สรุปงานเปิดตัว Apple Event ครั้งแรกของปี 2021 มีอะไรมาหรือไม่มา สำรวจกันเลย
ผ่านพ้นแล้วกับการเปิดตัวของงาน Apple Event ครั้งแรกของปีแล้ว ที่มี Theme งานที่มีชื่อว่า Apple Spring Loaded จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างทีม Sanook Hitech ได้สรุปออกมาแล้ว พร้อมแล้วรับชมได้เลยครับ
Apple Card Family คือสิ่งแรกที่ถูกกล่าวถึงเพราะเป็นเหมือนกับเครดิตให้ซื้อบริการต่างๆ ของ Apple ที่สามารถซื้อได้ผ่านบัตร และยังมี Hardware อีกมากที่เปิดตัวได้แก่
iPhone 12 / 12 Mini Purple เป็นครั้งแรกที่เปิดตัวสีใหม่ของ iPhone 12 รุ่นใหม่ เพิ่มสีระหว่างการทำตลาดในปัจจุบัน ถือว่าเป็นความตื่นเต้นครั้งใหม่ โดยตอนนี้พร้อมให้เป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการในวันที่ ศุกร์ นี้คาดว่าพร้อมให้บริการทั้งหมด และสามารถดูรายละเอียดได้ที่
AirTag
เริ่มต้นกับอุปกรณ์ตามหาของหาของที่คุณคิดว่าหาไม่เจอ ด้วยอุปกรณ์ที่คุณได้ติดตั้งไว้ โดยจุดเด่นของ AirTags สามารถตามหาในรูปแบบของการบอกพิกัดได้ ผ่านโปรแกรม Find My และมีความปลอดภัยเพราะทั้งหมดสามารถรวมทำงานบน Apple Privacy และยังมีสายให้เลือกใช้บริการมากมาย
ทั้งนี้ราคานั้นจะมี 2 เกรดคือ 1 ตัวราคา 29 ดอลล่าร์สหรัฐ และ 4 ชิ้นในราคา 99 ดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมเปิด Pre-Order วันศุกร์นี้ พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 30 เมษายน นี้ ทั้งนี้คุณสามารถเลือกให้ AirTag มีเครื่องหมาย Emoji ตามที่คุณต้องการ ส่วนราคาประเทศไทยเคาะแล้วที่
- 1 ชิ้น 990 บาท
- 4 ชิ้น 3,390 บาท
- AirTag Hermès พร้อมสายเริ่มต้น 9,900 บาท
Apple TV 4K HDR
Apple ได้มีการ Refresh Hardware ในรุ่น Apple TV 4K ที่มีการอัปเกรดเรื่องของการรองรับเทคโนโลยี HDR High Frame Rate ทำให้สามารถแสดงผลได้ลื่นไหล และยังรองรับ Dolby Vision ด้วย และมีการปรับคุณภาพของการแสดงผลหน้าจอได้ โดยการนำ iPhone ไปส่องกับหน้าจอได้ ช่วยปรับให้สีของภาพดูสมดุลมากขึ้น
นอกจากนี้รีโมตของ Apple TV มีการปรับปรุงให้สามารถสั่งงานได้เหมือนกับ TouchPad และยังทำจากวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด 100% (มีให้ในกล่องไม่ต้องซื้อแยก) ทั้งนี้มีราคาในประเทศไทย 6,700 บาท สำหรับรุ่น 32GB และ 7,400 บาท สำหรับรุ่น 64GB พร้อมส่งมอบในเดือน พฤษภาคม นี้
นอกจาก Hardware ใหม่ก็จะมีโปรแกรมหนังใหม่เข้าไปให้ได้รับชมด้วยครับ
iMac
ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตัวใหม่ล่าสุดที่เปลี่ยนดีไซน์ใหม่ล่าสุด ที่มีให้เลือกถึง 7 สี จนทำให้ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เคยหนา ก็ทำให้บางเฉียบลงมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะการเปลี่ยนแปลง CPU ใหม่เป็น Apple M1 ที่ทำให้ Mainboard อยู่ด้านล่างลงมา และมาพร้อมกับหน้าจอ 4.5K Retina XDR และปรับสีสันได้ตามสภาพแสง หน้าจอให้ความละเอียด 11.5 ล้านพิกเซล หน้าจอของเครื่องมีขนาด 24 นิ้ว
กล้องหน้าของ iMac ยังคงมีอยู่ ให้ความละเอียด Full HD สำหรับกล้องหน้า และมีเรียงภาพและปรับเรื่องของ Auto White Balance ปรับความสว่างและ แก้ไขอัตโนมัติทำให้ภาพออกมาคมชัดเจน ลำโพงตัวเครื่องมีทั้งหมด 6 ตัวให้เสียงดีทุกย่านความถี่ ทำให้เสียงที่คมชัด รองรับ Dolby ATMOS นอกจากไมโครโฟนที่ดีเช่นเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ Apple M1 พร้อมกับ MacOS Big Sur ทำให้การทำงานของเครื่องทำได้ลงตัวและเร็ว สามารถสลับการทำงานได้อย่างดี ทำให้สามารถตอบสนองกับ อุปกรณ์มือถือ iPhone, iPad ได้เช่นเดียวกัน ส่วนช่องเสียบมี USB-C ทั้งหมด 4 ช่อง และ Thunderbolt 2 ช่อง และช่องจ่ายไฟสามารถเสียบ LAN ได้
Magic Keyboard รองรับ Touch ID ทำงานได้ลงตัวมากขึ้น และมีให้เลือกทั้งแบบ Keyboard ปกติ หรือ จะมี Numpad และนอกจากนี้ยังมี Magic Mouse สีสันที่สวยงาม และ Touch Pad ให้เลือกเช่นเดียวกันครับ
สำหรับราคาของ iMac นั้นเริ่มต้นที่ 1,299 – 1,499 ดอลล่าร์สหรัฐ เริ่มเปิดจอง 30 เมษายน พร้อมจำหน่าย พฤษภาคม นี้ สำหรับราคาประเทศไทยมีดังนี้
- Apple M1 ความจำ 256GB = 42,900 บาท
- Apple M1 ความจำ 256GB พร้อมอุปกรณ์เสริมทั้งที่ชาร์จรองรับ Gigabit LAN, USB และ Magic Keyboard Touch ID = 49,900 บาท
- Apple M1 ความจำ 512GB สเปกเหมือนกับ 256 GB ตัวอัปเกรด ในราคา 56,900 บาท
iPad Pro
มาแล้วครับกับ iPad Pro รุ่นที่ 4 ที่มีจุดเด่นคือหน้าจอลำโพง 4 ตัวหน้าจอแบบ Pro Motion และครั้งนี้จะมีการเชื่อมต่อกับจอย PS5 ได้ หน้าจอของเครื่องมีขนาด 11 นิ้วและมีเทคโนโลยี Liquid Retina Display
ส่วนรุ่นที่จัดเต็มกว่า คือขนาด 12.9 นิ้ว จะมีความละเอียดที่มากกว่า และมีการเพิ่มความสว่างมากขึ้น ที่มีชื่อว่า Liquid Retina XDR ให้ความสว่างสูงสุด 1,600 nits, Contrast 1,000,000 : 1 แต่ความบางยังคงเท่าเดิม และ ความลับคือมีการติดตั้ง Mini LED ในหน้าจอที่มากทั้งหน้าจอ มากถึง 10,000 Mini LEDs และมีการติดฟิล์มช่วยให้การแสดงผลหน้าจอได้ จุดเด่นอของจอแบบนี้คือ ประหยัดไฟกว่ารุ่นเดิม
ขุมพลังของ iPad Pro ครั้งนี้จะเป็น Apple M1 ที่มีจุดเด่นคือการทำงานที่เร็วมากบนคอมพิวเตอร์ Mac ในที่สุดก็มาอยู่ใน iPad Pro แทบไม่ต้องถามว่าประสิทธิภาพของมันแรงกว่าเดิม 50%, ถือว่าเร็วว่ารุ่นแรก 75 เท่า ทำให้สามารถออกแบบเพื่อการทำงานวิดีโอและงานต่างๆ ได้ดี พร้อมกับมี GPU ที่ดีกว่าเดิม 40% หรือ 1,500 เท่าจากรุ่นแรก
ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ยังได้ความจำที่ดีกว่าเดิม 2 เท่า และความจำสูงสุด 2TB อีกด้วย และยังมี USB-C รองรับ Thunderbolt ดังนั้นการทำงานของมันจะเร็วมากขึ้น และยังรองรับ 5G ทั้ง Sub-6 และ mmWave (ในบางประเทศ)
กล้องของ iPad Pro จะมีการรองรับการทำงานกับ Green Screen และมีการทำงานร่วมกับโปรแกรม 3D ที่วางวัตถุได้ด้วย และมี ISP ที่ปรับปรุงให้ภาพที่สวยงามด้วยกัน ส่วนกล้องหน้าจะมีการเพิ่ม Depth Sensor เข้าไป ส่วนกล้องจะมีการเปลี่ยนมาใช้กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองกว้างมากขึ้น และมีการขยับภาพเอง หรือ Center Stage ส่วนกล้องหลัง ใช้ตัวเดิม
ส่วนอุปกรณ์เสริม เหมือนเดิมจ้า แต่เพิ่ม Magic Keyboard สีขาว ราคาของ iPad Pro 11 นิ้วอยู่ที่ 799 USD และ 12.9 นิ้วเริ่มต้นที่ 1,099 USD และราคาของประเทญไทยมีดังนี้
- iPad Pro 11 นิ้ว เริ่มต้น 27,900 บาท
- iPad Pro 12.9 นิ้ว เริ่มต้น 37,900 บาท
ทั้งหมดเริ่มเปิดจองในเดือน เมษายน และ วางจำหน่ายภายในเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับรายละเอียดเจาะลึกทีละรุ่นทีม Sanook Hitech จะนำมาบอกเล่ากันต่อไปครับ
อัลบั้มภาพ 57 ภาพ