รีวิว Redmi 9T คุ้มค่า สเปคครบ แบตฯ อึด กล้องสวยในราคาไม่ถึง 5 พัน

กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2021 หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอรีวิว Redmi Note 9T สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ที่เปิดตัวไปพร้อมๆ กับ Redmi 9T ให้คุณได้อ่านกันไปแล้ว (และแน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะนำ Redmi 9T มารีวิวให้ได้อ่านกันต่อ)

ครั้งนี้เป็นคิวของ Redmi 9T เป็นสมาร์ทโฟนที่อัปเกรดต่อยอดมาจาก Redmi 9 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ มารีวิวให้ได้อ่านกันอย่างต่อครับ

 สเปกของ Redmi 9T

• หน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ (2340x1080 พิกเซล) แสดงผลแบบ DotDisplay ขนาด 6.53 นิ้ว
• ขนาด : 162.3 x 77.3 x 9.6 มม.
• น้ำหนัก : 198 กรัม
• RAM : 4GB / 6GB 
• ความจุ : 64GB / 128GB รองรับ microSD card
• กล้อง AI 4 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF + มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + Depth และ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 6000mAh
• รองรับกำลังชาร์จไฟ 18W (Fast Charging) 
• ระบบปฎิบัติการ Qualcomm® Snapdragon™ 662｜Octa-core CPU สูงถึง 2.0GHz
• การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0
• ลำโพงคู่
• การเชื่อมต่อ : USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• ระบบ Android 10 ครอบด้วย MIUI 12

รูปร่างหน้าตาและการดีไชต์ภายนอกของ Redmi Note 9T 5G Redmi 9T

สำหรับสีที่เราได้มาทดลองเป็น Redmi 9T มี Sunrise Orange ที่รับรองว่าแค่หยิบมันขึ้นมาถือก็สะดุดตาสุดๆ โดย Redmi 9T รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับมาพร้อมจอหยดน้ำ หน้าหน้าจอแสดงผล FHD + Dot Drop ขนาด 6.53 นิ้ว หน้าจอกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 กรอบพลาสติก ตัวเครื่องส่วนขนาด: 162.3 × 77.3 × 9.6 มม.  และ น้ำหนัก 198 กรัม แรงด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 662 ทำให้ Redmi 9T มีประสิทธิภาพมากๆ ในการใช้งาน

เปิดกล่องแล้วมาดูกันครับในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานอะไรให้มาบ้าง

• ตัวเครื่อง Redmi 9T พร้อมติดฟิล์มกันรอย
• อะแดปเตอร์ ขนาด 22.5 W
• สาย USB Type-C
• เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด
• เคสซิลิโคนใส
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

ได้เวลารีวิว Redmi 9T กันแล้วครับเราคงเริ่มกันที่รูปร่างหน้าตาและการดีไชต์ภายนอกกันก่อน Redmi 9T มาพร้อมการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายด้วยมุมโค้งมนและพื้นผิวด้านหลังป้องกันลายนิ้วมือและนอนว่าเวลาใช้งานหรือหยิบขึ้นมาใช้งานสามารถลดความกังวลเรื่องของเครื่องตกได้พอสมควร!

ด้านบนของหน้าจอมีเพียงลำโพงสนทนาและส่วนของกล้องถ่ายภาพเซลฟี่ที่มาพร้อมความความละเอียด 8MP รับแสงขนาด ƒ/2.0 ติดตั้งอยู่บนรอยบากทรงหยดน้ำ พร้อมรองรับระบบการสแกนใบหน้า (Facial Unlock) ในการปลดล็อกตัวเครื่อง

ด้านหน้าส่วนล่างใช้ปุ่มควบคุมบนหน้าจอประกอบด้วย ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮมและปุ่มย้อนกลับวางเรียงกันอยู่บนหน้าจอด้านล่างครับ

 ขอบด้านบนของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งไมโครโฟนตัวหลัก, ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ลำโพงเสียงสเตอริโอ และ อินฟราเรดสำหรับใช้สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า

ขอบด้านบนของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งไมโครโฟนตัวหลัก,พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C , และลำโพงเสียงสเตอริโอ ตำแหน่งหลัก

ตัวเครื่องด้านขวาเป็นตำแหน่งของ ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint) และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ถัดขึ้นไปเป็นปุ่มปรับระดับเสียง

ต่อกันที่ขอบของตัวเครื่องด้านซ้ายเป็นตำแหน่งของถาดใส่ซิม + รองรับ microSD

พลิกมาดูต่อกันที่ตัวเครื่องด้านหลังของรุ่นนี้กันต่อครับ สำหรับด้านหลัง Redmi 9T มาพร้อมกับดีไชต์โค้งแบบ Unibody สามมิติ พื้นผิวด้านหลังเป็นโพลีคาร์บอเนตเพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะป้องกันรอยแตกและรอยขีดข่วนได้ดี

ส่วนบนของตัวเครื่องด้านหลังเป็นตำแหน่งของกล้องหลังที่มามีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัวประกอบไปด้วยกล้องดิจิตอล 48ล้านพิกเซล +  กล้องอัลต้าไวด์(Ultrawide) 8 ล้านพิกเซล + เลนส์มาโคร(Macro)  2 ล้านพิกเซล + และเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซลและไฟแฟลช LED

ภายในด้านหลังจะมีแบตเตอรี่ Li-Pol 6,000 mAh (Standard Battery) รองรับชาร์จไว 18W (Fast Charging) จะมีขึ้น 2 รูปแบบ จากที่เห็นจะได้กำลังแค่ 10W และ ถ้ามีคำว่าชาร์จด่วนจะได้กำลังที่มากขึ้น

ได้เวลาเปิดเครื่องใช้งานและทำการทดสอบฟังก์ชันพื้นฐานของ Redmi 9T

ข้อมูลทั้งหมดของ Redmi  9T สมาร์ทโฟน 5G ที่แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับ Android 10 บน MIUI 12 เวอร์ชั่นล่าสุด มาพร้อมกับเครื่องมือครบครันและใช้งานง่าย

การตั้งค่าต่างๆ บน Redmi 9T ทำได้เช่นเดียวกับมือถือรุ่นอื่นๆ ครับ

ผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 164,228 คะแนน

และ Geekbench 5 มีคะแนน 314 คะแนนในหมวด Single Core และ 1361 คะแนนในหมวด Multi Core

ฟังก์ชั่นยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน(สแกนใบหน้าและลายนิ้วมือ) เพื่อรักษาความปลอดภัย

สำหรับการยืนยันตัวตนจะมีสองแบบ คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอกับระบบสแกนใบหน้า แค่คุณยกขึ้นให้พอดีกับใบหน้า ก็ปลดล็อคตัวเครื่องแล้ว เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของสมาร์ทโฟน

การตั้งค่าเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านขวาตัวเครื่อง 

การตั้งค่าสแกนใบหน้า

 

เวลาทดสอบเรื่องกล้อง

ต่อกันที่การทดสอบเรื่องกล้องกันหน่อยครับ Redmi 9T มาพร้อมกล้องหลังที่มากถึง 4 ตัวด้วยกันครับ โดยทั้งนี้ตัวประกอบไปด้วย กล้องหลักที่มาพร้อมความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้องอัลต้าไวด์(Ultrawide) 8 ล้านพิกเซล, เลนส์มาโคร (Macro) 2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก (Depth) (Quad Camera) 2 ล้านพิกเซล และมันยังมาพร้อมกับความสามารถในการใช้ AI และการมีฟีเจอร์ Beautify และ Filters มาให้พร้อมในเครื่อง

โหมดถ่ายภาพกลางวัน : 

 

เลือก Filter แบบต่างๆ ได้เพิ่มเติม

ต่อกันที่ตัวอย่างภาพโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพละลายฉากหลัง

โหมดถ่ายภาพกลางคืน : ถือว่าทำได้ดีและมี Night Mode ให้เลือกในราคานี้มักจะไม่ค่อยให้กัน ระหว่างการใช้ Night Mode กับ AI จะแยกโทนออกว่า Night Mode พยายาม Boost ความสว่าง แต่ถ้าเป็น AI จะจัดการเรื่องของสีให้ดีขึ้นและสวยงาม สามารถเลือกใช้ได้แล้วแต่สถานการณ์

ทดสอบกล้องหน้า(เซลฟี่) :

แม้จะมาพร้อมกับราคาไม่ถึง 5 พันแต่ Redmi 9T ก็มาพร้อมกับสเปกของกล้องหน้าที่จัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนในตลาดเดียวกัน ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 8ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/2.0 ทำให้ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหน้าสวยมาก

โหมดหน้าสวย (Face Beauty)และโหมดปรับหน้าสวยอัตโนมัติ (AI Face Beauty)

สรุปให้ฟังถ้าต้องเสียเงินซื้อ Redmi 9T  มันคุ้มค่าแค่ไหน?

หลังได้ทดลองนำ Redmi 9T มาใช้งานจริงระยะหนึ่งพอสรุปได้คร่าวๆ ว่าหากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับเรื่องการดู YouTube หรือฟังเพลง Redmi 9T สามารถทำคะแนนออกมาได้ประทับใจผมนะครับ ด้วยราคาแค่ 4,499 บาท แต่มาพร้อมกับหหน้าจอแบบ FHD+ DotDisplay ขนาด 6.53 นิ้ว และลำโพงคู่เสียงสเตอริโอทำให้มันสามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีเลยครับ

 ต่อกันที่เรื่องของกล้องส่วนตัวผมว่า Redmi 9T สอบผ่านครับ แม้ว่าจะราคาไม่แพงมาก แต่สามารถถ่ายกลางคืนออกมาได้ดีเลย รวมทั้งยังมี AI และโหมด Beautify รวมไปถึง Filters ต่างๆ มาให้พร้อมผมว่าเป็นทีเด็ดของรุ่นนี้หากเทียบกับราคาแถมแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh อย่างอีดเลยครับ

Redmi 9T มีด้วยกัน 2 รุ่น และ 4 สีให้เลือก ได้แก่ Carbon Gray, Twilight Blue, Sunrise Orange และ Ocean Green พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน AIS, dtac, True, Banana, BKK, Kingkong Phone, TG Fone, Jaymart, JD Central, Shopee, Lazada และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ 

• Redmi 9T ขนาดความจุ 4GB+64GB ราคา 4,499 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2564
• Redmi 9T ขนาดความจุ 6GB+128GB ราคา 5,299 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564