รีวิว “Amazfit GTS 2” สมาร์ทวอทช์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัย
ดูเหมือนต้นปีจะมีของส่งมาให้เรารีวิวกันอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับรอบนี้เป็นคิวของสายรัดข้อมืออัจฉริยะอย่างเจ้า Amazfit ที่รอบเรา Amazfit GTS 2 ได้มาทดลองเล่นและรีวิวให้ได้อ่านกัน
คงเถียงไม่ได้ว่าตอนนี้ Amazfit เป็นอีกชื่อที่เข้ามานั่งอยู่กลางใจหลายๆ คนหากว่าตอนนี้คุณกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดแต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติเทียบเท่าสมาร์ทวอทช์ราคาแพง
Amazfit GTS 2 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราครับ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนรักสุขภาพในตลาดตอนนี้เลย เพราะมันพร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครัน แถมด้วยดีไซน์แนว Unisex รับรองว่ายิ่งถูกใจหลายๆ คเข้าไปอีกจะเป็นชายหรือหญิงก็ใส่ได้อย่างลงตัว
Amazfit GTS 2 มาพร้อมโหมดการออกกำลังกาย 12 รูปแบบ ตรวจจับข้อมูลได้แม่นยำ และมันยังมาพร้อมกับดีไชต์สวยงาน จอ AMOLED ทรงสี่เหลี่ยมขนาด 1.65 นิ้ว แม้ยามต้องใช้งานกลางแสงจ้าเราก็สามารถมองเห็นตัวเลขได้ชัดเจนครับ
Amazfit GTS 2 มาพร้อมเซ็นเซอร์ BioTracker 2 PPG ที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก โซนอัตราการเต้นของหัวใจ และแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่เข้าใจสุขภาพหัวใจของตนเองมากขึ้น
ข้อมูลตัวเครื่อง Amazfit GTS 2
- จอแสดงผล AMOLED แบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 1.65 นิ้ว
- ความละเอียด 348 x 442 พิกเซล (341 ppi)
- กระจกป้องกัน 2.5D
- ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
- ระบบปฏิบัติการ : AMAZFIT OS
- หน่วยความจำ : 3GB
- มี 12 โหมดให้เลือกและแตกต่างกัน 100 โหมด
- โมดูล NFC, ชิปนำทาง GPS + GLONASS
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- กันน้ำระดับ 5ATM
- ความจุของแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 14 วัน (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
- การชาร์จหนึ่งครั้งจะใช้เวลาเพียง 25 ชั่วโมง
- ทำจากอะลูมิเนียม ความหนา 9.8 มม.
- น้ำหนัก : 24.7g (รวมสาย)
- มีไมโครโฟนในตัว
- รองรับ : Android 5.0 และ iOS 10.0 ขึ้นไป
- แอพที่ใช้เชื่อมต่อ : Zepp (formerly Amazfit)
- มี 3 สีให้เลือกใช้งาน Desert Gole, Urban Grey และ Midnight Black พร้อมจำหน่ายในราคา 5,599 ครับ
อุปกรณ์ที่มีมาในกล่องประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Amazfit GTS 2
- ด้านแท่นชาร์จ
- คู่มือการใช้งาน
มาดูกันดีกว่าครับว่าสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Amazfit GTS 2 จะมีดีไซน์เป็นอย่างไร และตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุมแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อมๆ กับรีวิวนี้ได้เลย
เริ่มด้วยเรื่องรูปร่างและการดีไซน์ของ Amazfit GTS 2
เริ่มต้นที่กล่องผลิตภัณฑ์กันก่อน Amazfit GTS 2 มาพร้อมกับกล่องสีขาวขนาดไม่ใหญ่มากนัก ที่ด้านหน้ามีการพิมพ์ดีไซน์ของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ชื่อรุ่น และสีของผลิตภัณฑ์ไว้อย่างเด่นชัด
เรียกว่าเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ในซีรีส์ GT ที่ทำออกมาได้สวยมากๆ ครับตัวเรือนดีไซน์เป็นรูปทรงสีเหลี่ยม ขอบโค้งมน ตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียมสวยงาม ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
ตัวเรือนกระจกของ Amazfit GTS 2 ดีไซน์แบบ 3D CURVED กระจกมีความโค้งครอบตัวเรือนทั้งหมด ตัวเรือนทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก เคลือบด้วยคาร์บอนเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักตัวเรือนเบาเพียง 24.7 กรัม
Amazfit GTS 2 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลสีแบบทัชสกรีนหน้าจอของ Amazfit GTS 2 เป็นเเบบ AMOLED display ขนาด 1.65 นิ้ว ความละเอียด 341 ppi ความสว่าง 450 nit แสดงผลคมชัด จอสว่าง สามารถมองในที่เเสงจ้า
ตัวเครื่องด้านขวาเป็นมีปุ่มกดด้านข้างจำนวน 1 ปุ่ม เป็นการเรียกใช้งานเมนูหลักครับ กด 1 ครั้งหน้าจอก็จะเข้าไปเมนูหลักให้เราพร้อมใช้งานได้เลย ส่วนใครอยากจะตั้งค่าเพิ่มเติมก็ทำได้ไม่ยากครับ ให้คุณสไลด์จอลงไปเรื่อยๆ ตัวไอคอนการตั้งค่าจะอยู่ที่ด้านล่างสุดครับ
Amazfit GTS 2 ไมโครโฟนและลำโพงภายในตัว
ที่ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของจุดชาร์จเพื่อชาร์จไฟและมีตัวเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ด้านการชาร์จแบตเตอรี่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากแท่นชาร์จ และด้านหลังตัวเครื่องต่างเป็นขั้วแม่เหล็กเหมือนกันทั้งคู่ ทำให้สามารถวางเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยทันที
สายนาฬิกาของ Amazfit GTS 2 ทำจากซิลิโคนอย่างดีที่มีความยืดหยุ่นสูง สวมใส่สบาย สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ระคายเคืองต่อผิว ทั้งยังสามารถทนได้ทั้งอุณหภูมิเย็นและร้อนได้เป็นอย่างดี โดยใช้ตัวล็อคแบบหัวเข็มขัดสามารถปรับขนาดได้ตามข้อมือของผู้สวมใส่ได้เลย ข้อมือเล็กหรือข้อมือใหญ่ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ
สายนาฬิกา Amazfit GTS 2 สามารถถอดเปลี่ยนได้เอง สามารถทำการเปลี่ยนด้วยตัวเองได้ลักษณะคล้ายๆ กับการเปลี่ยนสายของ Fitbit ครับ
ต่อกันที่แบบหน้าจอแสดงผลของ Amazfit GTS 2
มาต่อกันที่เรื่องของฟีเจอร์ Amazfit GTS 2 ที่มีมาให้มาดูกันครับว่ามันจะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาสัมผัสไปพร้อมๆ กันเลย ในส่วนของฟีเจอร์หลักๆ บนหน้าปัดของ Amazfit GTS 2 หากทำงานผ่านตัวเรือนหูนาฬิกาอัจฉริยะบอกเลยว่าฟีเจอร์สุขภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ Amazfit GTS 2 มีมาให้คุณครบครันในราคาแค่นี้
หน้าปัดสมาร์ทวอทช์จะเเสดงข้อมูลที่จำเป็น คือ บอกเวลา, บอกวันที่, เเละจำนวนก้าว, เวลาหน้าจอล็อก ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่
นอกจากนี้มันยังสามารถแสดงการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ รวมถึงโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 14 แบบ และ จุดเด่นอย่างการตรวจวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจแบบตลอด 24 ชั่วโมง(Heart Rate) และการตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2 )
และที่สำคัญมันยังมาพร้อมกับระบบ PAI™ Health Assessment System ที่สามารถแปลงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามกิจกรรม และข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ออกมาเป็นคะแนน PAI ให้ได้รู้สภาพความฟิตของคุณได้โดยสะดวก
การเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรกและการทดสอบฟังก์ชันต่างๆ ของ Amazfit GTS 2
เมื่อเปิดใช้งานนาฬิกา Amazfit GTS 2 ครั้งแรกต้องทำการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน Zepp ครับ ตัว Apps จะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทำการจับคู่นาฬิกากับสมาร์ทโฟนก่อน โดยสามารถทำได้ง่ายๆ สามารถเปิดแอปพลิเคชัน Zepp ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านตัว Amazfit GTS 2 ได้ทันที
แอปพลิเคชัน Zepp สามารถโหลดได้ทั้งบนอุปกรณ์แอนดรอยด์และ iOS ระบบจะทำการสแกนหานาฬิกา Amazfit GTS 2 ที่อยู่รอบๆ ผ่านสัญญาณ Bluetooth ครับ
เมื่อจับคู่นาฬิกา Amazfit GTS 2 กับสมาร์ทโฟนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะให้คุณทำการกรอกข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นอย่าง เพศ, วันเกิด, ส่วนสูง, น้ำหนัก เช่นเดียวกับนาฬิกาสุขภาพของค่ายอื่นๆ ตรงนี้ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ
หลังทำการเชื่อมต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเริ่มใช้งาน Amazfit GTS 2 บนแอปพลิเคชัน Zepp สำหรับผมเท่าที่เล่นๆ ไถ่ๆ ไปมาผมว่าโหมดต่างๆ บน แอปพลิเคชัน Zepp ก็ไล่ๆ กับบนตัวสมาร์ทวอทช์เพียงแต่เราสามารถตั้งค่าและแสดงผลให้วิเคราะห์ได้ลึกมากกว่าและแสดงกราฟได้ชัดเจนมากกว่าครับ (ดูจากตัวอย่างที่ผมนำมารีวิวให้ดูบางส่วนก็ได้นะครับ)
มาดูกันครับว่าเบื้องต้นในหน้าแอปพลิเคชันมีอะไรให้เราได้เล่นกันบ้าง เอาจริงๆ มันก็คล้ายๆ กับหน้าตาที่แสดงบนหน้าปัดนาฬิกาครับ เพียงแค่มีรายละเอียดที่มากขึ้น
นอกจากนี้ในตัวแอปยังมีหน้าปัด Watch Face ให้เราเลือกมากมายหลายกว่า 40 รูปแบบถ้าเท่านี้ยังไม่จุใจเราสามารถเข้าไปโหลดเพิ่มเติมได้เพิ่มผ่านแอปพลิเคชัน Zepp
Amazfit GTS 2 มาพร้อมกับโหมดออกกำลังกายกว่า 90 รูปแบบ, สามารถติดตั้งเพลงลงบนอุปกรณ์ได้, เซนเซอร์ตรวจจับสุขภาพหลากหลายชนิด, แบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 20 วัน, ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงในตัว, รองรับการใช้งาน GPS + GLONASS และกันน้ำระดับ 5ATM
Amazfit GTS 2 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การจดจำอัจฉริยะ (Smart Recognition) เปิดใช้งานหนึ่งใน 90 โหมดกีฬาที่คุณต้องการและหลังจากออกกำลังกายเสร็จสิ้นนาฬิกาจะสร้างรายงานการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องซึ่งสามารถดูได้ในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อช่วยให้คุณปรับปรุงแผนการออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง การจดจำโหมดกีฬาอย่างชาญฉลาดยังทำให้ไม่จำเป็นต้องเลือกโหมดกีฬาด้วยตนเองดังนั้นนาฬิกาจึงพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ
สนทนาผ่านสมาร์ทวอทช์ได้ทันทีเพียงแค่เชื่อมต่อกับมือถือผ่านบลูทูธ
สมาร์ทวอทช์ติดตั้งไมโครโฟนและลำโพงภายในตัว เพื่อผู้ใช้งานสามารถรับสายบนอุปกรณ์ได้ในทันทีเมื่อไม่สะดวกในการหยิบโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงการสนทนาผ่านทางสมาร์ทวอทช์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพียงแค่เชื่อมต่อผ่านทางระบบบลูทูธเท่านั้น จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันจากนาฬิกา ได้ด้วยตนเอง โดยผู้ใช้สามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการแจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง เช่น Facebook, Line, Gmail หรือข้อความ SMS รวมไปถึงการแสดงเมื่อมีคนติดต่อเข้ามา(การโทรเข้า-โทรออก)
แบตเตอรี่ของ Amazfit GTS 2 สามารถใช้งานได้ 7 วัน ในโหมดพื้นฐาน แต่ถ้าใช้แค่โหมดนาฬิกาจะอยู่ได้นานถึง 20 วัน ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ
สรุปความประทับใจที่มีต่อหลังได้ทดลองใส่ใช้งาน
บอกได้เลยว่ามันเป็นอุปกรณ์เสริมราคาย่อมเยาที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันบอกเลยว่าด้วยราคาแค่นี้เมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นด้านการดูแลสุขภาพที่มีใน Amazfit GTS 2 ซึ่งเขาอัดมาให้แบบแน่นๆ ผมว่าโครตคุ้ม
เอาเป็นว่าสำหรับใครที่สนใจอยากได้สมาร์ทวอทช์คุณภาพดีๆ ในราคาประหยัดไว้ใช้งานแล้วละก็ผมขอนำเสนอ Amazfit GTS 2 ให้เป็นตัวเลือกอีกรุ่นละกันครับ! พูดถึงความคงทน ความสวยงามกับราคา 5-6 พันผมว่าน่าสนใจมากๆ
Amazfit GTS 2 Sport Watch เป็นสมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวยงาม ล้ำสมัย จากแบรนด์ Amazfit ในราคาสุดคุ้มค่าเพียง 5,599 บาท มี 3 สี Desert Gole, Urban Grey และ Midnight Black
อัลบั้มภาพ 23 ภาพ