รีวิว ASUS Vivobook 14 (D413UA) คอมพิวเตอร์แสนสะดวกพก กับขุมพลัง AMD Ryzen 5000 Series

ไม่นานมานี้ ASUS ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์บนขุมพลัง AMD Ryzen รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง 5000 Series หนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจเพราะมีราคาไม่แพง นั่นคือ Vivobook 14 ในรหัส (D413UA) มันเจ๋งจริงไหม และมันแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ไหม ทีม Sanook Hitech ได้ลองห้คุณแล้ว มารับชมกันเลย

รูปลักษณ์และดีไซน์ของ ASUS Vivobook 14 (D413UA)

การออกแบบของ vivobook 14 ตัวนี้ยังไม่ได้เป็นรุ่นปรับโฉม ดังนั้นการออกแบบภาพรวมก็ยังคงเหมือนกับรุ่นที่เพิ่งรีวิวไปในช่วงปลายปี 2020 เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าของเครื่องจะมีโลโก้ ASUS Vivobook ที่เด่นชัดมาก โดยเฉพาะเครื่องที่ได้ทดลองเป็นสีดำ ทำให้โลโก้เป็นสีเงินออกมาสวยและดูดีครับ

รอบตัวเครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบอุปกรณ์ครบประกอบด้วยฝั่งซ้ายจะมี ช่องชาร์จไฟ, HDMI,USB-A เวอร์ชั่น 3.2, USB-C และ ช่องเสียบหูฟัง เรียกได้ว่าครบเครื่องเช่นเดียวกัน

ฝั่งขวาจะมี ช่องเสียบ USB-A ทั้งหมด 2 ช่องพร้อมกับ Card Reader แบบ MicroSD และไฟสถานะทั้งเปิด / ปิด หรือจะเป็นไฟสถานะของ Hard Disk

ด้านหน้าของตัวเครื่องจะมาาพร้อมกับร่องสำหรับเปิดฝาเครื่องที่ยกแล้วสามารถใช้งานได้ทันที

ส่วนด้านหลังมีบานพับขนาดใหญ่ และมีช่องระบายอากาศได้อย่างดี และเอียงหน้าจอได้สุดตามรูปด้านล่างนี้ โดยตัวเครื่องสามารถเปิดได้มุมที่ 178 องศา

ใต้เครื่องนอกจากลำโพงที่มีการปรับจูนโดย Harman / Kardon แล้วยังมีช่องระบายอากาศให้มาด้วย 

เมื่อเปิดฝาหน้าจอจะพบกับหน้าจอขนาด 14 นิ้วแบบ Nano EDGE ขอบชิป บนสุดมี Webcam ความละเอียด HD พร้อมกับไมโครโฟนคู่ พร้อมกับ Keyboard ปุ่มขนาดกำลังดี ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มากทำให้คุณถือใช้งานได้อย่างสบายทั้งวัน และนอกจากนี้ Keyboard ยังมีไฟ Backlit ปรับได้ 3 ระดับ 

ภาพรวมของการออกแบบ

 

ยังคงมีดีไซน์ที่เหมือนกับ Vivobook S14 ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แต่สีสันจะค่อนข้างแตกต่างโดยรุ่นนี้จะสีเรียบง่ายกว่า เพราะมีให้เลือก 3 สี แต่จะสะดุดตาด้วยปุ่ม Enter สีเหลืองสวยงาม และการจัดวางช่องเสียบครบเครื่อง หน้าจอด้านกันทำให้จับสัมผัสแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ

แต่น้ำหนักของเครื่องมองว่ามันหนักไปหน่อยเท่านั้นเอง

เปิดเครื่องลองใช้งาน ASUS Vivobook 14 (D413UA)

รายละเอียดสเปกของ ASUS Vivobook 14 (D413UA)

• หน้าจอแสดงผลขนาด 14 นิ้วความละเอียด 1920x1080 พิกเซล
• ขนาด : 324.9 x 215 x 9 มิลลิเมตร
• หนัก : 1.45 กิโลกรัม
• ชิปเซ็ตประมวลผล : AMD Ryzen 5700U Processor
• ชิปประมวลผลกราฟิก : AMD Radeon Graphics
• RAM : 8GB
• ความจุ(ROM) : SSD 512GB + MicroSD
• กล้องหน้า : HD Camera
• ตัวเชื่อมต่อ (Port) ช่องเสียบหูฟัง, HDMI, USB-C 2 1 ช่อง, USB 3.2 1 ช่อง, USB 2.0 2 ช่อง ที่เสียบชาร์จไฟ
• เชื่อมต่อ WiFi 11 AX, Bluetooth V5.0
• ระบบปฏิบัติการ : Windows 10 64 Bit
• แบตเตอรี่ขนาด 42 Wh 3 Cell ที่ชาร์จแบบ 45W Power Adapter (Output: 19 V DC, 42 A, 65 W) (Input: 100 -240 V AC, 50/60 Hz universal) สายแบบปกติ

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ ASUS Vivobook 14 (D413UA)

 

 

จุดที่แตกต่างของคอมพิวเตอร์รุ่นนี้คือประสิทธิภาพจริงๆ เพราะเมื่อดูแล้วคุณไปดูเทียบกับรุ่นที่แล้วแม้ว่าจะเป็น AMD Ryzen 4000 Series หรือ Intel Core Gen 11 เห็นว่า AMD Ryzen 5000 Series สามารถทำงานกราฟิกได้ดีกว่า ดังนั้นถ้าใครต้องทำงานกราฟิกระดับเล็กๆ ที่พกง่ายและไว้ Present งาน หรือ ต้องการคอมพิวเตอร์แบบ All in One ทำงานได้ทุกอย่างนี่เป็นคำตอบที่ดี

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงของ ASUS Vivobook 14 (D413UA)

หน้าจอขนาด 14 นิ้วแบบ NanoEDGE Display ให้ความกว้างที่มากพอสมควร จนเรียกได้ว่าเหมาะสมไม่น้อยเลยครับ แต่ว่าสิ่งที่ดีของรุ่นนี้คือการแสดงผลของหน้าจอที่คมชัด แต่หน้าจอเป็นแบบด้านครับ

ส่วนระบบเสียงนั้น ได้ลำโพงคู่จาก Harman / Kardon คุณภาพถือว่าดีใช้ได้ แต่ว่าถ้าอยากให้เสียงปรับได้ตามใจก็ยังมีฟีเจอร์ปรับเสียงจาก Audio Wizard มาให้ปรับได้ละเอียดยิบ และไมโครโฟนของเครื่องมีระบบ AI Noise Canceling ตัดเสียงรบกวนได้ด้วย

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของตัวเครื่อง / ระบบปฏิบัติการ

ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ ASUS Vivobook 14 รุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมกับ Windows 10 Home Edition และมาพร้อมกับ Microsoft Office 365 ติดตั้งลงมาให้ส่วนระบบความปลอดภัยยังคงมีแค่ Pin ทำงานร่วมกับ Windows Hello เท่านั้น และบางรุ่นจะมี ระบบสแกนลายนิ้วมือเป็น Option

แต่ว่าฟีเจอร์ภาพรวมของ ASUS Vivobook 14 ยังคงได้โปรแกรมจัดการการเครื่องที่ชื่อว่า My ASUS ผมว่าสะดวกดีเพราะโปรแกรมนี้สามารถทำได้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น 

• การตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นของเครื่อง รวมถึงการขึ้น Blue Screen 
• อัปเดต Software ภายในเครื่อง 
• AppDeal สำหรับคนที่อยากได้ของถูกและเสียตังค์น้อย ASUS ก็จัดมาให้ 
• ติดต่อกับ Call Center ผ่านเครื่องได้ 
• โปรแกรมจัดการแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน หรือต้องการถนอมแบตเตอรี่ 
• Link to MyASUS เชื่อมต่อกับมือถือได้แบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นการแชร์หน้าจอ, File, แชร์หน้าจอ เป็นต้น 

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ

สำหรับแบตเตอรี่ของเครื่องมีขนาด 42Wh ขนาด 3 Cell ถูกเคลมว่าใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมเป็น 13 ชั่วโมง แต่เมื่อใช้งานแล้วถ้าได้ 8 ชั่วโมงถือว่าสอบผ่านแล้วครับ

ส่วนระบบชาร์จไฟยังให้ Adapter ขนาดเล็กมีกำลัง 45W Power Adapter (Output: 19 V DC, 3.42 A, 65 W) (Input: 100 -240 V AC, 50/60 Hz universal) ถ้ารองรับ USB-C จะดีมากขึ้นกว่านี้ครับ

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้ ASUS Vivobook 14 (D413UA) มาสักระยะเวลาหนึ่ง

เป็นอีกคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้การทดลองภายในเครื่องมากกว่ากายภาพด้านนอกที่ดีอยู่แล้วกับขุมพลัง AMD ชุดใหม่จะมีการออกแบบให้เน้นเรื่องการทำงานกราฟิกที่ดีกว่า Intel และสามารถใช้งานได้ยาวนาน อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากรู้ว่าคอมพิวเตอร์รุ่นนี้จะมีเกรดให้เลือกเยอะขนาดไหน มารับชมกันต่อด้านล่าง

• D413UA-EB001TS (Indie Black) / D413UA-EB002TS (Transparent Silver) / D413UA-EB003TS (Hearty Gold) ราคา 20,990 บาท: AMD Ryzen 5 5500U, 8GB DDR4, 512GB PCIe SSD, 14” FHD IPS, Wi-Fi 6, White backlight keyboard, Windows 10 Home, MS Office Home and Student 2019
• D533UA-BQ001TS (Indie Black) / D533UA-BQ002TS (Dreamy White) / D533UA-BQ003TS (Gaia Green) / D533UA-BQ004TS (Resolute Red) / ราคา 21,990 บาท: AMD Ryzen 5 5500U, 8GB DDR4, 512GB PCIe SSD, 15.6” FHD IPS, Wi-Fi 6, White backlight keyboard, Windows 10 Home, MS Office Home and Student 2019
• D413UA-EB004TS (Indie Black) ราคา 25,990 บาท: AMD Ryzen 7 5700U, 16GB DDR4, 512GB PCIe SSD, 14” FHD IPS, Wi-Fi 6, White backlight keyboard, Windows 10 Home, MS Office Home and Student 2019
• D533UA-BQ005TS (Indie Black) ราคา 26,990 บาท: AMD Ryzen 7 5700U, 16GB DDR4, 512GB PCIe SSD, 15.6” FHD IPS, Wi-Fi 6, White backlight keyboard, Windows 10 Home, MS Office Home and Student 2019

ซึ่งเครื่องที่ทีมได้มาทดลองคือสเปกที่มราคาราวๆ 25,990 บาท หรือ ตัวท็อปของรุ่นนี้ในขนาด 14 นิ้ว แต่ถ้าใครมีงบไม่พอก็จัดรุ่นเริ่มต้นเพียง 20,990 บาท ก็ถือว่าเลือกเพียงพอแล้ว ถ้าจะสมบูรณ์แบบก็คงต้องให้ที่ชาร์จไฟ USB-C เท่านั้นเองครับ เป็นอีกรุ่นที่สามารถเลือกซื้อหามาได้อย่างง่ายดาย

จุดเด่น

• ตัวเครื่องออกแบบสวยและเบา
• สเปกถือว่าแรงและใช้งานไดนาน
• มีสีสันให้เลือกเยอะ
• ช่องเสียบมาครบ

ข้อสังเกต

• ยังไม่สามารถชาร์จไฟด้วย USB-C ได้