แกะกล่องรีวิว Samsung Jet Bot AI+ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ฉลาดที่สุดของ Samsung ครบ จบ ในเครื่องเดียว
สวัสดีครับ! กลับมาพบกับพวกเราทีมงา Sanook Hitech กับบทความรีวิวอีกครั้ง สำหรับบทความนี้เรามีของเล่นใหม่มารีวิวให้อ่านกัน Samsung Jet Bot AI+ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราจะรีวิวให้คุณได้อ่านกันในวันนี้ครับ
Samsung Jet Bot AI+ เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจริยะรุ่นใหม่ที่บอกเลยว่าเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบ้านมาก ไม่ว่าคุณจะอยู่เป็นครอบครัวเดียวเล็กๆ หรือครอบครัวใหญ่ การมี Samsung Jet Bot AI+ ไว้ในบ้านคือเรื่องทีดี ^^
สเปกเบื้องต้นของ Samsung Jet Bot AI+
- ขนาดเครื่อง: 40.00 x 28.00 x 52.20 ซม.
- น้ำหนัก(รวมอุปกรณ์เสริมทั้งหมด): 14 kg
- ระบบดูด:แห้ง
- AI ProcessorIntel® Movidius™ Myriad™
- 3D Sensor
- LiDAR Sensor
- พลังดูด (เฉพาะจุด): 30W
- การใช้พลังงาน: 85W
- ความจุฝุ่น(ลิตร): 0.2
- สี Misty White
- ราคา 45,990 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Samsung Jet Bot AI+
- ตัวเครื่อง Samsung Jet Bot AI+
- Clean Station แท่นชาร์จแบตพร้อมทิ้งฝุ่นอัตโนมัติ
- Fine Dust Filter ตัวกรองกรองฝุ่น
- แผ่นกรอง Pre-Motor Filters ในรุ่นนี้ให้มา 2 ชุดจะใส่อยู่ในเครื่องและอีกอันเป็นสำรอง
- Dust Dags ให้มา 2 ชุดเช่นกัน จะใส่อยู่ในเครื่องและอีกอันเป็นสำรอง
- สายชาร์จ
- คู่มือการใช้งาน
เริ่มกันที่ส่วนแรกรูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง l การออกแบบดีไซน์ของ Samsung Jet Bot AI+
Samsung Jet Bot AI+ มาในกล่องมาตรฐานตามแบบฉบับของ Samsung ภายในก็จะมีเพียงตัวเครื่อง Samsung Jet Bot AI+ , Clean Station แท่นชาร์จแบตพร้อมทิ้งฝุ่นอัตโนมัติ สายไฟไดชาร์จ และรวมไปถึงส่วนอุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ
เริ่มกับที่ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Samsung Jet Bot AI+ ออกแบบทรงกลมและมีการออกแบบทำให้สามารถดูดฝุ่นและออกแบบทำให้เครื่องมีรูปแบบที่ดูสวยเรียบง่ายและไม่สูงมาก
ตัวหุ่นยนต์ยังมีระบบกรองฝุ่นละออง 5 ชั้น ดักจับฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 99.99% รวมถึงอนุภาคขนาด 0.5~4.2 µm ซึ่งชิ้นส่วนและตัวไส้กรองทั้งหมดสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้
ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วยปุ่มโฮมแบบกด และมีเซนเซอร์ Wi-Fi ส่วน QR Code นั้นเป็นการสแกนนิ้วมือเพื่อดาวน์โหลด Smart Thing ต่อเชื่อมกับมือถือและหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้ง่าย
ลักษณะของล้อจะเป็นกลไกที่สามารถยกตัวเองหลบพรม และเป็นล้อ เหมือนตีนตะขาบ แต่ความจริงเป็นล้อปกติ แต่มีการออกแบบเพื่อให้ขับเคลื่อนได้เงียบและลงตัว
ตัวเครื่องด้านหน้ามีเซนเซอร์ส และกล้อง อย่างที่บอกไปแล้วในเจ้า Samsung Jet Bot AI+ มีกล้องติดมาด้วย ทำให้เราสามารถตรวจดูสัตว์เลี้ยงหรือบ้านได้ในทุก ๆ ที่ที่คุณอยู่ กล้องหน้าของ Jet Bot สามารถไลฟ์สตรีมวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอป SmartThings
ทางด้านหน้า และมีเทคโนโลยี LiDAR เซนเซอร์ ทำความสะอาดได้โดยที่คุณไม่ต้องเข้าไปตรวจดูในแต่ละห้องเสียก่อนว่ามีสิ่งกีดขวางอะไรหรือไม่ เซ็นเซอร์สามมิติของ Jet Bot สแกนพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างแม่นยำ* ด้วยการใช้กล้อง Depth Camera สามมิติ ซึ่งกล้องดังกล่าวจะรับรู้ถึงโครงสร้างของห้องและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ รวมถึงวัตถุที่มีขนาดแคบและเล็กอย่างสายไฟ แม้ว่าจะมีความสูงเพียง 1 ซม. ก็ตาม
พลิกมาดูที่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง Samsung Jet Bot AI+ ด้านล่างประกอบด้วย
ต่อกันที่ส่วนของ Clean Station แท่นชาร์จแบตพร้อมทิ้งฝุ่นอัตโนมัติ Clean Station มาพร้อมกับดีไซน์เป็นตู้สี่เหลี่ยมทรงกระบอกที่ภายในบรรจุถุงเก็บฝุ่นละอองขนาด 2.5 ลิตร
โดยอัตโนมัติและทำการย้ายฝุ่นที่ดูดมาไปเก็บไว้ในตู้โดยใช้เทคโนโลยี Air Pulse เสริมด้วยระบบการกรองแบบหลายชั้นที่ดักจับฝุ่นละเอียด 99.99%
ที่ด้านบนเป็นส่วนของฝาที่ไว้สำหรับเปิด-ปิด ถึงเก็บฝุ่นนั้นเองครับ และเป็นที่จอดหุ่นเมื่อเราพาหุ่นยนต์เข้ามาก็สามารถเก็บฝุ่นเข้าไปภายในทันที
เมื่อเปิดออกมาพบว่าในตัวของฐานจะมีเครื่องเก็บฝุ่นทำให้คุณไม่ต้องทำความสะอาดตัวเก็บสามารถเก็บฝุ่นผ่านตัวเก็บได้ง่าย
ด้านล่างของ Clean Station จะมีช่องสำหรับให้นำพาฝุ่นไปเก็บภายในกล่องสีขาวด้านบน
ทางด้านหลังจะมีที่เก็บสายไฟและปรับตามความเหมาะสมตามที่เราต้องการเพื่อไม่ให้สายไฟนั้นรกเกินไป
แปรงประสิทธิภาพสูง ทำความสะอาดพรมกับพื้นวัสดุเนื้อแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิมและมีเศษไปพันแปรงน้อยลง แปรงประสิทธิภาพสูงของหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นเป็นเส้นใยละเอียดที่ทำมาจากสิ่งทอนุ่ม ๆ ที่มีส่วนผสมของวัสดุเงินต้านไฟฟ้าสถิต ส่วนเครื่องแยกประสิทธิภาพสูงก็จะช่วยบดเส้นขนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ไปติดพันรอบ ๆ แปรง
ในเรื่องของเทคโนโลยีในการดูดฝุ่นมีมากมาย หนึ่งในนั้นคือ High-Efficiency Brush พร้อม ที่บดและตัดเส้นผมลดการพันกันของผมหรือขนสัตว์ โดยจะมีช่องเล็กๆ เพื่อแยกระหว่างฝุ่นและเส้นผมทำให้ล้อการหมุมเปลี่ยนทิศจถอยู่ด้านหลังของแปรง
กล่องดักฝุ่นที่ล้างได้ทุกส่วน : ให้กล่องดักฝุ่นของคุณสะอาดอย่างถูกสุขอนามัยได้อยู่เสมอพร้อมขจัดฝุ่นออกจากหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นได้อย่างง่ายดาย กล่องดักฝุ่นขนาด 0.2 ลิตรรวมถึงระบบไซโคลนแบบหลายทิศทางนั้นสามารถถอดล้างได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นกล่องดักฝุ่นของคุณจะคงความสะอาดอย่างถูกสุขอนามัยได้อยู่เสมอ
Clean Station: เทถังฝุ่นทิ้งทุก ๆ 1-3 เดือนได้อย่างสะดวกสบายและถูกสุขอนามัย* หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นจะกลับไปยัง Clean Station โดยอัตโนมัติหลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จ
ซึ่งจะช่วยขจัดฝุ่นออก ด้วยเทคโนโลยี “Air Pulse” และยังมีระบบการกรองแบบหลายชั้นที่ช่วยดักจับฝุ่นละเอียด และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ถึง 99.999%
ระหว่างที่เครื่องเก็บฝุ่นทำงานอาจจะมีเสียงดังบ้างแต่ใช้ระยะเวลาไม่นานก็เงียบสงบเหมือนเดิม ส่วนไฟแสดงผล ที่เห็นจะเป็นสีแดง แสดงว่ามีการชาร์จไฟ หากเต็มจะแสดงเป็นสีฟ้า
การจดจำวัตถุแบบ Jet AI:
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Jet AI คือระบบจะทำความสะอาดได้อย่างอัจฉริยะด้วยการจดจำสิ่งของต่าง ๆ ได้ ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีการจดจำวัตถุแบบ Jet AI สามารถระบุและจำแนกวัตถุกับเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ* พร้อมสร้างแผนที่ตำแหน่งของสิ่งของเหล่านั้นได้ จากนั้น Jet Bot ก็จะทำความสะอาดวัตถุทั่วไปแบบใกล้ ๆ รวมถึงเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากวัตถุแตกง่ายหรือหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดสิ่งที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่าง ๆ
เซ็นเซอร์สามมิติ
ทำความสะอาดได้โดยที่คุณไม่ต้องเข้าไปตรวจดูในแต่ละห้องเสียก่อนว่ามีสิ่งกีดขวางอะไรหรือไม่ เซ็นเซอร์สามมิติของ Jet Bot สแกนพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างแม่นยำ ด้วยการใช้กล้อง Depth Camera สามมิติ ซึ่งกล้องดังกล่าวจะรับรู้ถึงโครงสร้างของห้องและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ รวมถึงวัตถุที่มีขนาดแคบและเล็กอย่างสายไฟ แม้ว่าจะมีความสูงเพียง 1 ซม. ก็ตาม
เซ็นเซอร์ LiDAR : ทำความสะอาดบ้านได้มีประสิทธิภาพและทั่วถึงกว่าเดิมด้วยหุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นที่คำนวณตำแหน่งของตนเองได้อย่างแม่นยำพร้อมทั้งปรับเส้นทางการทำความสะอาดให้เหมาะสมได้ เซ็นเซอร์ LiDAR ติดตามตำแหน่งของ Jet Bot ได้อย่างแม่นยำด้วยการสแกนห้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านระยะทาง ทำให้หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นสามารถเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำความสะอาดพื้นที่ในบ้านของคุณได้มากขึ้น
ควบคุมได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชั่น
ใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทควบคุมได้ง่าย ๆ ควบคุมและเฝ้าดู Jet Bot ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการควบคุมผ่าน Wi-Fi ด้วยแอปพลิเคชั่น SmartThings คุณสามารถกำหนดตารางการทำความสะอาดห้องที่เลือกหรือกำหนดบริเวณห้ามทำความสะอาดจากที่ไหนก็ได้
ขั้นตอนการเชื่อมต่อ Samsung Jet Bot AI+ กับแอปพลิเคชัน SmartThings โดยจะต้องมี Wi-Fi บ้าน ในขั้นตอนการติดตั้งและใช้งานครั้งแรกก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ เพราะในแอปมีคู่มือการเชื่อมต่อสอนไว้อย่างชัดเจน ต่อให้เป็นคน low เทคโนโลยีขนาดไหนก็สามารถทำได้
ฟังก์ชั่นในการทำความสะอาดนั้นก็สามารถเริ่มได้จากการเชื่อมต่อ โดยหุ่นจะจะมีการตรวจสอบพื้นที่ว่ามีที่ไหนที่สามารถทำความสะอาดได้, ตั้งชื่อหุ่น, ตั้งชื่อห้องที่วาง สามารถกำหนดรูปแบบการทำความสะอาด, ตั้งวัน / เวลาในการทำความสะอาด
ใช้งานได้กับอุปกรณ์ Android และ iOS จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi และใช้ Samsung Account เท่านั้น
ทำให้เราสามารถควบคุมและเฝ้าดู Jet Bot ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการควบคุมผ่าน Wi-Fi ด้วยแอป SmartThings* คุณสามารถกำหนดตารางการทำความสะอาดห้องที่เลือกหรือกำหนดบริเวณห้ามทำความสะอาดจากที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเฝ้าดูบริเวณที่หุ่นยนต์ทำความสะอาดได้แบบเรียลไทม์พร้อมดูสัตว์เลี้ยงหรือดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นในบ้านบ้างได้ด้วย Jet Live
Jet Live เป็นอีกจุดเด่นที่ถูกในเรามากๆ อย่างที่บอกไปแล้วในเจ้า Samsung Jet Bot AI+ มีกล้องติดมาด้วย ทำให้เราสามารถตรวจดูสัตว์เลี้ยงหรือบ้านได้ในทุก ๆ ที่ที่คุณอยู่ กล้องหน้าของ Jet Bot สามารถไลฟ์สตรีมวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอป SmartThings ที่คุณจะสามารถเฝ้าดูสถานะบ้านของคุณได้ในโหมดลาดตระเวน (Patrol Mode) การสตรีมนี้รองรับ E2EE ที่จะช่วยเข้ารหัสวิดีโอและกำหนดให้รับชมได้โดยผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
การทำความสะอาดที่ไม่ได้เลือกแค่จุดใดจุดหนึ่ง
อย่างที่บอกไปในส่วน Application นั้นคุณสามารถตั้งค่าไม่ให้วิ่งไปยังพื้นที่ที่ไม่ต้องการได้ เลี่ยงที่จะทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง, ห้องบางห้อง หรือพื้นที่อื่น ๆ ได้ตามใจคุณ ด้วยแอป SmartThings และยังมีการกำหนดจุดต่างๆ ได้แก่
Select & Go เสริมประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดเวลาได้ด้วยการเลือกพื้นที่เฉพาะเจาะจงที่จะทำความสะอาดด้วย Select & Go Jet Bot จดจำห้องต่าง ๆ และสามารถเลือกที่จะทำความสะอาดแต่ละห้องได้เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านนั้นจะสะอาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
No-go Zone ตั้งค่าไม่ให้วิ่งไปยังพื้นที่ที่ไม่ต้องการได้ เลี่ยงที่จะทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง, ห้องบางห้อง หรือพื้นที่อื่น ๆ ได้ตามใจคุณ ด้วยแอป SmartThings* คุณสามารถสร้าง “บริเวณห้ามทำความสะอาด” หรือกำแพงเสมือนได้ด้วยการเลือกตำแหน่งต่าง ๆ ในแผนที่บ้านของคุณ สิ่งนี้เองจะป้องกันไม่ให้หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่นวิ่งไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องหาอะไรมากั้นจริง ๆ แต่อย่างใด
แน่นอนว่าเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว Samsung Jet Bot AI+ จะกลับไปที่ Clean Station และเทสิ่งสกปรกออกที่นั่น เปลี่ยนสิ่งสกปรกออกได้ทุกๆ 2-3 เดือน
เล่นแล้วเล่าให้ฟังว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นซัมซุง Jet Bot AI+ ตกหลุมรักหรือไม่
อย่าให้ต้องเล่าว่าหลังได้ทดลองใช้งานเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นซัมซุง Jet Bot AI+ ไปนานๆ เข้าก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าตกหลุมรักมันตอนไหน? ส่วนตัวคือพอมีน้องไว้ในบ้านดูเหมือนชีวิตอะไรก็ง่ายไปหมด ง่ายตั้งแต่ตอนซื้อและนำมาติดตั้ง คือเอาจริงแม้จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็สามารถประกอบและใช้งานน้องได้เองสบาย ชนิดที่ว่าไม่ต้องร้องหาผู้ชาย
ต่อมาเป็นเรื่องของความฉลาดที่บอกเลยว่า ซัมซุง Jet Bot AI+ รุ่นนี้สุดมาก เวลาทำความสะอาดบ้านคือไม่ต้องมากังวลว่ามันจะดูดของใช้ชิ้นเล็กๆหรือทำการเก็บกวาดสายอะไรเข้าไป ด้วยนวัตกรรม AI Driving และเทคโนโลยี LiDAR เซนเซอร์ สามารถสร้างแผนที่ของบ้านโดยระบุตำแหน่งของสิ่งของต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ และสามารถเคลื่อนไหวหลบหลีกสิ่งกีดขวางแม้เล็กเพียง 1 เซนติเมตรได้
เอาเป็นว่าหากใครกำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไว้ใช้งานสักเครื่องแล้วละก็เราขอบอกว่า เจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นซัมซุง Jet Bot AI+ น่าสนใจนะ และเราอยากให้คุณลองไปทดลองเล่นของจริงดู Jet Bot AI+ Robot with Jet AI Object Recognition พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของในราคา 45,990 บาท สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com/th/vacuum-cleaners
พวกเราทีมงาน Sanook! Hiech หวังว่าหากคุณได้อ่านรีวิวบทความนี้จนจบ สิ่งที่พวกเราทีมงานได้นำมาเล่าและเขียนให้ได้อ่านกันจะมีประโยชน์ในการใช้ประกอบการตัดสินใจของทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยครับ แล้วกลับมาเจอกันได้ใหม่รีวิวชิ้นถัดไป สวัสดีครับ ^^