รีวิว Motorola Razr 5G มือถือ 5G ที่พับได้สุดบางเฉียบกับเทคโนโลยีอันแน่นรอบเครื่อง
Motorola RAZR สำหรับคนในยุคกลางของปี 2000 คงนึกถึงตำนานความบางอย่าง Moto RAZR V3 ที่บางเฉียบและดีไซน์ก้าวกระโดดจากมือถือในยุคเดียวกัน แต่เวลาผ่านไป เมื่อ Motorola ไปอยู่ใต้ชายคาของ Lenovo ก็มีความคิดจะปลุกตำนานตัวนี้ออกมา ล่าสุดก็มาอยู่ในมือของทีม Sanook Hitech แล้วกับ Motorla RAZR 5G เครื่องนี้ เรามาเจาะลึกว่ามือถือรุ่นนี้มันน่าใช้และน่าสนใจแค่ไหนกันในรีวิวชิ้นนี้
แกะกล่อง Motorola Razr 5G
ภายในกล่องแบบสามเหลี่ยมยักษ์ดูอลังการจะมีอุปกรณ์ให้ครบทั้ง
- ตัวเครื่อง
- หูฟัง พร้อมกับตัวแปลง
- สาย USB-C
- ปลั๊กชาร์จไฟกำลัง 18W แบบ Turbo Power
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- คู่มือ
รูปลักษณ์ดีไซน์ Motorola RAZR 5G
เริ่มกับเมื่อยังไม่ได้เปิดฝากันก่อนดีกว่า จะพบกับหน้าจอ G-OLED ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 5 และมีกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash มีรูทั้งหมดบนและล่างเป็นไมโครโฟนสำหรับจับเสียงต่างๆ
รอบตัวเครื่องออกแบบดูดีเพราะมีวัสดุที่มีคุณภาพสูง มาพร้อมกับฝั่งขวามีปุ่มสำหรับเปิด / ปิด ตัวเครื่อง
ฝั่งซ้ายมีมีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง
ส่วนด้านบนจะเป็นที่อยู่ของบานพับเท่านั้น
ด้านล่างมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM อันเดียวเท่านั้น ต่อมาเป็น USB-C สำหรับเสียบกับอุปกรณ์, ลำโพงสนทนา
ด้านหลังของ Motorola RAZR จะมีโลโก้ M ที่ต้องสแกนลายนิ้วมือเท่านั้น และมีโลโก้ RAZR
คราวนี้ถึงเวลากางออกมาแล้ว เราสามารถสอดนิ้วไปด้านข้างเครื่องแล้วผลักอย่างง่ายดาย โดยเมื่อกากแล้วจะไปสุด 180 องศาเพียงอย่างเดียว
ด้านในจะมีจอภาพแบบ P-OLED ขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมกับหูฟังสายสนทนาด้านบน และมีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และหน้าจอจะยาวลงไปสุด แต่ถ้าเวลาพับกลับสังเกตว่าหน้าจอมีการเคลื่อนที่เล็กน้อย เพื่อให้พับได้ลงตัว
ส่วนหลังเครื่องจะมีโลโก้ M พร้อมกับระบบสแกนนิ้ว และมีโลโก้ razr บอกว่านี่คือรุ่นอะไร
ภาพรวมการออกแบบ
ถือว่าเป็นมือถือที่ออกได้สวยและดูลงตัวและพานึกถึงมือถือสมัยก่อนของ Motorola ได้อย่างดีแต่ว่าน่าจะมีซองหนังมาให้ในกล่องเพราะเสี่ยงจะเป็นรอยได้ง่าย
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์ใหม่ของ Motorola Razr 5G
รายละเอียด / สเปกของเครื่อง
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : (ก่อนกาง) 91.7 x 72.6 x 16 มม. | (เมื่อกาง) 169.2 x 72.6 x 7.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 192 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : -
- หน้าจอแสดงผล : ด้านนอก G-OLED ขนาด 2.7 นิ้วความละเอียด 800x600 พิกเซล และหน้าจอภายใน P-OLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 876 x 2142 พิกเซล
- กระจกคลุมจอ ด้านนอก Gorilla Glass 5 ด้านใน กระจกพลาสติกยืดหยุ่นสูง
- ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 865 + Adreno 650
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS, 5G, 4G
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10
- ระบบความปลอดภัย
- สแกนลายนิ้วมือผ่านด้านหลัง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 1 ตัว :
- 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.8, Telephoto
- กล้องดิจิทัลด้านใน : 20 ล้านพิกเซล F/2.1
- แบตเตอรี่ความจุ : 2,800 mAh (แบ่งแบตเตอรี่ 2 ข้าง) + Fast Charge 15W
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type-C
- หน่วยความจำแรม (RAM) : 8 GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) : 256GB
- หน่วยความจำภายนอก : -
- สีสันของเครื่อง : Polished Graphite
ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม
คะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTu = 205,903 คะแนน
คะแนนประสิทธิภาพ จาก Geekbench = 561 คะแนน (Single Core) | 1,384 คะแนน (Multi Core)
เมื่อเห็นคะแนนประสิทธิภาพต้องบอกเลยว่าไม่ได้สูงอย่างที่คิดแต่ก็ไม่ได้แย่ เมื่อนำมาลองเล่นเกมจริงก็พบว่ามันสามารถตอบสนองได้ดีอย่างที่เห็นเป็นมา เรียกได้ว่ามือถือรุ่นนี้ก็มีจุดเด่นในเรื่องนี้อยู่บ้าน แม้ว่าตัวช่วยในการเล่นเกมอาจจะไม่ได้มีมากอย่างที่คิดก็ตาม
การทดลองเชื่อมต่อ / ลองใช้นำทาง
มือถือรุ่นนี้รองรับ 5G แทบจะครบทุกย่านที่เปิดอยู่ในประเทศไทย ณ เวลานี้ ทำให้หมดหวงเรื่องอนาคตได้เลย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 พร้อมกับ WiFi 802.11 AC และยังรองรับ GPS, A-GPS อีกด้วย
การแสดงผล / ระบบเสียง
การแสดงผลของหน้าจอด้านนอกจะได้ความละเอียดที่ 800x600 เท่านั้นแต่สีสันของภาพถือว่าสวยใช้ได้ ส่วนด้านในเป็นแบบ P-OLED ความละเอียดถือว่าสูง และมีความคมชัดทำให้แสดงผลได้ดีอยู่แน่นอน
ส่วนระบบเสียงมีเพียงด้านล่างเพียงอย่างเดียวทำให้เสียงที่ออกมานั้นมีความชัดแต่ว่าน่าขัดเจเพราะเวลาเล่นเกม จะต้องบังตลาดเนื่องจากมันอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ นั่นเอง
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของมือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับ Android 10 ที่กำลังจะมีอัปเดตเป็น Android 11 เร็วๆ นี้ แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างจากมือถือ Pure Android รุ่นอื่นตรงที่มีการครอบส่วนควบคุมที่เรียกว่า My UI สามารถปรับและเพิ่มฟีเจอร์การทำงานได้เช่น
- การแตะปุ่ม Power 2 ครั้งหรือ Double Tap จะเป็นการเรียกโปรแกรมที่เราต้องการใช้บ่อยๆ ขึ้นมา
- Media Controls ปุ่มกดเพิ่มหรือลดเสียงสามารถสั่งงานแทนการแตะหน้าจอเวลาเล่นเพลงหรือชม YouTube
- Attentive Display ฟีเจอร์ไล่ไปนอนด้วยการลดแสงความสว่างหากเราใช้งานไม่เหมาะสม เช่น ห่างเกินไปในเวลานอน
- Screenshot Toolkit ฟีเจอร์วาดเขียนและวงหน้าจอจากภาพที่เรา Capture หน้าจอ
- ยกเครื่องแล้วเสียงเรียกเข้าเบาลง
- ยกเครื่องขึ้นและปลดล็อค หรือ Lift to Unlock
- การปรับแต่สไตล์ของ icon และปุ่ม Layout ต่างๆ
- Peek Display จะแสดงผลเวลาที่เราปิดหน้จอให้ Always On Display ทำงาน แค่กดที่ icon ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมา
นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องมืออื่นๆ เช่นเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, การอำนวยความสะดวกในการย้ายข้อมูล เป็นต้น
แต่ว่าฟีเจอร์ที่โดดเด่นอยู่ที่หน้าจอด้านนอก เพราะคุณสามารถเรียก Applicaion บางตัวเช่นเครื่องคิดเลข, YouTube, การกดโทรออก รวมถึงกล้องที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มาใช้งานได้ทันทีผ่านหน้าจอขนาดเล็กแต่ยังมีพื้นที่ให้ใช้งานอยู่
ส่วนระบบความปลอดภัย มีทั้งระบบสแกนใบหน้า จะทำงานเมื่อเปิดฝาขึ้นมา และระบบสแกนนิ้วมือที่ต้องสแกนผ่านโลโก้ M ของ Motorola ครับ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
สำหรับกล้องของ Motorola RAZR 5G จะมีให้เลือกทั้งกล้องหน้าด้านในความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และกล้องด้านนอกความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เท่านั้น และมี LED Flash มาให้เลือกใช้
ฟีเจอร์ของกล้อง
ฟีเจอร์ของกล้องเหมือนกับ Motorola G 5G Plus ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้มีทั้ง โหมด Pro, Color Spot เลือกสีที่เราต้องการในภาพแสดงแค่สีนั้น, Cinema Graphic แสดงผลเฉพาะจุดที่ต้องการเคลื่อนไหว Portrait และยังสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานที่จอนอกหรือในได้ ทั้งนี้จอด้านนอกจะไม่มีโหมดโปร และ Cinema Graphic เท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพกลางวัน
ภาพแสงน้อย / กลางคืน
ภาพรูปแบบอื่นๆ เช่น ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายภาพอาหาร ระยะใกล้ เป็นต้น
ลองใช้ถ่ายวิดีโอ
Motorola RAZR 5G มาพร้อมกับการรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K 30 FPS, FULL HD แบบ 120 FPS และแน่นอนว่า การถ่าย Slowmotion และ Timelapse ก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม
ผลงานกล้องหน้าของ Motorola RAZR 5G
ส่วนกล้องหน้าด้านในความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ก็พอจะฝากความหวังในการ Video Call ได้ดีและลูกเล่นถอดจากกล้องหลักมาเยอะ แต่น่าเสียดายเครื่องไม่สามารถตั้งฉากแบบ 90 องศา ไม่งั้น มันจะใช้คุยสายยาม Work From Home ได้ดี ส่วนวิดีโอทำได้ความละเอียด FHD เท่านั้น
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาด 2800 mAh ฟังดูเล็กแต่เมื่อใช้งานจริง ถ้าไม่ได้ต่อ 5G มันอยู่ได้สบาย แต่ถ้า 5G มาเมื่อไหร่ ความที่แบตฯมันเล็กทำให้หมดไวก็ตามถามหาทันทีแบบไม่ตั้งตัว โดยการทดสอบ PC Mark ทำได้ราวๆ เกือบ 12 ชั่วโมง
ส่วนระบบชาร์จไฟกำลังรองรับ 15 – 18W ฟังดูแล้วช้าไปหน่อยแต่ถ้าแบตเตอรี่ขนาดมันเล็กแบบนี้ ยังไงก็ถือว่าชาร์จได้เร็ว
สรุปหลังทีม Sanook Hitech ลองใช้ Motorola RAZR 5G สักระยะหนึ่ง
ในภาพรวมหลังจากทดลองแล้ว Motorola RAZR 5G เป็นมือถือที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับยุค 5G เพราะมีการขยายหน้าจอใหญ่ พร้อมกับการรองรับ 5G ครบและน้ำหนักเบา พกสะดวก และสวยเหมือนกับยุค RAZR ที่รุ่งเรือง แต่ว่าลูกเล่นผมว่าแอบน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ามีอะไรให้ตื่นเต้นเช่นการปรับระดับของบานพับได้จะดีกว่านี้แน่นอนครับ
ส่วนราคาเปิดตัวที่ 44,990 บาท ถือว่าสูงพอตัวแต่ว่าถ้ามองถึงมือถือพับได้รองรับ 5G นี่ถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไป นักแต่ถ้าเป็นกลุ่มมือถือทั่วไปคุณอาจจะได้ Galaxy Note20 Ultra ไปแล้ว แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับคุณจะเลือกอะไร แต่สำหรับมือถือเครื่องนี้มันพาทั้งความทรงจำย้อนวันวาน และยังสามารถใช้งานกับยุค 5G ในปี 2021 ได้อย่างดีครับ
จุดเด่น
- เครื่องออกแบบได้สวยและพาย้อนยุคถึงวันวาน
- รองรับ 5G ครบเครื่อง
- สเปกเล่นเกมได้ลื่นอยู่
- กล้องมีระบบกันสั่นโดยใช้ Gyro ทำให้กันสั่นได้แม่นยำ
- หน้าจอสวยและไม่มีรอยพับให้เห็นนัก
ข้อสังเกต
- ลูกเล่นไม่มีอะไรมากนัก
- ไม่ได้ใช้ขุมพลังเรือธง
- ไม่มีเลนส์ Ultra Wide มาให้
- บานพับมีแค่จังหวะเดียวในการเปิด
อัลบั้มภาพ 19 ภาพ