักพัฒนาก็จะสามารถตรวจเช็คความถูกต้องเรียบร้อย และปล่อยแอปพลิเคชันให้สามารถดาวน์โหลดบน HUAWEI AppGallery ได้ทันที ทั้งหมดนี้ เพื่อทำให้นักพัฒนามั่นใจได้ว่าสามารถพัฒนาแอปฯ ได้ทุกรูปแบบ

ล่าสุด หัวเว่ย ได้เปิดตัวบริการ HMS Core 5.0 สำหรับนักพัฒนาทั่วโลกผ่านทางเว็บไซต์ Huawei Developer นำเสนอบริการต่างๆ ใน 7 ส่วนหลัก ได้แก่ App Services, Graphics, Media, AI, Smart Device รวมถึง Security System เพื่อช่วยให้นักพัฒนาได้ใช้ศักยภาพ “chip-device-cloud” ของหัวเว่ยเองอย่างเต็มที่ พัฒนาต่อยอดจาก HMS Core 4.0 โดยเพิ่มความสามารถใหม่มากกว่า 20 รายการ ต่อยอดจากด้าน AI และระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่แล้วด้วยชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา เช่น Computer Graphics (CG) Kit, AR Engine, Accelerate Kit, Scene Kit ฯลฯ

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเพิ่มฐานนักพัฒนาในอนาคต หัวเว่ยจึงดำเนินการสร้างห้องปฏิบัติการจำนวน 3 แห่ง ในประเทศรัสเซีย โปแลนด์และเยอรมนี เพื่อเปิดให้นักพัฒนาจากทั่วโลกใช้งาน ทดสอบ และให้บริการในด้านการรับรองระบบ รวมถึงจัดตั้งศูนย์บริการนักพัฒนาระดับโลกอีก 5 แห่งในประเทศโรมาเนีย มาเลเซีย อียิปต์ เม็กซิโก และรัสเซีย

นอกจากการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้ลองใช้ชุดเครื่องมือต่างๆ ในการพัฒนาซอฟท์แวร์บน HMS แล้ว หัวเว่ยยังนำเสนอ Migration Solution ที่สะดวกสบาย สามารถแปลงโค้ดของแอปพลิเคชันที่มีอยู่เดิมให้รองรับได้ทั้ง HMS และ GMS โดยอัตโนมัติ ผ่านทาง HMS Toolkit ซึ่งเป็น Plugin ติดตั้งใช้งานกับ Android Studio ได้ โดยชุดเครื่องมือนี้สามารถจับคู่ SDK จาก GMS SDK เข้ากับ HMS SDK ที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากันได้  ก่อนจะนำไปตั้งค่าต่อบน AppGallery Connect และตั้งค่าแพคเกจแอปพลิเคชันต่อได้ที่ My Projects และ Manage APIs ได้อย่างง่ายดาย

หนึ่งในบริการของ HMS Toolkit ที่อำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นคือ Cloud Debugging ที่มี emulator หรือชุดจำลองดีไวซ์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้นักพัฒนาทดสอบและแก้ไขจุดบกพร่องของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทดีไวซ์หลากหลายรุ่นของหัวเว่ยได้แบบทางไกลผ่านการ plug-in และไม่จำเป็นต้องมีตัวดีไวซ์เครื่องจริงอยู่ในมือ

โดยแพลตฟอร์มทดสอบแอปพลิเคชันนี้เปิดให้นักพัฒนาเลือกดีไวซ์สำหรับทดสอบได้มากมายหลายรุ่น ทั้งยังรองรับระบบปฏิบัติการหลายเวอร์ชั่นเพื่อการทดสอบที่ทั่วถึงและแม่นยำ เพื่อการค้นหาและแก้ไขจุดบกพร่องในแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ปัจจุบัน บริการนี้สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง HUAWEI P Series และ HUAWEI Mate Series โดยนักพัฒนาสามารถเข้าถึงผ่านเว็บไซต์ Huawei Developer ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น

ทางด้านชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่ HMS Core 5.0 มีให้บริการ รวมชุดเครื่องมือหลักๆ อย่าง HUAWEI Ads Kit ชุดบริการที่รวม HUAWEI Ads Publisher Service ที่ให้ความช่วยเหลือในการจัดทำโฆษณารูปแบบต่างๆ บน
แอปพลิเคชัน ร่วมกับแบรนด์คู่ค้า โดยมีเครื่องมือในการติดตามผล และปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

สำหรับแอปพลิเคชันที่มีการซื้อ-ขาย ภายในแอป HUAWEI In-App Purchases (IAP) ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านระบบการเงินบนแอปฯ ระบบการจัดการผลิตภัณฑ์ (PMS) ที่ดูแลเรื่องราคา และการเปลี่ยนภาษาให้ตรงกับ Location ของผู้ใช้

ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หัวเว่ยก็มี HUAWEI ML Kit ที่สนับสนุนนักพัฒนาในด้าน Machine Learning ให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับฟังก์ชัน AI อัจฉริยะ เช่น การอ่านข้อความจากภาพ การสแกนบัตรเครดิต หรือการแปลภาษาอัตโนมัติ พร้อมฟีเจอร์ใหม่คือ Visual Search หรือการค้นหาจากรูปภาพ โดยหัวเว่ยจะแสดงคลิปวีดีโอการใช้งานและข้อดีของแอป “Banggood” ได้รับจากการนำ ML Kit ไปใช้งานในตัว แอปฯ อีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งอำนวยความสะดวกที่หัวเว่ยพร้อมที่จะมอบให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในการขยายการเติบโตของ HUAWEI AppGallery บน HMS Core โดยนักพัฒนาที่สนใจสามารถร่วมพบปะพูดคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจและแนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับยุคดิจิทัล พร้อมผลักดันการขับเคลื่อนทางเทคโนโลยีไร้รอยต่อของหัวเว่ย ผ่านทางช่องทางต่อไปนี้

และสามารถเข้าร่วมเป็นนักพัฒนากับหัวเว่ยได้โดยเข้าร่วมกลุ่มเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยสแกน QR Code ตามภาพด้านล่าง

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Huawei Mobile Services และ Huawei AppGallery ได้ที่ https://developer.huawei.com/en/ และ https://consumer.huawei.com/th/mobileservices/appgallery/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook