รีวิว realme GT มือถือร่างบางเบา กับสเปกเรือธง ราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท
realme เป็นอีกค่ายที่ทำมือถือออกมาได้คุ้มค่ามากๆ เพราะแต่ละรุ่นออกมาถือว่าทำได้ราคาได้ดีและไม่ทิ้งสเปกที่เรียกได้ว่าแรงจัด วันนี้ทีม Sanook Hitech จะมาทดลองใช้มือถือ realme GT ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดของค่ายในเวลานี้กับการออกแบบที่เรียกได้ว่าลืมรุ่นเก่าที่เคยเปิดตัวมาได้เลย
แกะกล่อง realme GT
สำหรับกล้อง realme GT ที่ได้รับมาจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นไทยแค่ตรงตัวอักษรภาษาจีนเท่านั้น ภายในประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง realme GT 5G
- คู่มือ
- ปลั๊กสำหรับชาร์จไฟ Super Dart 65W
- สายชาร์จไฟ USB-C to USB-A
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
ดีไซน์ของ realme GT 5G
เริ่มต้นกับดีไซน์ด้านหน้าที่ยังคงเน้นพื้นที่มากโดยไว้กล้องที่มุมซ้ายมือด้านบนความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และมีหน้าจอบบ Super AMOLED มาให้สีสันให้ความคมชัดสู้แสงได้อย่างดี
ส่วนบนของหน้าจอนอกจากกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลแล้วยังมาพร้อมกับการแจ้งเตือน สถานะต่างๆ และยังมีเซนเซอร์ของเครื่องมาให้แบบครบครัน
ส่วนล่างของหน้าจอมาพร้อมกับปุ่มกดสั่งงานของระบบปฏิบัติการ เราสามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Convenience Tools (เครื่องมืออำนวยความสะดวก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด 2 แบบคือ
- ปุ่มกดปกติ
- การปัด
รอบตัวเครื่องจะแบ่งชัดเจนระหว่างหน้าจอและด้านหลังผ่านเส้นโครเมี่ยม โดยฝั่งซ้ายจะมีช่องใส่ซิมการ์ด แบบ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่องด้วยกัน พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง
ฝั่งขวาจะมีปุ่มสำหรับเปิดตัวเครื่องจะสีเส้นสีเหลืองบอกถึงความเร็วมาให้ด้วย
ส่วนบนของตัวเครื่องรุ่นนี้มีไมโครโฟนสำหรับสนทนาเป็นตัวที่ 2
ส่วนล่างมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟนตัวเครื่อง, USB-C และลำโพงตัวหลักของเครื่อง ถือว่าเป็นมือถือที่มีราคาแตะ 2 หมื่นที่ยังมีช่องเสียบหูฟังมาให้อยู่
พลิกมาด้านหลังพบกับความงามที่ดูดี เพราะมีการตัดเส้นระหว่างสีเหลืองของหนังและกล้องที่ไว้มุมซ้ายได้ลงตัวพร้อมกับสลักคำว่า realme มาให้ด้วย ซึ่งผิวที่เห็นคือหนังในรูปแบบของ Vegan Leather 2.0 และมีกล้องอยู่ด้านบนสุด ที่ลากยาวลงมาคือ โพลีคาร์บอนเนตสีดำและสะท้อนป้องกันรอยได้ด้วย
ภาพรวมการออกแบบ
ถือว่าเป็นมือถือที่เน้นดีไซน์ที่ดีจับง่ายถนัดมือน้ำหนักเบา ครบทุกสิ่งที่ควรจะมีและแถมยังได้หนังที่นุ่มอีกด้วยถือว่าเป็นอีกมือถือที่ที่ครบเครื่องจริง แต่ภายในนั้นต้องรอดูต่อไป สำหรับสีสันนั้นก็มีให้เลือก 2 สีคือ Racing Yellow ที่ทีมได้รับมา เป็นหนัง Vegan 2.0 จับแล้วละมุนมือ แต่ใครที่บอกว่าไม่อยากได้หนังแล้วล่ะก็ สี Dashing Blue ก็ตอบโจทย์ดีเหมือนกันครับ
เปิดเครื่องลองใช้งาน realme GT 5G
รายละเอียดสเปกของ realme GT
- ขนาด: 158.5 x 73.3 x 8.4 มิลลิเมตร
- หนัก: 186 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : Super AMOLED ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9 ( 2400x1080 พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.43 นิ้ว Refresh Rate 120Hz / Touch Samping Rate 360Hz
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core | GPU Adreno 660
- RAM : 8 GB
- ROM : 128 GB
- ความจำเสริม : ไม่สามารถเพิ่มความจำได้
- ระบบปฏิบัติการ: Android 11 ครอบบน realme UI 2.0
- WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
- Bluetooth 5.1
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G
- กล้องหลัง 3 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF
ตัวที่ สอง เป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ตัวที่ สาม กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 16 ล้านพิกเซล
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D + ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ
- รองรับ : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : USB-C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4500 mAh + Dart Charge กำลัง 65W
- สี : Dashing Blue และ Racing Yellow
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ
คะแนนจาก AnTuTu = 718,970 คะแนน (GT Mode)
คะแนนจาก Geekbench 5 = 1125 คะแนน (Single Core) | 3116 คะแนน (Multi Core)
คะแนนการแสดงผลกราฟิกจาก 3DMark
ภาพรวมของคะแนนถือว่าทำได้ดี และผลของโหมด GT ทำให้มีการปรับประสิทธิภาพ เพิ่มพลังของเครื่องให้ทำงานได้ดีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้การเปิด GT Mode ต้องดูว่าเราใช้งานเครื่องหนักจริงหรือไม่ เพราะถ้าเปิดตลอดเวลา แบตเตอรี่จะหมดค่อนข้างเร็ว
ในเรื่องการตอบสนองในการเล่นเกมนอกจาก GT Mode แล้วยังมีตัวช่วยให้เล่นเกมได้สนุกไร้การรบกวนผ่าน Game Space ด้วย เรียกได้ว่านอกจากเร็วแล้วยังมีดีในเรื่องประสิทธิภาพของเครื่องด้วยครับ
การเชื่อมต่อไร้สาย
Realme GT 5G รองรับการเชื่อมต่อ 5G ทั้งแบบ Standalone (SA) และ Non Stanalone (NSA) และใช้งานได้ทุกคลื่นในประเทศไทย พร้อมกับ 4G LTE, Wi-Fi 6, Bluetooth แถมยังบอกพิกัดได้รวดเร็วแม่นยำอีกด้วยครับ
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
การแสดงผลหน้าของ realme GT 5G นั้นถือว่าเต็มอิ่ม เพราะให้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ และยังมีค่า Refresh Rate ที่เร็วกับการสัมผัสที่คล่อง เพราะใช้หน้าจอแบบ Super AMOLED นั่นเอง
ส่วนระบบเสียงให้ลำโพงคู่มาให้ทั้งบนและล่างเสียงถือว่าออกมาครบรส เน้นเรื่องความดังได้ดีเหมือนกันครับ และนอกจากนี้การที่มีช่องเสียบหูฟังมาให้ ถ้าคุณอยากฟังเพลงแบบเต็มอิ่มตามภาษาคนหูทอง เสียบ DAC สักตัวรับรองว่าเยี่ยมครับ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ด้านระบบปฏิบัติการมือถือรุ่นนี้เลือกใช้ Android 11 มาพร้อมกับ realme ui 2.0 มีการปรับปรุงให้การทำงานของเครื่องยังคงทำได้ดีสามารถแบ่งหน้าจอเป็น 2 ส่วนได้ แต่ว่าทำได้จะเฉพาะ Apps แต่สำหรับ realme GT ยังเปิดโอกาสให้คุณได้ลองใช้ของใหม่อย่าง Android 12 Beta 1 ได้แล้วเช่นเดียวกับมือถือของ Google Pixel
ลูกเล่นของ realme GT จะมาพร้อมกับดีไซน์ตกแต่งสวยมาพร้อมกับเครื่องมือเช่นเครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง ระบบทำความสะอาดตัวเครื่อง และระบบ Always On Display หากไม่พอสามารถดาวน์โหลดเพิ่มจาก Google Play Store
ส่วนระบบความปลอดภัยของเครื่องมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และระบบสแกนใบหน้าเช่นเคย
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย realme GT 5G
สำหรับกล้องของ realme GT 5G ติดตั้งมาให้ทั้งหมด 3 ตัว และกล้องหน้า 1 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลัง 3 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล F/1.8 PDAF
ตัวที่ สอง เป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ตัวที่ สาม กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 16 ล้านพิกเซล
รองรับการถ่ายวิดีโอที่กล้องหลังความละเอียด 4K 60 FPS และกล้องหน้าที่ความละเอียด 1080p
ลูกเล่นกล้องของ realme GT 5G
ลูกเล่นของกล้อง realme GT จะมีการออกแบบที่เรียบง่าย มีโหมดให้เลือกทั้ง ภาพกลางคืน, บุคคล, การถ่ายภาพปกติ เรียกได้ครบเครื่องเลย มาพร้อมกับโหมดโปรที่สามารถปรับรายละเอียดของภาพได้เช่นเดียวกัน และยังมีฟิลเตอร์ปรับได้ แต่ว่าถ้าเป็นโหมดบุคคลจะใช้การปรับแบบ AI เท่านั้น และมีโหมด สแกนบัตรประชาชน หรือ ID Card มาให้และทำงานได้ดี
ส่วนลูกการถ่ายวิดีโอมีให้ครบทั้งการละลายหลัง, ระบบกันสั่นทั้งหน้าและหลัง โดยด้านหลังจกปรับได้ทั้งแบบปกติ ภาพจาก Crop เข้ามา แต่ถ้า เป็น Max จะใช้เลนส์มุมกว้างเข้ามา พร้อมกับลูกเล่นเช่น การถ่ายกล้องหน้าและกล้องหลังคู่กัน, Timelapse, Slowmotion, โหมดโปร ถือว่าลูกเล่นครบ
ตัวอย่างการถ่ายภาพของ realme GT 5G
ภาพกลางวัน / แสงปกติ
ภาพกลางคืน / แสงน้อย
ภาพรูปแบบอื่นๆ
การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าของ realme GT 5G
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ยังคงมีการละลายหลังมาพร้อมกับการปรับ Beauty Mode ปรับได้ชนิดว่า คุณไม่ต่างหน้าก็สวยได้ ส่วนวิดีโอนั้นงรองรับความละเอียดสูงสุด Full HD เท่านั้น ในความคิดเห็นมองว่าน้อยไปหน่อย ยังดีที่มีระบบกันสั่นชดเชยมาให้อยู่
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟของ realme GT 5G
ด้วยแบตเตอรี่ของเครื่องมีขนาด 4500 mAh เท่านั้น เมื่อต้องมาใช้งานหนักเล่นเกมอย่างหนัก เปิดกล้องถ่ายภาพ ใช้นำทางพบว่าอยู่ได้ประมาณ 14 ชั่วโมงก็หมด ถือว่าทำได้ดีแล้ว ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพของ PCMark ทำได้อยู่ที่ 13:24 ชั่วโมง (จากแบตเตอรี่ 100% ลดลงเหลือ 18%) ถือว่ายังพอจะรับได้ แต่ถ้าเล่นเกมต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงจะหมดทันที
ส่วนระบบการชาร์จไฟถือว่าชดเชยปัญหานี้ได้เพราะมีการเลือกใช้ระบบ Super Dart Charge กำลัง 65W เข้ามาชดเชยนั่นเองทำให้มือถือรุ่นนี้ตอบสนองในการเก็บประจุไฟได้อย่างรวดเร็ว
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน realme GT 5G มาสักพักหนึ่ง
โดยภาพรวมแล้ว realme GT 5G ถือว่าเป็นมือถือที่น่าใช้อีกรุ่นถ้าคุณมองหามือถือที่มีความสามารถระดับเรือธง แต่ว่าอาจจะเน้นเล่นเกม แต่ว่าไม่ต้องการมือถือแนว Gaming เน้นดูดีสเปกครบและชาร์จไฟเร็วมาก นี่ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าคบหา แต่อาจจะติดในเรื่องของความจำว่า ROM ควรจะให้มากกว่านี้ เท่านั้นเอง
สำหรับราคาของ realme GT 5G ในประเทศไทยที่มีให้แค่ RAM 8GB / ROM 128GB อยู่ที่ 19,990 บาท ทั้งนี้ผู้อ่านที่สนใจแต่ว่าอยากซื้อในราคาถูกกว่านี้ก็สามารถคุยกับผู้ให้บริการ ก็จะได้ราคาลดลงมาจนน่าสนใจมากขึ้น และนี่ก็เป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่มีจุดเด่นและสเปกถือว่าดีมากๆ ตัวหนึ่งในเมืองไทย ท่ามกลาง ปัญหาเรื่องชิปขาดตลาดครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยและวัสดุหนังด้านหลังทำได้เนียนมือมาก
- ชาร์จไฟเร็วมาก
- ลูกเล่นของเครื่องครบและไปต่อได้ไกล
- มีช่องเสียบหูฟังให้อยู่
- น้ำหนักเครื่องไม่มากเท่าไหร่
ข้อสังเกต
- กล้องไม่มี Telephoto มาให้เหมือนกับ X Series
- แบตเตอรี่หมดเร็วถ้าเล่นเกมนานเกินไป
- ความจำของเครื่อง น้อยไป
อัลบั้มภาพ 34 ภาพ