รีวิว ROG Phone 5s Pro มือถือเพื่อคอเกมตัวใหม่สเปกล่าสุดกับ Snapdragon 888+
สวัสดีครับวันนี้รีวิวจากทีม Sanook Hitech กลับมาอีกครั้ง ในรอบนี้ทีมได้รับมือถือ รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ROG Phone 5s Pro ถือว่าเป็นรุ่นท็อปสุดของ ROG Phone 5s Series มาดูกันว่ามันจะเป็นอย่างไร และราคาของมือถือรุ่นนี้จะอยู่ที่เท่าไหร่และ คำว่าแรงที่สุดในโลกจริงไหม
แกะกล่อง ROG Phone 5s Pro
- ตัวเครื่อง ROG Phone 5
- สายชาร์จไฟ USB-C to USB-C
- ปลั๊กชาร์จไฟ กำลัง 65W
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- คู่มือ / สติ๊กเกอร์ ROG
- เคส
- ฝาปิดใต้เครื่องสำรอง
- พัดลม Active Aero Cooler 5
รุปลักษณ์ดีไชน์
เริ่มต้นกับ ROG Phone 5s Pro ยังคงได้ใช้หน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว โดยความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น FHD+ หรือ 2448x1080 พิกเซล เรียกได้ว่าหน้าจอของเครื่องยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม และความสว่างดูมากขึ้นและครอบบน Corning Gorilla Glass Victus เหมือนเดิม
ด้านบนจะมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมกับ ลำโพงหน้าแบบ Stereo ด้านบน
ส่วนล่างมาพร้อมกับปุ่มกด ควบคุมการใช้งานตัวเครื่องพร้อมกับลำโพงด้านล่าง
สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนปุ่มนั้นสามารถทำได้โดยเข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > Display (หน้าจอ) > System Bars (แทบแจ้งเตือน) > System Navigation (แถมนำทาง) จะเปลี่ยนได้ 2 แบบได้แก่
- Gesture สำหรับการปัด โดยสามารถเลือกได้ทั้งปัดในแบบเดียวกับ Android 10
- ปุ่มกดปกติที่สามารถกด Back (สำหรับย้อนกลับ), Home (สำหรับกลับหน้าหลัก), Recent (สำหรับเรียก Apps ที่เปิดก่อนหน้านี้
รอบตัวเครื่องจะมาพร้อมกับการดีไซน์ขอบโลหะ ส่วนฝั่งขวาจะมาพร้อมกับ ปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง, ปุ่ม Power สำหรับเปิด / ปิด ตัวเครื่องและมี Ultra Sonic สำหรับแตะเพื่อใช้ควบคุมในการเล่นเกม
ฝั่งซ้ายของเครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบ SIM Card จะมาพร้อมกับ Dual SIM แบบ Nano SIM ข้อเสียคือ รูเปิดซิมการ์ด มันลึกจนต้องใช้เข็มถาดใส่ซิมที่ติดกล่องเท่านั้น
และมีแผ่นยางจะมาพร้อมกับช่องเสียบอุปกรณ์เสริมอย่างพัดลม Aeroactive Cooler 5 ที่มีปุ่มอีก 2 จุดให้สามารถกดควบคุมการเล่นเกมได้
ด้านบนของเครื่อง จะมาพร้อมกับไมโครโฟนของเครื่องและมีเส้นของเสาอากาศรอบทิศทั้งบนและล่างแบบเดียวกัน ด้านล่างสุดของเครื่อง จะมาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟังที่กลับมาแล้ว และมีไมโครโฟนอีกตัวหนึ่ง
พลิกมาด้านหลังจะเห็นความแตกต่างจากรุ่นธรรมดาชัดเจนที่จอ ROG Vision ซึ่งเป็นของที่จะได้เห็นกับ ROG Phone 5 Ultimate เท่านั้น แต่สำหรับในการปรับปรุงสเปกครั้งนี้คุณได้เห็นทันที โดยหน้าจอแสดงผลเป็นจอสีและสามารถปรับได้ผ่าน Software ที่มีชื่อว่า Armoury Crate และมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมกับ LED Flash พื้นผิวเป็นกระจกเหมือนเดิม ไม่เพียงเท่านี้ส่วนล่างของหน้าจอหากวางแนวนอน จะพบว่ามีขีดไว้ 2 จุด ซ้ายและขวา นั่นคือปุ่มสัมผัสที่ไว้ควบคุมตัวในการเล่นเกมครับ
ภาพรวมการออกแบบ
ยังคงมีสัดส่วนไม่ได้แตกต่างจากเดิม โดยภาพรวมแล้วยังคงเป็นอีกมือถือเล่นเกมที่อยู่ในดวงใจแต่ว่าการตกต่างก็เปลี่ยนแปลงไปบ้างและมีการกดปุ่มที่ตัวเครื่องบางจุดเท่านั้นเอง
ความแตกต่างระหว่าง ROG Phone 5s และ ROG Phone 5s Pro
นอกจากสเปกกับราคาแล้วมีสองจุดที่ต้องพิจารณา
- ROG Phone 5s Pro มี Air Trigger ที่ฝาหลัง ส่วน Phone 5s ไม่มีที่ฝาหลัง จะเห็นได้จากขีดที่เห็นตรงมุมด้านล่าง
- ROG Phone 5s Pro จะมีจอภาพ ROG Vision มาให้เลือกใช้บริการ
- ROG Phone 5s Pro มี Aero Active Cooler 5 มาให้เลยในกล่อง ส่วน 5s ไม่มีต้องชื้อเพิ่ม
- และสเปกที่จะได้เห็นต่อไปนี้
เปิดเครื่องลองใช้งานบน ROG Phone 5s Pro
รายละเอียดสเปก ROG Phone 5s Pro
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 172.8 x 77.3 x 9.9 มม.
- น้ำหนัก: 238 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ
- หน้าจอ: AMOLED 1B ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2448 x 1080 พิกเซล พร้อมกับค่า Refresh Rate 144Hz, Touch Sampling Rate 300 Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888๙ Octa-core (1x2.99 GHz Kryo 680 & 3x2.42 GHz Kryo 680 & 4x1.80 GHz Kryo 680) | GPU Adreno 660
- แรม : 18GB
- ความจำภายใน : 512GB
- ความจำภายนอก : -
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G/4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX (WiFi 6), Bluetooth 5.2, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ Optical ในหน้าจอ
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 3 ตัว :
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (F/1.8) PDAF
- 13 ล้านพิกเซล (2, Ultra-Wide)
- 5 ล้านพิกเซล เลนส์ Macro
- กล้องหน้า: 24 ล้านพิกเซล (F/2.5)
- ช่องเสียบ : USB-C ทั้งหมด 2 ช่องด้านข้างและด้านล่าง และ ช่องเสียบหูฟ้ง 3.5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี : 6000 mAh + Rog Hyper Charge 65W รองรับ Power Delivery 3.0 จ่ายไฟกลับไปได้กำลัง 10W
- สี :Black
ผลการทดสอบประสิทธิภาพ / ฟีเจอร์เล่นเกม
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก AnTuTu (X-Mode) = 834,682 คะแนน
คะแนน Geekbench 5 = 1,154 คะแนน (Single Core) | 2,918 คะแนน (Multi Core)
คะแนนกราฟิกตัวอื่นเช่น 3DMark
เห็นได้ชัดเจนว่าคะแนนประสิทธิภาพนั้นถือว่าอัปเกรดพอสมควรทำให้ความเร็วและคะแนนประสิทธิภาพแทบไม่ผิดหวังกับขุมพลัง Snapdragon 888+ รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับรุ่น Pro จะได้ RAM 18GB สามารถใช้งานได้แบบเพียงพอสบายๆ ตลอดทั้งวันเลยครับ แต่ถ้าอยากแรงจริงจังต้องใช้พัดลม Active Aero 5 Cooler และ Software Armoury Crate
การทำงานของการเล่นเกมที่ดีของมือถือรุ่นนี้ จะอยู่ใน 2 ส่วนคือการเปิด X-Mode / X-Mode+ ที่นอกจากบูสต์เครื่องบ้าพลังและสามารถเร่งกับเกมในโหมด Gaming Mode, Hardcore Mode ที่ทำให้ดึงศักยภาพของเกมเข้ามาได้แบบเต็มที่เลยครับ แต่ที่เหลือจากภาพทั้ง Dynamic, Ultra Durable และ Advance จะไม่ได้ดึงประสิทธิภาพมากนัก
ส่วนการควบคุมของการเข้าหน้าเกมอย่าง Game Genie จะสามารถควบคุมได้แบบครบเครื่องมากเช่น การล็อคความสว่างหน้าจอ, การแสดงผลความร้อนและการทำงาน CPU, มีการปรับฟีเจอร์ทั้ง Crosshair ศูนย์เลงที่ปรับได้หลากหลายแบบสีสัน และยังมีฟีเจอร์การกดทั้ง Ultrasonic Button, Motion Sensor เพิ่มเข้ามาคือ Touch Sensor หรือ การสัมผัสด้านหลัง และ ปุ่มกดที่พัดลม หรือ Cooler Button เช่นเดียวกัน
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย / ระบบการนำทาง
ส่วนระบบการเชื่อมต่อไร้สายมาพร้อมกับ Wi-Fi 802.11 AX หรือ Wi-Fi 6 / 6E รองรับ Bluetooth 5.2, 5G แต่ยังเป็นคลื่น 2600 MHz และเชื่อมต่อ GPS ได้ลงตัวมากขึ้น และนอกจากนี้มีการออกแบบเสาอากาศแบบใหม่ที่ทำให้การรับสัญญาณมีความเสถียรมากกว่าเดิม
การแสดงผลภาพ / ระบบเสียงของ ROG Phone 5s Pro
ยังคงใช้การแสดงผลเดียวกับ ROG Phone 5 เดิมอยู่ โดยมาพร้อมกับจอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2448 x 1080 พิกเซล โดยจะมีค่า Refresh Rate 144Hz แต่ว่าหน้าจอมีการเปลี่ยนค่าสัมผัสเป็น 300Hz ทำให้หน้าจอถือว่าทำงานได้เร็วมากขึ้นทำกับค่าความหน่วงที่ 24.3 ms. หน้าจจะแสดงผล HDR10+, deltaE < 1, DCI-P3 gamut ครบเครื่องและยังรงรับการถนอมสายตาที่ดี หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็นจอของ Samsung AMOLED
นอกจากภาพจัดเต็มแล้ว ในเรื่องระบบเสียงที่ได้รับการยกให้เสียงดีจาก DXOMark ด้วยเทคโนโลยีที่มีลำโพงด้านบนมาให้พร้อมกับ Dirac, ESS จากช่องเสียบหูฟัง, Hi-Res,Qualcomm aptX Adaptive โดยการวางลำโพงนั้นเป็นแบบ Symmetical Dual Front-facing จะมีขนด 12x16 มิลลิเมตร ใหญ่กว่าเดิม 25% และให้พลังมากกว่าเดิม 21% สิ่งที่ได้คือเสียงมีมิติมากขึ้นเล่นเกมจะเก็บรายละเอียดของเสียงได้ดีเช่นถ้าคนที่เล่นเกมแนวยิง จะรู้ว่าคนอยู่ทิศไหนและมีการตั้งระบบสั่นเตือนได้ด้วย
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
ส่วนระบบปฏิบัติการของเครื่องจะมาพร้อมกับ Android 11 มาพร้อมกับ ROG UI รอบนี้จะมีการผสมระหว่าง Pure Android โดยมี Theme ที่มีลูกเล่นเวลาเข้า X Mode/X Mode+ ที่เปลี่ยนสีและแสดง Effect แบบครบเครื่อง แต่ว่ารอบนี้จะมาพร้อมกับการเปลี่ยน Theme เกมโปรดของคุณได้หลากหลายผ่าน Store และมีแถมฟรีให้ทั้งหมด 4 เกมด้วยครับ แถมยังใช้ระบบ Multi Window ได้อีกด้วย
นอกจากฟีเจอร์ของการเล่นเกมไปแล้วก็ยังมีฟีเจอร์ทั่วไปได้แก่ เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, สมุดจด, เข็มทิศ และสามารถอัดหน้าจอได้ แต่ที่เหลือนั้นจะเป็นฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกในการเล่นเกมอย่างแท้จริง
Armoury Crate
- ตัวปรับประสิทธิภาพเกม หรือ ตัวเลือกออฟชั่นแต่ละเกมที่ทำให้การเล่นเกมของคุณสนุกมากขึ้น โดยสามารถเปิดฟีเจอร์ได้ดังนี้
- ค่าความไวของการทัชสกรีน
- การกำหนดความลื่นไหวของการสไลด์
- ป้องกันการกดขอบเวลาที่เราเผลอไปกดด้านข้าง
- การปรับค่า Refresh Rate หรือการกระพริบของหน้าจอ และยังมีการตั้งค่าเกี่ยวกับ การควบคุมทั้ง ท่าทาง / Ultrasonic Button / ปุ่มด้านหลังเครื่อง / ปุ่มที่ Aero Active Cooler 5 โดยทำงานร่วมกับการตั้งค่าก่อนเล่นเกมผ่าน Armoury Crate และตั้งค่าระหว่างเล่นเกมผ่าน Game Genie มีตัวอย่างการตั้งค่าดังนี้
- Motion Sensor
- การขยับเครื่อง ซ้ายขวา, เคลื่อนไปข้างหน้า (Move Left / Right / Forward)
- ขยับเครื่องลงไปทางซ้ายหรือขวา (Tilt Left / Tilt Right)
- เลี้ยวซ้ายหรือขวา (Turn Left / Turn Right)
- ขยับเครื่องหรือลง (Tilt Forward / Tilt Backward)
- เขย่าเครื่องเล็กน้อย ไปทางขึ้นลง (Shake Vertically)
- Ultra Sonic Button
- สามารถเลือกว่าเราต้องการใช้กับ Option อะไรในเกม โดยสามารถสั่งงานได้ 6 ท่าทางทั้ง กดไปเฉยๆ, แตะเบาๆ, สไลด์, การกดลงไปคู่พร้อมกัน
- ปุ่มด้านหลังของเครื่อง ผลักไปทางซ้ายและขวาได้
- ปุ่มควบคุมสำหรับพัดลมของเครื่อง
- ปรับประสิทธิภาพของเครื่องถ้าต้องการให้ดันไปสูงสุด ต้องเสียบ Game Pad หรือ Aero Active Cooler ที่รุ่นนี้มีปุ่ม ที่ใช้ร่วมกับ Motion Sensor และ Ultra Sonic Button ได้
- การปิดกั้นเครือข่ายให้มาที่เกมอย่างเดียว หรือเปิดเน็ตมือถือเองเมื่อพบว่า WiFi นั้นมีสัญญาณที่ไม่ดี หรือ Hyper Fusion
- Scout Mode จะมีฟีเจอร์ที่ทำให้ภาพแสดงผลจะเป็นการมองหาภาพที่มองไม่เห็นเปลี่ยนได้สวยจะมีประโยชน์กับ Game แนวยิง เฉพาะบางเกม
- Macro สามารถรู้ว่าเรากดอะไรไประหว่างเล่นเกม สามารถกดบันทึกที่ระหว่างเล่นเกมผ่านฟีเจอร์ Game Genie
- การเปลี่ยนรูปแบบของ ROG Vision โดยส่วนมากแล้วจะแสดงทั้งหมด 6 แบบได้แก่
- แสดงเวลา
- เปิด X-Mode
- เข้าเกม
- มีสายเรียกเข้า
- การชาร์จไฟ
- ต่ออุปกรณ์เสริม
- นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนโหมดประสิทธิภาพในการเล่นเกมของเครื่องจะมีให้เลือก 4 โหมดได้แก่
- X-Mode / X-Mode+ คือการผลักประสิทธิภาพของเครื่องสูงสุด ถ้าเป็น X-Mode+ จะทำงานร่วมกับพัดลมได้
- Dynamic สามารถปรับให้ทุกอย่างสมดุลเล่นเกมได้ดี
- Ultra Durable ต้องการให้เครื่องอยู่ได้นาน มากขึ้น
- Advance จะสามารถปรับรูปแบบได้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ
- Hardcore Tuning ให้แรงขั้นสุดได้
- E-Sport Mode ปิดทุกอย่างในการแจงเตือนและมีการจ่ายไฟเข้าไปในเครื่องโดยตรง
- ข่าวสารและการเชื่อมต่อกับ PC
ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และ ระบบสแกนใบหน้ามาให้เหมือนเดิม
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย ROG Phone 5s Pro
- กล้องหลัง 3 ตัว :
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (f1.8) PDAF
- 13 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide)
- 5 ล้านพิกเซล เลนส์ Macro
- กล้องหน้า: 24 ล้านพิกเซล (f2.0)
ฟีเจอร์ของกล้อง ROG Phone 5s Pro
เมนูกล้องของ ROG Phone 5 ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นที่แล้ว แต่ว่าคราวนี้มีโหมดที่แบ่งระหว่างการถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดเจน การใช้งานซูมทำได้ง่าย เมนูกดง่ายเพราะมี icon ที่อธิบายครบจนเรียกได้ว่าเอาใจคนขอบถ่ายภาพระดับหนึ่ง แต่รอบนี้มีแบ่งเป็นโหมดอื่นๆ ก็จะมีการเพิ่ม Pro Video, Night Mode และกลางคืน สามารถซูมได้มากสุด 8X
มาดูเรื่องการถ่ายภาพเคลื่อนไหวบ้าง วิดีโอรุ่นนี้ก็มีฟีเจอร์ควบคุมกันสั่นไหวแบบ EIS มาให้ทำให้ภาพที่ออกมาดูดี แต่ถ้าถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS และ 8K / 30 FPS เลยทีเดียว พร้อมกับลูกเล่นทั้ง Timelaps, Slo-mo ได้ช้าสุดที่ HD 480 FPS และ Motion Tracking จับการเคลื่อนไหววัตถุได้ และ Pro Video ที่ทำได้เหมือนมือถือราคาแพงในระดับเดียวกัน และยังมีฟีเจอร์ตัดเสียงลม, ฟีเจอร์เลือกใช้ไมโครโฟนฯ เป็นต้น และสามารถซูมได้มากที่สุดแค่ 4X
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก ROG Phone 5s Pro
ภาพกลางวัน / แสงปกติ
ภาพกลางคืน / แสงน้อย
ภาพรูปแบบอื่นๆ
ทดลองถ่ายกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
สำหรับกล้องหน้าของ ROG Phone 5 ยังไม่ได้แตกต่างจากกล้องมือถือปกติ แต่ว่าถ้าโดดเด่นคือมีการเพิ่มลูกเล่น Make up แต่งหน้าได้สวยงามได้ แต่เสียดายว่าถ้าผู้ชายเปิดโหมดนั้นถ่ายแล้วรู้สึกว่ามันดูสาวไปหน่อย ส่วนการถ่ายวิดีโอความละเอียดที่รองรับได้คือ 1080P และเลือกรูปแบบของไมโครโฟนได้ด้วย
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
มาถึงเรื่องสุดท้ายอย่างแบตเตอรี่ยังคงได้ขนาด 6000 mAh โดยแยกออกเป็น 2 ก้อนทำให้น้ำหนักเครื่องเบาอยู่ ซึ่งการทดสอบการเล่นเกมถ้าเล่นอย่างหนักสามารถทนอยู่ได้ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ได้เล่นเกมก็สามารถอยู่ได้หมดวันพอดี ส่วนการทดสอบด้วย PC Mark ในรอบนี้ทดสอบ 2 รอบเหมือนเดิมคือ Dynamic Mode ทำได้ 13:05 ชั่วโมง
ส่วนการชาร์จไฟของ ROG Phone 5s Pro นั้นยังคงใช้ระบบเดิมคือ HyperCharge 65W เมื่อใช้ที่ชาร์จติดกล่อง (กำลังที่แท้จริงคือ 85W) และรองรับ Power Delivery มาให้ด้วยในตัวและรองรับทั้ง Quick Charge 3.0 และ Power Delivery และรองรับการชาร์จไฟย้อนกลับไปที่ 10W และยังมีระบบดูแลแบตเตอรี่แบบเต็มพิกัด และตัวเครื่องออกแบบให้ชาร์จไฟทั้ง
ด้านข้างด้านล่าง และ ด้านข้างของเครื่องทำให้สามารถเล่นเกมไปชาร์จไฟไปได้สบายๆ (แนะนำว่าถ้าจะเล่นเกมพร้อมกับชาร์จไฟ ที่ชาร์จควรเป็นของแท้ และปลั๊กไฟควรได้รับมาตรฐาน มอก. จะดีที่สุด) ส่วนเรื่องการดูแลแบตเตอรี่นั้นเครื่องนี้ก็มีระบบควบคุมจัดการ Battery Care ควบคุมกำลังไฟ, ความร้อน ควบคุมการชาร์จให้แบตเตอรี่เสื่อมน้อยที่สุดได้ง่ายดาย
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งาน ROG Phone 5s Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากที่ได้อยู่กับ ROG Phone 5s Pro มาสักพักใหญ่ต้องบอกว่านี่คือร่างเติมเต็มของมือถือเล่นเกมที่เปิดตัวในปีนี้และขุมพลังนั้นแรกมากขึ้นอย่างชัดเจนอย่างมากเลยครับ ถือว่าเป็นสเปกใหม่มากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง และมีการเพิ่มระบบสัมผัสในการเล่นเกมของรุ่นท็อปสุด จนเรียกได้ว่าข้ามขีดจำกัดของเดิมแทบทันที
สำหรับราคาของ ROG Phone 5s Series มีดังนี้
- ROG Phone 5s สีดำ RAM 12GB / ROM 256GB = 25,990 บาท
- ROG Phone 5s สีขาว RAM 16GB / ROM 512GB = 30,990 บาท
- ROG Phone 5s Pro RAM 18GB / ROM 512GB = 39,990 บาท
เห็นได้ชัดว่าราคาของเครื่องถือว่าไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ ทำให้เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดล่าสุด อย่างไรก็ตาม มือถือรุ่นนี้จะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ที่กำลังจะถึงนี้ครับ และนี่เป็นเป็นอีกมือถือเล่นเกมดีที่คอเกมไม่ควรพลาดครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยพร้อมกับจอแสดงผลที่ดีขึ้นกว่าเดิม
- สเปกเครื่องแรงมากขึ้นกว่าเดิม
- ลูกเล่นของการเล่นเกมหลากหลายมากขึ้น
- ชาร์จไฟไวกว่าเดิม
- น้ำหนักเครื่องสมดุลในการถือทั้งฝั่งซ้ายและขวา
- มีช่องเสียบหูฟังอยู่
ข้อสังเกต
- การระบายความร้อนสูงกว่าตัวเก่า
- พัดลม AeroActive Cooler 5 มีแถมให้เฉพาะรุ่น 5s Pro
- อุปกรณ์เสริมน้อยลงกว่าเดิม
- ต้องใช้เข็มจิ้มถาดใส่ซิมติดกล่องถึงจะเปิดถาดใส่ซิมการ์ดของเครื่องได้
อัลบั้มภาพ 40 ภาพ