รีวิว "redmi Note 10 5G" มือถือรุ่นกลางกับเทคโนโลยีสุดล้ำในยุค 5G ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้ทีม Sanook Hitech ได้รีวิว Redmi Note 10 รุ่นปกติ ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ แต่ว่าอาจจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี 4G ครบเครื่อง แต่ว่ารอบนี้เรามาดูกันกว่า เมื่อ Redmi Note 10 5G เผยโฉมและวางจำหน่ายในประเทศไทย ทีม Sanook Hitech ก็ไม่พลาดที่จะนำมือถือรุ่นนี้มารีวิวให้คุณได้ดูกันครับ
แกะกล่อง Redmi Note 10 5G
- ตัวเครื่อง Redmi Note 10 5G
- สายชาร์จแบบ Quick Charge USB-C to USB-A
- Adapter กำลัง 33W
- เคสใส่
- คู่มือ / ใบรับประกัน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์หน้าตาของ Redmi Note 10 5G
เริ่มต้นกับด้านหน้าของเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้วความละเอียด 2400x1080 พิกเซลมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Dots Display กล้องอยู่ตรงกลาง ทำให้พื้นที่หน้าจอกว้างพอสมควร
ส่วนบนของหน้าจอเป็นแบบ Dots Display ไม่มีขอบและติ่งให้กวนใจ แต่มีลำโพงตัวเครื่องมาให้แบบครบเครื่องเลยครับ และจำมีลำโพงสำหรับฟังสายสนทนา หรือ Ear Peach
ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- ปุ่ม
- การปัดด้วยท่าทาง
นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย
รอบตัวเครื่องจะเป็นวัสดุแบบด้านขึ้นรูปที่สวยงามประกอบไปด้วยฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot สามารถใส่ซิมการ์ด 1 ช่อง และอีกช่องจะต้องสลับระหว่าง Nano SIM หรือ MicroSD
ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับไว้กดปิดเท่านั้น และส่วนนี้จะเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างด้วยครับ
ส่วนบนมาพร้อมกับไมโครโฟน, IR Blaster สำหรับใช้ร่วมกับ Application Mi Remote และช่องเสียบหูฟัง
ส่วนล่างยังคงมาพร้อมกับ USB-C, ไมโครโฟนหลัก และลำโพงตัวหลักที่มีขนาดใหญ่
พลิกมาด้านหลังจะแตกต่างจาก Redmi Note 10 ที่กล้องที่ลดเหลือ 3 ตัวและผิวด้านกว่าช่วยให้จับได้ถนัดมือมาให้เช่นเดียวกัน และยังคงป้องกันรอยนิ้วมือ
ภาพรวมการออกแบบ
Redmi Note 10 5G จะมีการลดความหรูหราลงด้วยการใช้วัสดุที่แบบด้านเข้ามา แต่ก็ทำให้จับได้ถนัดมือมากกว่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับน้ำหนักที่ไม่ได้หนักมากและถือว่าใช้ได้ดีเลยครับ ป้องกันรอยขนแมวได้ดีเช่นเดียวกัน ส่วนสีของตัวเครื่องก็จะมีให้เลือกมากมายเช่น สี Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue, Aurora Green
เปิดเครื่องลองใช้งาน Redmi Note 10 5G
รายละเอียดของ Redmi Note 10 5G (สเปกที่ได้ทดลอง)
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 161.8 x 75.3 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก: 190 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น :ไม่ได้ระบุ
- หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล Refresh Rate 90Hz
- ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 5G Octa-core | GPU Mali-G57 MC2
- แรม : 4 GB
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G SA/NSA, 4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 + MIUI 12
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 3 ตัว :
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f/1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- รองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD
- กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี : 5000 mAh + Fast Charge 18W
- ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C และ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue, Aurora Green
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ
ผลการทดอบประสิทธิภาพของ Geekbench 5
เมื่อทดสอบในเรื่องของการเล่นเกมพร้อมกับสเปกของเครื่องรุ่นนี้ถือว่าทำงานได้ดี ส่วนการเล่นเกมนั้นพบว่ายังคงตอบสนองได้ดีเหมือนกัน และยังมีฟีเจอร์ของการจัดการทรัพยากรในการเล่นเกมได้เช่นเดียวกันครับ
การเชื่อมต่อไร้สายของ Redmi Note 10 5G
มือถือรุ่นนี้จะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี 5G / 4G พร้อมกับ Wi-Fi 802.11 AC และมาพร้อมกับ Bluetooth 5.1 ใหม่ล่าสุด การนำทางถือว่าใชได้ดี
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
เมื่อหน้าจอของมือถือรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Panel แบบ IPS LCD พร้อมกับความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล และยังตอบสนองได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีค่า Refresh Rate 90 Hz
แต่ว่าระบบเสียงของ Redmi Note 10 5G จะมีลำโพงด้านล่างแค่จุดเดียวและมีช่องเสียบหูฟังเช่นเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ของเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการของ Redmi Note 10 5G ยังคงคล้ายกับ Redmi Note 10 อยู่นั่นก็คือใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 อยู่เหมือนเดิม ที่จะทำให้ทุกอย่างเบาลงด้วยครับ และทำได้เพียงแค่ Popup หรือ หน้าต่างลอยเท่านั้น
ฟีเจอร์หลักๆ ของ Redmi Note 10 5G จะมาพร้อมกับลูกเล่นครบในแบบฉบับของ Xiaomi ยังเน้นเรื่องของการใช้งานจริงเช่น เครื่องอัดเสียง, เครื่องอัดภาพหน้าจอ, Mi Remote ไว้สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องคิดเลข และ Application ของ Google หากไม่พอ สามารถโหลดเพิ่มด้วย Google Play Store
นอกจากนี้ระบบความปลอดภัยในการเข้าเครื่องมี 2 ระบบคือ ระบบสแกนใบหน้า โดยใช้กล้องหน้า และ ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง และยังมีโหมดการซ่อน Apps หรือ รูปที่ไม่ต้องการเปิดเผยภายในเครื่องเป็นชั้นที่ 2 ได้
เปิดกล้องของ Redmi Note 10 5G
สำหรับสเปกของกล้อง Redmi Note 10 5G จะประกอบไปด้วย
- กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบ PDAF
- กล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Macro Lens
- กล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Depth Lens
- ความละเอียด LED Flash
ฟีเจอร์ของกล้อง Redmi Note 10 5G
หน้าตาเมนูกล้องยังไม่เหมือนกับ Xiaomi ทั่วไปโดยสามารถซูมได้ทั้งมุมกว้าง Ultra Wide, และสามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่าในแบบภาพนิ่ง และยังมี AI ที่ปรับ Scene ในการถ่ายภาพมาให้เลือกใช้อีกด้วย ส่วนการละลายหลังรุ่นนี้ถือว่าดีเหมือนกัน
ส่วนการถ่ายวิดีโอยังรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080P เท่านั้น และยังมีฟีเจอร์ปรับถ่ายวิดีโอทั้งโหมดปกติ และ โหมดโปร และนอกจากนี้ถ่ายวิดีโอได้ทั้งแบบ Slowmotion และ Timelapse มาให้อยู่
ภาพตัวอย่างจากกล้อง Redmi Note 10 5G
ภาพกลางวัน / สภาพแสดงปกติ
ภาพกลางคืน / สภาพแสงน้อย
ภาพรูปแบบอื่นๆ
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเป็นอย่างไร
ลูกเล่นของกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลยังคงได้คุณภาพที่ดีอยู่แต่ว่าเมื่อต้องลองถ่ายภาพกลางคืนอาจจะต้องยอมรับว่าความสว่างนั้นอาจจะน้อยไปหน่อย แต่ถ้าถ่ายในฉากหลังที่มีความสว่างเพิ่งหน้าก็จะชัดเจนขึ้น ตัวเครื่องมี AI Scene มาให้เลือกใช้บริการ และวิดีโอถ่ายได้ด้วยความละเอียด Full HD 30 FPS เท่านั้น
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
แบตเตอรี่ของ Redmi Note 10 5G จะมีขนาด 5000 mAh ถือว่าใช้งานได้ยาวนานจากการทดสอบด้วย PCMark อยู่ได้ 11 ชั่วโมง 4 นาที เป็นผลจาก 5G ที่กินไฟมากกว่าแต่เมื่อทดลองใช้งานจริงกลับพบว่าไม่ได้กินไฟมากสามารถอยู่รอด 1 วันได้สบายๆ ยกเว้นแค่ถ้าเล่นเกมอย่างหนัก
ส่วนระบบการชาร์จไฟแม้ว่าจะเป็นช่องเสียบแบบ USB-C ก็จริง แต่ว่าการชาร์จไฟของมือถือของมือถือรุ่นนี้จะรองรับแค่ 18W แต่ที่ชาร์จในกล่องจะมีกำลังมากกว่าที่ 33W
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน Redmi Note 10 5G มาสักระยะเวลาหนึ่ง
ถือว่าเป็นมือถือรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ และมีสเปกของเครื่องที่มาพร้อมกับ Android 11 และมาพร้อมกับ MIUI 12 ที่สามารถไปต่อได้แน่นอน แต่ถ้าจะบอกว่าขาดของมือถือรุ่นนี้คือ เลนส์มุมกว้างเท่านั้นเองครับ แต่แลกกับแบตเตอรี่ของเครื่องอึดกว่าเดิม จนน่าใช้แม้ว่าจะมี 5G ถือว่าน่าใช้อยู่มากมาย
สำหรับราคาของ Redmi Note 10 5G จะมาพร้อมกับราคาดังนี้
- RAM 4GB / ROM 128GB = 5,999 บาท
- RAM 8GB / ROM 128GB = 6,999 บาท
- ซื้อก่อนจะได้กล่อง Premium Box Set มูลค่า 3,090 บาท ส่วนประกันทุกเครื่อง ยังได้ประกันหน้าจอแตก 6 เดือน และประกันตัวเครื่อง 15 เดือน
เรียกได้ว่าโดดเด่นอย่างมากและตัวเครื่องพร้อมจำหน่าย 27 พฤษภาคมทุกช่องทาง และนี่ก็เป็นอีกมือถือที่ไว้เล่นเกมก็ดีและถ่ายภาพก็ได้แถมยังได้เทคโนโลยีล้ำอีกด้วย
จุดเด่น
- การออกแบบเครื่องที่ดูดีและน่าใช้
- สเปกของเครื่องรอบรับ 5G
- แบตเตอรี่ถือว่าอึดกว่าเดิม
- ระบบชาร์จไฟถือว่าเร็วกำลังดี
ข้อสังเกต
- ไม่มีเลนส์ Ultra Wide
- สเปก RAM น้อยไปหน่อย
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ