รีวิว “Samsung Galaxy Buds Pro” หูฟังไร้สายตัวท๊อป จัดเต็มด้วย ANC ในราคา 6,990 บาท

รีวิว “Samsung Galaxy Buds Pro” หูฟังไร้สายตัวท๊อป จัดเต็มด้วย ANC ในราคา 6,990 บาท

รีวิว “Samsung Galaxy Buds Pro” หูฟังไร้สายตัวท๊อป จัดเต็มด้วย ANC ในราคา 6,990 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อก่อนใครจะคิดว่าสมาร์ทโฟนจะกลายมาเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของคนในยุคปัจจุบันได้ ตอนนี้นอกจากสมาร์ทโฟน แล้วยังมี Gadget หลักอีกตัวที่เราเชื่อว่าเกือบทุกคนต้องมีมันติดตัว ส่วนจะถูกหรือแพงก็ว่ากันไปอีกเรื่อง

ใช่แล้วครับหูฟังแบบไร้สายคือแก็ดเจ็ตที่เรากำลังพูดถึง ในปัจจุบันหูฟังแบบไร้สายมีให้เราเลือกใช้งานหลายหลายขึ้น ไม่ว่าจะหูฟังที่ทำออกมาเพื่อคนรักสุขภาพ หรือหูฟังที่ทำออกมาสำหรับคนชอบเสียงเพลง

27

แต่หูฟังแบบไร้สายที่เรากำลังจะพูดถึงและรีวิวในวันนี้เป็นหูฟังที่ทำมาเพื่อช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น จะฟังเพลง จะประชุม หรืออะไรก็แล้วแต่หูฟังแบบไร้สายตัวนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอน

ซึ่งล่าสุด แบรนด์ Samsung ก็ได้เปิดตัว Galaxy Buds Pro รุ่นใหม่ล่าสุดออกมาให้เป็นตัวเลือกของคนที่กำลังมองหาหูฟังไว้ใช้งาน

Galaxy Buds Pro มาพร้อมกับดีไซน์ของหูฟังไร้สายแบบ Earbuds ใหม่ไม่มีก้านหูฟังเหมือนกับหูฟังไร้สายทั่วไป คล้ายกับ Galaxy Buds Plus แต่ใหญ่กว่า นอกจากนี้ Galaxy Buds Pro ยังรองรับระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation)

คุณสมบัติจำเพาะของ Galaxy Buds Pro

  • ขนาด & น้ำหนัก : หูฟัง: 19.5 x 20.5 x 20.8 มม., 6.3กรัม, เคสชาร์จ: 50 x 50.2 x 27.8 มม., 44.9กรัม
  • ลำโพง: 2 ทิศทาง (11mm woofer + 6.5mm tweeter)
  • ไมโครโฟน : 3 ตัว (2 ด้านนอก + 1 ด้านใน) + Voice Pickup Unit + Wind Shield
  • Ambient Sound: ขยายเสียงภายนอกได้สูงสุด 20 เดซิเบล, ปรับได้ 4 ระดับ'
  • ระบบตรวจจับเสียง
  • ANC: ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุด 99%, ปรับได้ 2 ระดับ
  • Voice Detect: ระบบตรวจจับเสียงเพื่อสลับโหมด ANC และ Ambient Sound โดยอัตโนมัติ
  • ความจุแบตเตอรี่ : ตัวหูฟัง 61 mAh, เคสชาร์จ 472 mAh
  • ระยะเวลาในการฟัง  : 5 ชั่วโมง / รวม 18 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC),8 ชั่วโมง / รวม 28 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC)
  • ระยะเวลาในการสนทนา : 4 ชั่วโมง / รวม 14.5 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC), 5 ชั่วโมง / รวม 17.5 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC)
  • การชาร์จ : ฟังต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง / ชาร์จเร็ว 5 นาที รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0® Codec: Scalable (Samsung proprietary), AAC, SBC
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Gyro, Proximity, Hall, Touch, Voice Pickup Unit (VPU)
  • การรองรับ : Android 7.0 ขึ้นไป, RAM 1.5GB ขึ้นไป
  • มาตรฐานกันน้ำ IPX7
  • สีที่ขายในไทย : Phantom Violet, Phantom Black, Phantom Silver
  • ราคาเปิดตัว 6,990 บาท

26


อุปกรณ์ที่มาในกล่อง

  • ตัวหูฟัง Samsung Galaxy Buds Pro
  • กล่องสำหรับใส่หูฟังและเป็น Charging Case
  • จุกซิลิโคนสำรอง
  • สายชาร์จไฟ USB-C
  • คู่มือ

ดีไซน์และการออกแบบและการออกแบบ Samsung Galaxy Buds Pro

Samsung Galaxy Buds Pro มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ล่าสุด ตัวหูฟังโฉบเฉี่ยวทันสมัยและตอบโจทย์ด้านการใช้งานมากขึ้น โดยซัมซุงได้แรงบันดาลใจในการพัฒนา Galaxy Buds Pro จากรูปทรงสุดไอคอนิกของ Galaxy Buds Live โดยเพิ่มความโค้งรับให้เข้ากับสรีระของหูยิ่งขึ้น ดีไซน์ใหม่นี้ยังลดพื้นสัมผัสระหว่างตัวหูฟังกับผิวหนัง จึงสวมใส่สบาย เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัดแม้ใส่อย่างต่อเนื่อง (แต่มันไม่เหมือน Galaxy Buds Live นะครับแบบว่าดีไซน์ต่างกันเลย)

25

โดยที่ครั้งนี้ตัวเคสจะเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยมขอบโค้งคล้ายกับเคสของ Galaxy Buds Live รุ่นพี่แต่ Galaxy Buds Pro มาพร้อมกับขนาดที่เล็กลงนิดหน่อย ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกรวมไปถึงตอนเก็บลงในกระเป๋าต่างๆ ก็ไม่เป็นปัญหา

20

19

ด้านหน้าของเคสมีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่คงเหลือแบ่งออกเป็น 3 สี มาตรฐานคือ สีแดง (ไฟจะเหลือต่ำควรจะชาร์จไฟ), สีเหลือง(ยังพอใช้งานได้) และสีเขียว (ใช้งานได้)

ด้านล่างของเครื่องสามารถวางชาร์จไฟกับอุปกรณ์ Wireless Charge หรือ จะเป็นมือถือผ่านเทคโนโลยี Wireless Power Share ก็ได้

5_1

เมื่อเปิดด้านในออกมาจะพบกับช่องใส่หูฟัง มีแบ่ง ซ้าย-ขวา ชัดเจน พร้อมแม่เหล็กเพื่อดูดล็อคหูฟังให้ติดกับช่องทำให้การชาร์จไฟเข้าสู่หูฟังมีความต่อเนื่องไม่หลุดเวลาที่กล่องถูกกระแทก

3

ส่วนด้านหลังมีช่องสำหรับเสียบสาย USB-C

7

ในส่วนของตัวเคสด้านข้างๆ ไม่มีอะไร

6

8

ต่อกันที่ส่วนของตัวหูฟังซึ่งเป็นไฮไลท์หลักของ Galaxy Buds Pro รุ่นนี้กันครับ

สำหรับหูฟังรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์ แบบลักษณะของหูฟังอินเอียร์ และมันยังมาพร้อมกับลำโพงไดนามิก 2 ทิศทางที่มีไดรฟ์เวอร์ใหญ่กว่าเดิม เพื่อเสียงที่สมดุลและตอบสนองต่อย่านความถี่ที่กว้างขึ้น ด้วยเสียงอันไพเราะ การันตีคุณภาพของเสียงโดย AKG ซึ่ง Galaxy Buds Pro นี้มอบประสบการณ์เสียงอันทรงพลังและสมจริงที่สุดใน Galaxy Buds ไม่ว่าจะฟังเพลงอัลบั้มใหม่หรือออดิโอบุ๊ก

15

หูแต่ละข้างก็จะมีส่วน TouchPad สำหรับสั่งงาน

14

16

ไมโครโฟนติดตั้งมาให้ 3 จุดแบ่งเป็น 2 จุดด้านนอก โดยอยู่ส่วนล่างที่เป็นช่องไมโครโฟนขนาดใหญ่ทำหน้าที่รับเสียงพูด ตัวที่ 2 อยู่ด้านบนสำหรับเก็บเสียงภายนอก และไมค์ตัวที่ 3 จะอยู่ด้านใน ทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันเป็นฟีเจอร์ AI Active Noise Canceling

12

13

ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Active Noise Canceling (ANC) หนึ่งในฟีเจอร์ที่เจ๋งที่สุด

แน่นอนว่ามันคือฟีเจอร์หลักที่มีในหูฟังรุ่นใหม่ๆ และแน่นอนว่าใน Galaxy Buds Pro รุ่นใหม่ก็มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนหรือ Active Noise Canceling (ANC) ด้วยเช่นกันและบอกเลยว่าในรุ่นนี้มันชาญฉลาดที่สุดในกลุ่มหูฟังไร้สายของ Samsung

page1_1

และทาง Samsung เองยังออกมาการันตีว่า Galaxy Buds Pro สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ตามต้องการสูงสุดถึง 99% เลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถปรับได้ 2 ระดับคือ High กับ Low ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีหูฟังที่ทันสมัยที่สุดของ Samsung ในขณะนี้

และเมื่อคุณเลือกใช้งานในโหมด Ambient Sound ก็สามารถเลือกปรับเสียงสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ถึง 4 ระดับ สูงสุดกว่า 20 เดซิเบล รองรับการใช้หูฟังขณะขับรถบนท้องถนน อย่างน้อยก็ทำให้เรามั่นใจในระดับหนึ่งว่าหากต้องใส่ขณะเดินทางเราจะได้ยินเสียงรอบข้างได้

Voice Detect รับเสียงรอบข้างได้ในทันทีเมื่อได้ยินเสียงพูดของคุณ

เรียกว่าหลายคนต้องถูกใจฟีเจอร์นี้ Voice Detect จะสลับโหมดจาก ANC ไปเป็นโหมดรับเสียงรอบข้าง (Ambient Sound) ซึ่งมันฉลาดชนิดที่สามารถทำงานร่วมกับโหมด Ambient Sound โดยอัตโนมัติเมื่อตัวหูฟังสามารถจับเสียงพูดที่เป็นการสนทนาได้นั้นก็จะทำการเปลี่ยนโหมดจาก ANC มาเป็น Ambient Sound พร้อมขยายเสียงสนทนาให้ดังขึ้น ทำให้เราสนทนากับบุคคลรอบข้างได้สบายๆ โดยไม่ต้องถอดหรือกดเปลี่ยนโหมดใดๆ แต่ถ้าเราหยุดพูด 

ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณอยู่ที่ร้านกาแฟและใช้ ANC เพื่อบล็อกเสียงรบกวนภายนอกอยู่ จะปิด ANC อัตโนมัติเมื่อคุณพูดเพื่อสั่งกาแฟกับบาริสตา

นอกจากนี้หูฟังอัจฉริยะ ยังสามารถปรับลดเสียงลงขณะที่คุณสนทนา ไม่ว่าจะใช้ Ambient Mode หรือปิด ANC อยู่ก็ตาม ระบบจะปรับลดเสียงเพลงลงพร้อมเน้นเสียงจากไมโครโฟนไปยังบุคคลที่คุณสนทนาอยู่

ฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Auto Switch

นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า Auto Switch ใน Galaxy Buds Pro ตรวจพบและสลับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดังกล่าวได้ในทันที ดังนั้นเมื่อคุณดูหนังอยู่ในแท็บเล็ตแล้วมีสายเรียกเข้า Galaxy Buds Pro ก็จะสลับให้คุณได้ยินเสียงเรียกเข้านั้นจากสมาร์ทโฟนแทน จากนั้นเมื่อวางสาย Galaxy Buds Pro ก็จะกลับไปเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณสลับฟังเสียงจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์หนึ่งได้โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอแต่อย่างใด เบื้องต้นฟีเจอร์ Auto Switch ตอนนี้ยังใช้ได้กับ Samsung Galaxy Tab S7, Galaxy S21 Series, Galaxy Note20 Series และ Galax y S20 Series 

ที่สุดแห่งคุณภาพเสียงอันเหนือชั้น คมชัดทุกการสนทนา

Galaxy Buds Pro มอบเสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงสูงที่คมชัด กับซับวูฟเฟอร์ขนาด 11 มม. และทวีตเตอร์ขนาด 6.5 มม. ให้ผู้ฟังเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าบีทฮิปฮอป หรือดนตรีคลาสสิกที่ซับซ้อน ก็เต็มอิ่มด้วยคุณภาพเสียงที่สมดุล คมชัด และสมจริง

ไม่เพียงเฉพาะด้านความบันเทิง แต่ในยุคนี้ หูฟังยังถือเป็นไอเท็มที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเรื่องงานอีกด้วย ดังนั้นคุณภาพเสียงขณะโทรศัพท์นั้นจึงสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่ง Galaxy Buds Pro มาพร้อมไมโครโฟนถึง 3 ตัว พร้อมด้วยเทคโนโลยี Voice Pickup Unit (VPU) จึงสามารถแยกเสียงสนทนาออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 อีกทั้งไมโครโฟนด้านนอก ยังมีค่า SNR หรืออัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนที่สูง จึงช่วยขจัดเสียงรบกวนออกไปได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่รูปทรงของ Galaxy Buds Pro ยังได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อลดการปะทะกับลม ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับเทคโนโลยีกรองเสียงลม (Wind Shield) แล้ว จะช่วยให้ทุกบทสนทนาคมชัดแม้อยู่ในพื้นที่ลมแรงนั่นเอง

เชื่อมต่อ Samsung Galaxy Buds Pro และเริ่มใช้งาน

23

แค่เปิดฝาตัวหูฟังก็จะ Pairing กับสมาร์ทโฟนให้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเพียงแค่คุณต้องทำการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟนเครื่องที่ต้องการเชื่อมต่อ

page1

อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่ง Samsung Galaxy Buds Pro ผ่าน แอปพลิเคชัน  Galaxy Wearable หรือ Samsung Galaxy Buds บน iOS

page2

ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าฟีเจอร์หลักอย่าง Active Noise Canceling (ANC) , Ambient Sound และ Voice Detect  ได้ในนี้ครับ สำหรับการแตะค้างสามารถเปลี่ยนค่าได้ โดยเข้าไปที่ Samsung Galaxy Buds Pro สำหรับ iOS และ Galaxy Wearable สำหรับ Android สามารถเลือกเปลี่ยนได้

  • การปิด-ปิด Active Noise Canceling
  • คำสั่งเสียง(Voice Command)
  • ปรับระดับเสียง แบ่งเป็น ข้างขวา-จะเป็นการเพิ่มระดับเสียง, ข้างซ้าย-เป็นการลดระดับเสียง

page2_1

การตั้งค่าคุณภาพเสียงของ Galaxy Wearable มีให้เลือก 6 รูปแบบประกอบด้วย Normal, Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost

page4

หูฟัง ซ้าย-ขวา ทำหน้าที่อะไรมาดูกัน

การควบคุมด้วยการแตะที่ตัวหูฟัง สามารถควบคุมการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น มาดูต่อกันครับว่าแต่ละข้างของหูฟังทำงานอะไรบ้าง? สำหรับการแตะสัมผัสที่หูฟังจะทำงานตามฟังก์ชั่นดังนี้

28

  • แตะ 1 ครั้ง = เล่นเพลงหรือหยุดเพลง (Play or Pause)
  • แตะ 2 ครั้ง(Double Tap) = เลื่อนเพลงถัดไป หรือ ใช้รับสายหรือวางสาย
  • แตะ 3 ครั้ง(Triple Tap) =  เล่นเพลงก่อนหน้า
  • แตะค้างไว้(Touch and Hold) = จะเป็นการเปิด-ปิดระบบ Active Noise Canceling, ปฏิเสธการรับสาย

แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ

29

เมื่อเปิดโหมด ANC Galaxy Buds Pro จะเล่นเพลงให้คุณฟังได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง กับอีก 13 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคส รวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมงและเมื่อปิดโหมด ANC คุณจะใช้งานได้สูงสุดถึง 28 ชั่วโมง โดยหูฟังจะเล่นเพลงได้ 8 ชั่วโมง และอีก 20 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคสดังนั้นไม่ว่าจะวิดีโอคอล สังสรรค์กับเพื่อน หรือแค่ฟังเพลย์ลิสต์โปรดทั้งวัน Galaxy Buds Pro มีแบตเตอรี่เหลือเฟือที่จะทำให้คุณเชื่อมต่อและฟังสิ่งต่างๆได้อย่างยาวนานและเพลิดเพลิน

  • ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว เพียงชาร์จ 5 นาที ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 60 นาที
  • Wireless PowerShare รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ทำให้คุณชาร์จไฟได้ทุกที่อย่างสะดวก เพียงวาง Galaxy Buds Pro บนด้านหลังของสมาร์ทโฟน Galaxy

แต่อายุแบตเตอรี่อาจะแตกต่างออกไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น การตั้งค่าฟังก์ชัน, รูปแบบไฟล์ที่เปิดฟัง, และความแรงของสัญญาณ Bluetooth ด้วยเช่นกันครับ

มาตรฐาน IP57 ก็จะสามารถกันได้ทั้งฝุ่น และน้ำ / การตามหาหูฟัง

33

Galaxy Buds Pro มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในไลน์อัปของหูฟัง Galaxy Buds จากซัมซุง IPX7 ทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยสามารถแช่ในน้ำจืดที่ความลึก 1 เมตรได้เป็นเวลา 30 นาที ไม่แนะนำการใช้งานกับกรณีน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ เพราะหูฟังไม่สามารถกันน้ำได้ระดับนั้นและอาจจะเกิดความเสียหายได้ ส่วนตัวเคสไม่กันน้ำ หากตัวหูฟังหรือมือของผู้ใช้เปียกน้ำ ต้องเช็ดให้แห้งก่อนนำไปใส่ในเคส 

ส่วนใครที่ชอบทำของหายไม่ต้องกลัวเพราะ Galaxy Buds มาพร้อมกับ ฟีเจอร์ SmartThings Find ที่ช่วยระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ แม้อยู่ห่างไกลจากสัญญาณบลูทูธต่อไปไม่ต้องกลัวหูหายอีกแล้ว...

page3

สรุปให้ฟังหลังได้ทดลองใช้งาน Samsung Galaxy Buds Pro

5

 ดีไซน์ตัวหูฟังอาจดูเป็นตุ่มๆ นูนๆ แต่เอาเข้าจริงแล้ว Galaxy Buds พอใส่เข้าไปแล้วกลับดูพอดีกับใบหู ไม่ดูเทอะทะหรือยื่นออกมาจนน่าเกลียด ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างแน่นแบบพอดีกับรูหู ไม่อึดอัดหรือเจ็บหู ใส่วิ่งหรือแม้แต่ขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่มีลมตีแรงๆ ก็ยังไม่หลุด

สำหรับใครที่สงสัยว่า เอ๊ะ! แล้วหูฟังรุ่นนี้หาเราโทรผ่านหูฟัง แล้วจะทำงานได้ดีหรือไม่ เพราะเราเชื่อว่าหากคนที่เคยใช้หูฟังแบบนี้ มักกังวลเรื่องความเสถียรของการใช้งานหากต้องนำมันมาเป็นอุปกรณ์เสริมในการคุยสาย

ส่วนตัวหลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน Samsung Galaxy Buds Proมาเกือบเดือนและบอกไว้ตรงนี้เลยว่าหูฟังมือถือของเราพังดังนั้นเกือบทุกครั้งที่ใช้ Galaxy Buds Live โทรออกหรือรับสาย มันสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ค่อนข้างดีครับ อีกทั้งมันยังมาพร้อมกับความสามารถในการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) คุณภาพสูงเข้าในหูฟังทั้ง 2 ข้าง ทำให้เสียงระหว่างสนทนานั้นมีความชัดเจน ปลายทางได้ยินเราชัดเจนและตัวเราเองก็คุยสายได้ดี อีกฝั่งได้ยินและสามารถคุยกันรู้เรื่อง(สบายใจได้)

32

Galaxy Buds Pro สามารถแยกระหว่างเสียงรบกวนกับเสียงพูดได้ สามารถสลับโหมด Ambient Sound แบบชั่วคราว และเมื่อมีการพูดคุย จะลดเสียงของคอนเทนต์ลง เพื่อให้ได้ยินเสียงสนทนาของตัวเองได้ชัดขึ้นโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก

การเล่นเกมและดูสตรีมมิ่ง ไหนๆ เราจะต้องเสียเงินซื้อของราคาระดับนี้ไว้ใช้งานแล้วเราก็ทดลองเล่นให้ครบเลยละกัน เรื่องที่จะเล่าต่อไปคือการนำหูฟังของ มาการทดสอบเล่นเกมส์และดูซีรี่ส์อย่าง WeTv ผลที่ได้คือประทับใจนะเสียงดีและไม่มีอาการดีเลย์ให้หงุดหงิดเลย

1

Galaxy Buds Pro ช่วยเติมเต็ม Galaxy Ecosystem พร้อมมอบการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากซัมซุงที่ง่ายดายและลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยการตั้งค่าใดๆ ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่ดูซีรี่ส์อยู่แต่มีสายเรียกเข้ามาที่ Galaxy S21 ฟีเจอร์ Auto Switch จะทำหน้าที่ช่วยหยุดวิดีโอชั่วคราว แล้วสลับไปรับสายโทรศัพท์ผ่าน Galaxy Buds Pro ให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย ก็จะสลับกลับมาเล่นวิดีโอบนแท็บเล็ตได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

30

และเมื่อตรวจจับได้ว่ามีการสนทนา Galaxy Buds Pro จะสลับโหมดจากการตัดเสียงรบกวนเป็นขยายเสียงให้แทนพร้อมลดความดังของคอนเทนต์ที่ฟังอยู่ลง เพื่อให้ผู้ใส่ได้ยินเสียงสนทนาของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องถอดหูฟัง

อีกเรื่องที่อยากจะบอกว่าวิศวกรของ Samsung ทำงานออกมาได้ดีมากคือ Samsung Galaxy Buds Pro โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกล้า แม้สวมใส่ติดต่อยาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม โครงสร้างตัวหูฟังของ Galaxy Buds Pro รุ่นนี้ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อช่วยให้ตัวหูฟังนั้นรองรับกับสรีระของหูในหลากหลายรูปแบบ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวหูฟังรุ่นนี้ถึงมาการสวมใส่นานๆ ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดครับ ใส่สบาย จนทำให้คุณลืมไปว่าคุณสวมใส่หูฟังอยู่ ที่สำคัญไม่หลุดร่วงง่ายขณะออกกำลังกาย 

แต่อย่างที่บอกครับว่าสำหรับความพึงพอใจ ดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบมันมาจากรสนิยมส่วนตัวล้วนๆ ดังนั้นผมหวังเพียงแค่ว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยในการประกอบการตัดสินใจใครหลายๆ ที่กำลังมองหาหูฟังแบบนี้ไว้ใช้งาน (อย่าเอารีวิวผมเป็นตัวตัดสินใจ และอย่าตำหนิผมหากคุณได้ลองเล่นแล้วเราจะรู้สึกไม่เหมือนกัน)

อย่างที่ทราบกันดีแหละครับว่าตอนนี้ในท้องตลาดมีหูฟังแบบนี้หลายค่าย หลายรุ่นให้เราได้เลือกหามาใช้งานมากมาย ดังนั้นออกไปลองเล่นและทดลองฟังกันก่อนจะเป็นการดีที่สุด เพราะของพวกนี้ราคาก็ไม่ถูกเลย ส่วนที่ถูกหลักร้อยเชื่อเถอะว่าคุณภาพมันคนละเรื่องกับของพวกนี้จริงๆ หากเราต้องเสียเงินแล้วผมก็หวังให้คุณได้สินค้าดี และมีอายุการใช้งานนานๆ ไว้ใช้กัน

สำหรับผมขอหูฟังไร้สาย Samsung Galaxy Buds Pro ถือเป็นไอเทมที่คุ้มค่ากับการเสียเงินอีกตัวในปีนี้ไปเลยครับ

galaxybudspro_lifestlye(1)

Samsung Galaxy Buds Pro มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สีสุดโมเดิร์นได้แก่ Phantom Black, Phantom Silver และ Phantom Violet และวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook