รีวิว Redmi Note 10 สมาร์ทโฟนระดับกลาง จัดหนักด้วยคุณภาพกล้อง 4 ตัว
กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget จาก Sanook Hitech อีกครั้ง เรามาดูกันว่าสำหรับรีวิวรอบนี้จะมาพบกับมือถือรุ่นใหม่อย่าง Redmi Note 10 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมพอสมควร เรามาดูว่ามันจะเป็นอย่างไร
แกะกล่อง Redmi Note 10 .
ภายในกล่องของ Redmi Note 10 จะประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Redmi Note 10
- สายชาร์จแบบ Quick Charge USB-C to USB-A
- Adapter กำลัง 33W
- เคสใส่
- คู่มือ / ใบรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Redmi Note 10
เริ่มต้นกับดีไซน์ของเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD เช่นเดียวกัน และเป็น Panel แบบ Super AMOLED ที่สว่างและคมชัดไม่เบาเลยครับ
ส่วนบนของหน้าจอเป็นแบบ Dots Display ไม่มีขอบและติ่งให้กวนใจ แต่มีลำโพงตัวเครื่องมาให้แบบครบเครื่องเลยครับ และจำมีลำโพงสำหรับฟังสายสนทนา หรือ Ear Peach
ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- ปุ่ม
- การปัดด้วยท่าทาง
นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย
รอบตัวเครื่องจะเป็นวัสดุเงาขึ้นรูปที่สวยงามประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใส่ซิมกได้พร้อมกัน 2 ช่องแบบ Nano SIM และ MicroSD
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับไว้กดปิดเท่านั้น และส่วนนี้จะเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างด้วยครับ
ส่วนบนมาพร้อมกับลำโพงตัวที่ 2, ไมโครโฟน, IR Blaster สำหรับใช้ร่วมกับ Application Mi Remote
ส่วนล่างยังคงมาพร้อมกับ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับ USB-C, ไมโครโฟนหลัก และลำโพงตัวหลักที่มีขนาดใหญ่
พลิกมาด้านหลัง จะมาพร้อมกับผิวสัมผัสที่มันวาวเงางามโดยเฉพาะสีที่ทีมได้รับมาอย่าง Onxy Gray ซึ่งให้รายละเอียดของสีและการสะท้อนทำได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกล้องอยู่ทางด้านบนที่จัดว่าออกแบบสวยงามอย่างมากเลยครับ
ภาพรวมการออกแบบ
หากเทียบกับ Redmi Note 9 รุ่นนี้มีจุดเด่นคือการออกแบบที่ดีจับได้ง่ายและมีขนาดเครื่องกำลังดี น้ำหนักจะเบากว่าแต่ก่อน แถมงานประกอบก็สวยงามด้วยครับ ถ้าจะพูดเรื่องจุดที่อยากให้ปรับปรุงก็คงจะเป็นที่จิ้มซิมจะต้องใช้เข็มที่ลึกกว่าเล็กน้อยครับ ถ้าให้ชัวร์ใช้ของในกล่องจะดีที่สุด
ส่วนสีสันมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นสีส้ม, สีขาว, สีเทาที่ได้รับมาทดลองใช้เช่น
เปิดเครื่องลองฟีเจอร์และประสิทธิภาพของ Redmi Note 10
สเปกของ Redmi Note 10
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 160.5 x 74.5 x 8.3 มม.
- น้ำหนัก: 178.8 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : IP 53 (ถูกระบุว่า
- หน้าจอ: Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล Refresh Rate 60Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 678 Octa-core | GPU Adreno 612
- แรม : 6 GB
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 + MIUI 12
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 4 ตัว :
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้า:13 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี : 5000 mAh + Fast Charge 33W
- ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C และ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : Shadow Black (Onyx Gray), Frost White (Pebble White), Aqua Green (Lake Green)
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ AnTuTu = 238,019 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Geekbench 5 = 535 คะแนน (Single Core) | 1,391 คะแนน Multi Core)
นับว่าประสิทธิภาพของ Redmi Note 10 จัดว่าทำได้ดีและยังมอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลและยังคงน่าใช้สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 6,000 บาท ครับ
นอกจากนี้มือถือรุ่นนี้ยังมีโหมด Game Turbo ที่ช่วยให้การทำงานของเครื่องลื่นไหล เพราะมีการลดการเคลียร์ RAM และนอกจากนี้ยังสามารถบันทีกหน้าจอจากโหมดนี้ได้ทันทีแถมยังปิดการแจ้งเตือนได้ด้วย
การทดสอบนำทาง และการเชื่อมต่อไร้สาย
มือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีการใส่ซิมแบบ 4G Dual Standby พร้อมกับ Wi-Fi 802.11 AC, Bluetooth 5.0 และนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ในเรื่องการจับสัญญาณ GPS, A-GPS ช่วยให้การนำทางมีประสิทธิภาพด้วยครั
การแสดงผลหน้าจอ และ ระบบเสียง
การแสดงผลภาพของ Redmi Note 10 มีการแสดงผล Super AMOLED และยังมาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง Full HD และมี Refresh Rate 60 Hz และยังมี ฟีเจอร์เกี่ยวกับลดแสงสีฟ้าด้วยครับ
และครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Redmi Note 10 จะให้ลำโพงคู่ทั้งด้านบนและล่าง และให้เสียงที่ดังดีแบบเห็นได้ชัด และยังสามารถปรับรูปแบบของเสียงให้เข้ากับหูฟังของ Xiaomi ได้ด้วย
ระบบปฎิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Redmi Note 10 มาพร้อมกับ Android 11 และ MIUI 12 และคาดว่าจะมีการอัปเกรดเป็น MIUI 12.5 ที่จะทำให้ทุกอย่างเบาลงด้วยครับ และใช้งานแบบ 2 หน้าจอ หรือ Popup ลอยได้
ฟีเจอร์หลักๆ ของ Redmi Note 10 จะมาพร้อมกับลูกเล่นครบในแบบฉบับของ Xiaomi ยังเน้นเรื่องของการใช้งานจริงเช่น เครื่องอัดเสียง, เครื่องอัดภาพหน้าจอ, Mi Remote ไว้สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องคิดเลข และ Application ของ Google หากไม่พอ สามารถโหลดเพิ่มด้วย Google Play Store
นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยในการเข้าเครื่องมี 2 ระบบคือ ระบบสแกนใบหน้า โดยใช้กล้องหน้า และ ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง และยังมีโหมดการซ่อน Apps หรือ รูปที่ไม่ต้องการเปิดเผยภายในเครื่องเป็นชั้นที่ 2 ได้
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ ด้วย Redmi Note 10 มีดังนี้
- กล้องหลัง 4 ตัว :
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้า:13 ล้านพิกเซล (F/2.5) และ 8 ล้านพิกเซล Ultra Wide
ฟีเจอร์กล้องของ Redmi Note 10
หน้าตาเมนูกล้องยังไม่เหมือนกับ Xiaomi ทั่วไปโดยสามารถซูมได้ทั้งมุมกว้าง Ultra Wide, และสามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่าในแบบภาพนิ่ง และยังมี AI ที่ปรับ Scene ในการถ่ายภาพมาให้เลือกใช้อีกด้วย ส่วนการละลายหลังรุ่นนี้ถือว่าดีเหมือนกัน
ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอของ Redmi Note 10
นอกจากในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่งที่ดีแล้วการถ่ายวิดีโอของกล้องรุ่นนี้ก็ทำได้สุดเช่นเดียวกันครับ โดยกล้องรุ่นนี้รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K 30 FPS และ FHD ได้แบบ 60 FPS แถมยังถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion และ Timelapse เช่นเดียวกับมือถือทั่วไป
ตัวอย่างภาพจาก Redmi Note 10
ภาพกลางวัน / แสงปกติ
ภาพกลางคืน / แสงน้อย
ภาพรูปแบบอื่นๆ
ลองใช้กล้องหน้าของ Redmi Note 10
มาถึงกล้องหน้าของ Redmi Note 10 ที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถือว่าให้คุณภาพที่ดีและยังรองรับการถ่ายภาพผ่านโหมดแสงน้อยได้ด้วย และยังมีลูกเล่นเช่นการปรับความฟรุ้งฟริ้ง และ ฟิลเตอร์ได้อีกด้วยครับ ทำให้กล้องรุ่นนี้ตอบโจทย์การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าแบบครบเครื่อง
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
มือถือรุ่นนี้เอาใจคนใช้งานแบบยาวนานเพราะให้แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ข้ามวัน และนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ประหยัดพลังงานมาให้ แต่เมื่อต้องทดสอบ พบว่าในโปรแกรม PC Mark ทำได้เกือบ 15 ชั่วโมงเลยครับ
ส่วนการชาร์จไฟถือว่าเป็นข่าวดีของมือถือรุ่นนี้ที่ให้มาแบบ USB-C และมีกำลัง 33W และให้ติดกล่องมา ช่วยให้การชาร์จไฟของมือถือคุณทำได้เร็วขึ้น แต่ว่าที่ชาร์จที่ให้ไม่ได้เป็นแบบ GaN Charge ดังนั้นอย่าเผลอเอาไปชาร์จไฟคอมพิวเตอร์นะครับ
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน Redmi Note 10 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
ถือว่าเป็นเปิดปีด้วยมือถือรุ่น Mid Range ที่มาครบทั้งแบตเตอรี่อึด เล่นเกมทำได้ดีอยู่บ้าง มีกล้องที่ผมว่าสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม กับการใส่ลูกเล่นที่มากขึ้นกว่าเดิม ถือว่า Redmi Note 10 ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากจัดเต็มกว่านี้ผมแนะนำให้ลองใช้ Redmi Note 10 Pro จะดีกว่านี้ครับ
สำหรับราคาของ Redmi Note 10 จะมีให้เลือก 2 เกรดดังนี้
- RAM 4 GB / ROM 64GB = 4,999 บาท
- RAM 6GB / ROM 128GB = 5,999 บาท
เรียกได้ว่าเปิดใกล้เคียงกับรุ่นเดิมเลยครับ สุดท้ายนี่เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้มือถือสเปกที่มากความสามารถแต่ราคาไม่แพงเกินไปครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องบางเบา และออกแบบดี
- ฟีเจอร์มาแบบครบไม่ต้องโหลดอะไร
- แบตเตอรี่อึดมากแถมชาร์จไฟเร็ว
- ระบบเสียงถือว่าดังมากพอสมควร
ข้อสังเกต
- การเก็บรายละเอียดของสีวิดีโอ ยังไม่ดีเท่าไหร่
- ราคาของเครื่องค่อนข้างชิดระหว่างตัวล่างและตัวบน
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ