พบช่องโหว่ในโมเด็มของ Qualcomm ที่อาจส่งผลถึงสมาร์ตโฟน 30% ทั่วโลก ให้เสี่ยงโดนแฮก
ล่าสุดทาง Check Point Research บริษัทรักษาความปลอดภัยในอิสราเอลได้พบช่องโหว่ในโมเด็ม ‘Mobile Station Modem’ ของชิป Qualcomm ซึ่งอาจส่งผลถึงสมาร์ตโฟน Android กว่าหลักล้านเครื่อง โดยช่องโหว่นี้สามารถทำให้เหล่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลในเครื่องได้ เช่น เข้าถึงข้อความ ข้อมูลการโทรออก หรือแม้กระทั่งปลดล็อก SIM ได้
โดยทาง Check Point ได้ให้ข้อมูลว่าตัวโมเด็ม Mobile Station Modemที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวชิปมาตั้งแต่ช่วงปี 1990 ในปัจจุบันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของชิปรุ่นล่าสุด แม้แต่ชิป 5G ตัวใหม่ ซึ่งถูกนำไปใช้งานในสมาร์ตโฟนทั่วโลก เช่น Samsung, Google, Xiaomi, LG, OnePlus และอีกมากมาย ซึ่งทาง Check Point ได้ประมาณการเอาไว้ว่า มีประมาณ 30% ของสมาร์ตโฟนทั่วโลกที่มีช่องโหว่นี้
“แฮกเกอร์จะสามารถเจาะเข้ามาในระบบของมือถือ Android ได้ผ่านโมเด็ม ซึ่งจะทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรออก และ SMS ได้ รวมถึงสามารถดักฟังสายโทรเข้า-ออกได้ด้วย”
ซึ่งจริง ๆ ทาง Qualcomm ได้รับรู้ถึงช่องโหว่นี้แล้ว และได้ทำการอุดช่องโหว่ไปแล้วในชิป ให้กับเหล่า OEM ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2020 และแนะนำว่าให้รีบอัปเดตความปลอดภัยทันที หากมีเด้งขึ้นมาให้อัปเดต
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในอัปเดตความปลอดภัยรายเดือนของ Google ก็ยังไม่มีการกล่าวถึงช่องโหว่นี้เลย หลังจากเดือนธันวาคมปี 2020 แต่ทาง Google ก็อาจจะใส่การอุดช่องโหว่นี้มาให้ด้วยไปแล้ว โดยที่ไม่ได้กล่าวถึงในการอัปเดตก็ได้ แต่ทาง Qualcomm ก็ยืนยันว่า จะออกมาอัปเดตต่อสาธารณะอีกครั้งในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
จากข้อมูลข้างต้น ก็ทำให้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจริง ๆ แล้ว ยังมีกลุ่มมือถือที่เสี่ยงต่อช่องโหว่นี้เยอะขนาดไหน แต่ทางที่ดีที่สุดคือต้องรีบอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยให้เป็นเดือนหลังธันวาคมของปีที่แล้วจะดีที่สุดในตอนนี้