เทนเซ็นต์ คลาวด์ เปิดศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งแรกของบริษัทฯ ในอินโดนีเซีย
เทนเซ็นต์ คลาวด์ ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ชั้นนำ เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้ เทนเซ็นต์ คลาวน์ทั่วโลก ด้วยการขยายเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานใน 27 ภูมิภาคและ 61 พื้นที่ให้บริการ
เทนเซ็นต์ คลาวด์ (Tencent Cloud) เปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Internet Data Centre – IDC) แห่งล่าสุด ซึ่งเป็นแห่งแรกในอินโดนีเซีย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในอินโดนีเซีย และเอเชีย
นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการคลาวด์ชั้นนำต่างๆ ออกสู่ตลาดทั่วทั้งภูมิภาคแล้ว เทนเซ็นต์ คลาวด์ยังมุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานในระดับโลก ผ่านการเปิดตัวอย่างมีนัยยะสำคัญของศูนย์ข้อมูลแห่งล่าสุดนี้ ซึ่งถือเป็นขยายเครือข่ายระบบโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันให้บริการใน 27 ภูมิภาค และ 61 พื้นที่ให้บริการ
อินโดนีเซีย เป็นตลาดคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ร้อยละ 25 และคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2566ดังนั้นศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้จะช่วยรองรับความต้องการใช้บริการคลาวด์ที่กำลังเติบโตขึ้นทั้งในอินโดนีเซีย และภูมิภาคนี้
ศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งล่าสุดของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงจาการ์ตา ซึ่งได้เริ่มเปิดดำเนินงานเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึง และการเชื่อมต่อเครือข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ทั้งหมดในอินโดนีเซียและในระดับโลกให้สมบูรณ์ พร้อมทั้งช่วยประสานกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางระหว่างเกทเวย์คุณภาพสูง (border gateway protocol: BGP) ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
การเปิดตัวศูนย์ข้อมูลในอินโดนีเซียครั้งนี้ทำให้เทนเซ็นต์ คลาวด์เข้าถึงลูกค้า และผู้ใช้งานมากขึ้น ช่วยลดความล่าช้าในการเข้าถึงข้อมูลและแอปพลิเคชัน รวมถึงเอื้อให้ธุรกิจรวมถึงองค์กรต่างๆ ในประเทศสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกค้าของเทนเซ็นต์คลาวด์ สามารถดำเนินการและปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อกำหนดต่างๆ ตลอดจนนำเสนอทางเลือกในการฟื้นฟูเมื่อเกิดภัยพิบัติให้กับทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
มร. โพชู หยาง รองประธานอาวุโสกลุ่มเทนเซ็นต์ คลาวด์ อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่า “อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกด้วยจำนวนประชากรกว่า 270 ล้านคน และมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้โครงสร้างประชากรยังมีอายุน้อย จึงมีอัตราการปันผลทางประชากร (Demographic Dividend) จากอินเทอร์เน็ตอยู่ในระดับมหาศาล และตลาดอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์มือถือของอินโดนีเซียยังพัฒนาอย่างรวดเร็วอีกด้วย
เราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งแรกของเทนเซ็นต์ คลาวด์ในอินโดนีเซีย โดยเรามีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ประเทศอินโดนีเซียสามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดในด้านระบบปฎิบัติการคลาวด์ นอกจากนี้เรายังภาคภูมิใจที่ศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งใหม่นี้ถือเป็นเครื่องบ่งบอกได้อย่างชัดเจน ถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการภาคธุรกิจในอินโดนีเซียและทั่วเอเชียทั้งในปัจจุบัน และอนาคต และยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายทั่วโลกของเรา ซึ่งในปัจจุบันสามารถเชื่อมต่อกันถึง 27 ภูมิภาคและ 61 พื้นที่ให้บริการ”
การก่อตั้งศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งใหม่นี้จะช่วยรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องของธุรกิจต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่บริการทางการเงิน อินเทอร์เน็ต และอีคอมเมิร์ซ ไปจนถึงธุรกิจบันเทิง เกม และการศึกษาซึ่งรวมถึงธุรกิจดังต่อไปนี้
ธนาคารดิจิทัล
Bank Neo Commerce (BNC)
BNC ธนาคารดิจิทัลที่ก้าวล้ำที่สุดแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย มีระบบศูนย์กลางพร้อมด้วยฐานข้อมูลแบบกระจายตัวของเทนเซ็นต์ (Tencent Distributed Database – TDSQL) ที่ทำงานอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เทนเซ็นต์ คลาวด์ได้นำระบบ TDSQL ออกให้บริการในต่างประเทศ ช่วยยกระดับสถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ตของอินโดนีเซียเพื่อภาคธุรกิจด้านบริการทางการเงินของประเทศ
จันทรา กุนาวัน ประธานกรรมการของ BNC กล่าวว่า “การเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ตแห่งใหม่ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ในอินโดนีเซีย เป็นการยกระดับให้กับ TDSQL ที่ทำงานเต็มรูปแบบอยู่แล้วในระบบกลางของ BNC ซึ่งจะช่วยพัฒนาธุรกิจของเราได้อย่างต่อเนื่องผ่านเทคโนโลยีทางการเงิน เราหวังว่าประโยชน์จากพัฒนาการใหม่ในครั้งนี้จะเอื้อให้ธนาคารฯ สามารถตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย จากความร่วมมือกับเทนเซ็นต์ คลาวด์ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารฯ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพราะเราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัวมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล”
ธุรกิจบันเทิง
JOOX
JOOX สตรีมมิงแพลตฟอร์มสำหรับดนตรี และความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบที่สุดในเอเชีย มีเทนเซ็นต์ คลาวด์เป็นผู้สนับสนุนพื้นฐานการให้บริการต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งการสตรีมมิงเพลง และการร้องคาราโอเกะด้วยขีดความสามารถอันทรงพลังในการประมวลผลการวางเนื้อร้องให้สอดคล้องกับเสียงดนตรีได้อย่างชาญฉลาด ตลอดจนการชมคอนเสิร์ตในแบบไลฟ์สตรีมมิง และวิดีโอออนดีมานด์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทนเซ็นต์ คลาวด์ ยังได้สนับสนุนการถ่ายทอดสดงานดนตรีระดับโลกผ่าน JOOX มากมายหลายงาน รวมถึงงาน Mnet Asian Music Awards (MAMA) ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และเชื่อถือได้ของเทนเซ็นต์ คลาวด์ อาทิ การถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง การแปลแบบเรียลไทม์ และการขยายระบบเพื่อรองรับการใช้งานมีความยืดหยุ่นสูง
ปีเตอร์ เมย์ หัวหน้าทีม JOOX อินโดนีเซีย กล่าวว่า “จากการเปิดตัวศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งแรกของเทนเซ็นต์ คลาวด์ในอินโดนีเซียในครั้งนี้ JOOX หวังที่จะได้นำเสนอประสบการณ์ความบันเทิงสู่แฟนๆ ดนตรีในประเทศให้ได้มากขึ้น และดียิ่งขึ้น เรายินดีที่มีเทนเซ็นต์ คลาวด์ ซึ่งเป็นบริการที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพสูง มาสนับสนุนการให้บริการของเรา เพื่อเป็นหลักประกันว่าแฟนดนตรีชาวอินโดนีเซียจะสามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง และรายการดนตรีออนไลน์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ภายในที่พักของตนเอง”
Aestron
เอสตรอน (Aestron) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับองค์กร เพื่อการสื่อสารแบบเรียลไทม์ (Real-time Communication – RTC) ได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับเทนเซ็นต์ คลาวด์ โดยผสานความแข็งแกร่งจากการวางรูปแบบตลาดทั่วโลกของเอสตรอน เข้ากับความสามารถและความได้เปรียบทางระบบนิเวศของเทนเซ็นต์ คลาวด์ ซึ่งจากการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) ได้ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์มจากเอสตรอน สามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ เข้าถึงผู้ใช้งานต่อเดือนได้มากกว่า 400 ล้านราย ในประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ
เอสตรอน ถือเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชันดังระดับโลกมากมาย อาทิ แอปพลิเคชันไลฟ์สตรีมมิง แอปพลิเคชันวิดีโอสั้น และแอปพลิเคชันรับส่งข้อความแบบทันที ทั้งนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์จะผนึกกำลังกับเอสตรอนเพื่อเปิดตัวโซลูชันใหม่ ซึ่งเป็น โซลูชันเกี่ยวกับเสียง และวิดีโอ พร้อมกับมอบบริการคุณภาพสูงให้กับตลาดทั่วโลก รวมถึงอินโดนีเซียด้วย
WeTV
WeTV ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มความบันเทิงในเอเชีย ร่วมเดินเคียงข้างไปกับเทนเซ็นต์ คลาวด์เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์การรับชมที่สะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานทุกคน สำหรับการให้บริการในอินโดนีเซีย WeTV สะท้อนภาพการเป็นศูนย์รวมความบันเทิงแห่งอเชีย ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมาย อาทิ สามารถเลือกเสียง และคำบรรยายภาษาอินโดนีเซีย วิดีโอที่มีคุณภาพสูง และแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ WeTV ยังมีความภูมิใจในการเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดพื้นที่ให้คอนเทนต์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นผลงานของชาวอินโดนีเซียรุ่นใหม่ได้ถูกนำเสนอสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลก เช่น คอนเทนต์ WeTV Originals เรื่อง “Imperfect the Series” และ “Kisah Untuk Geri” เป็นต้น
เลสลีย์ ซิมป์สัน ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า “WeTV มีความมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแฟนๆ ผู้ชื่นชอบคอนเทนต์ความบันเทิงเอเชีย เราจึงให้เทนเซ็นต์ คลาวด์สนับสนุนอยู่เคียงข้างเราอย่างแน่นแฟ้น เราตื่นเต้นที่จะได้รับประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย เพราะนอกจากจะช่วยยกระดับ และพัฒนาบริการของเทนเซ็นต์ คลาวด์ที่เป็นที่น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพสูงอยู่แล้วให้ดีมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือชั้นยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มของเราอีกด้วย”
นอกจากนี้ การมีบริการช่วยเหลือ และสนับสนุนด้านความปลอดภัย และโครงสร้างพื้นฐานให้กับลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ทำให้ศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเทนเซ็นต์ คลาวด์ในอินโดนีเซีย ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงมาตรฐานความปลอดภัย และความมั่นคงในระดับสูง ทั้งการรับรองด้านการออกแบบและอาคารสถานที่ (Design & Facility) ในระดับ 3 จาก Uptime Institute, มาตรฐาน PCI DSS, มาตรฐาน ISO 27001, มาตรฐาน ISO 14001 และมาตรฐาน SNI (มาตรฐานท้องถิ่น)
เทนเซ็นต์ คลาวด์ คือ ผู้ให้บริการระบบปฏบัติการคลาวด์ ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง โดยผสานขีดความสามารถของเทนเซ็นต์ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเข้ากับข้อได้เปรียบต่างๆ จากแพลตฟอร์ม และระบบนิเวศที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เทนเซ็นต์ คลาวด์มอบการเข้าถึงทั่วโลก และบริการต่างๆ อย่างหลากหลายให้กับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรต่างๆ ที่ต้องการระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ก้าวล้ำ และมีสภาวะแวดล้อมที่ยืดหยุ่น อาทิ ธุรกิจเกมออนไลน์ การถ่ายทอดสด และบริการทางการเงิน