เห็นแล้วชวนเสียเงิน "Marshall Minor III" และ Marshall Motif A.N.C. หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด

เรียกว่าเป็นกระแสของวันนี้เลยสำหรับภาพและข้อมูลหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ของ Marshall แบรนด์เครื่องเสียงยอดนิยมสัญชาติอังกฤษ ที่วันนี้เขาได้เปิดตัวหูฟัง TWS รุ่นใหม่ Minor III และ Motif ANC อย่างเป็นทางการ

MINOR III

แน่นอนว่ารุ่นที่เรากำลังจะพูดถึงคงหนีไม่พ้นเจ้า Marshall Minor III ที่มาพร้อมดีไชน์คล้าย ๆ กับ AirPods (มองผ่าน ๆ ก็มันแอบเหมือน) ที่มาพร้อมกับความดุดัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสวยงามแบบฉบับ Marshall

ทั้งนี้สเปกหลัก ๆ ของรุ่นนี้นั้นมันมาพร้อมกับไดรเวอร์หูฟังขนาด 12มม. ที่ให้เสียงที่ดังและคมชัด น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีมีระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancelling) คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall และเพลิดเพลินได้ยาวนานถึง 25 ชั่วโมง โดยตัวเอียร์บัดอยู่ได้ 5 ชั่วโมง และเคสชาร์จแบบพกพามีการชาร์จเพิ่มเติมก็สามารถชาร์จได้ถึง 4 ครั้ง รองรับการชาร์จเคสแบบไร้สายหรือด้วยสาย USB-C ได้อย่างง่ายดาย 

ในเรื่องของการสั่งงานนั้น Minor III มาพร้อมกับระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย คุณจึงใช้หูฟังแบบใดก็ได้เพื่อควบคุมเพลงและการโทร การถอดและใส่เอียร์บัดยังเป็นการเริ่มต้นคุณสมบัติหยุดชั่วคราวและเล่นอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจะไม่พลาดแม้แต่จังหวะเดียว

อิสระในการฟังโดยไม่ต้องใช้สายโดยไม่มีปัญหาเรื่องเสียง หูฟังไร้สายเหล่านี้ทำทุกอย่างเพื่อคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือหยิบเพลงแล้วไป และรองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX4

Minor III มาพร้อมกับ Bluetooth 5.2 ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าหูฟังเอียร์บัดสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการเข้ารหัสแบบใหม่ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

MOTIF A.N.C.

ส่วนอีกรุ่นจะมีชื่อว่า Marshall Motif A.N.C. ซึ่งจะมีดีไซน์เหมือนกับ Marshall Minor III แต่พิเศษกว่าคือในรุ่น Motif A.N.C. จะมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancelling) นั้นทำให้มันมีราคาที่สูงกว่า Minor III ตัวหูฟังมาตรฐานกันน้ำ IPX5 และเคสชาร์จขนาดพกพาที่ป้องกันรอยขีดข่วนตามมาตรฐาน IPX4 ทำให้คุณสามารถพกพามันไปไหน ๆ ก็ได้ครับ

Marshall Minor III พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ สนนราคาเริ่มต้นที่ 129 เหรียญ หรือราว 4,253 บาท ส่วน Marshall Motif A.N.C. จะมาพร้อมกับราคา 179 เหรียญ หรือราว 5,902 บาท ลุ้นกันต่อไปว่าในประเทศไทยได้เข้ามาจำหน่ายเมื่อไหร่ (โดยทั้ง 2 รุ่นมีให้เลือกใช้งานแค่สีเดียวเท่านั้นคือ สี Black)