รีวิว realme 9 Pro+ มือถือระดับหมื่นต้น เซนเซอร์กล้องเรือธง ใช้ดีไม่เบานะ
กลับมาพบกับรีวิว Gadget และมือถือใหม่จากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง โดยคราวนี้มาพบกับ realme 9 Pro+ ซึ่งเป็นมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ เลยทีเดียวแต่ในรุ่นนี้การใช้งานจริงกับราคาของเครื่องที่ 12,999 บาท จะดีแค่ไหน และน่าซื้อมาใช้หรือไม่ รับชมได้เลยครับ
รายละเอียดสเปกของ realme 9 Pro+
- หน้าจอ OLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล WFHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว
- ขนาดตัวเครื่อง 160.2 x 73.3 x 8 มม.
- น้ำหนัก 182 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G
- กราฟิก : Mali-G68 MC4
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 128GB
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, 5G / 4G
- ลำโพง เป็นแบบ Stereo ทั้งบนและล่าง
- การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + PDAF (Sony IMX766)
- เลนส์ มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 119 องศา
- เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- LED Flash
- ถ่ายวิดีโอ 4K 30fps, FHD 30/60/120/480 fps, 720p 960 fps
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ ไม่ได้ระบุ
- ระบบปลดล็อค สแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟ Super Dart Charge 65W (ติดมาให้ในกล่อง)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
- สี Aurora Green, Sunrise Blue
แกะกล่องของ realme 9 Pro+ มีดังนี้
- Realme 9 Pro+
- สายชาร์จไฟ USB-C to USB-A
- Adapter USB แบบ Super Dart Charge 65W
- คู่มือใช้งาน
- เคสเครื่องแบบใส
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ realme 9 Pro+
เริ่มต้นกับดีไซน์ที่เรียบหรูดูดีเพราะมีกล้องซ่อนตรงด้านบนมุมซ้ายมือซึ่งให้ความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับจอแบบ AMOLED ให้สีสันตรง ซึ่งทั้งหมดจะเอาไปเล่าต่อในส่วนของหน้าจอนะ
ส่วนบนจะมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ต่างๆ, พร้อมกับ icon แจ้งเตือนครบคัรน
ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบปฏิบัติการ ที่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Convenience Tools (เครื่องมืออำนวยความสะดวก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด 2 แบบคือ
- ปุ่มกดปกติ
- การปัด
รอบตัวเครื่องจะเป็นเฟรมพลาสติกขึ้นรูปและดูจะเหลี่ยมแล้วอีกนิดเดียว โดยยังคงจัดการได้ดีมีทั้งช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่องด้วยกัน พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง
ฝั่งขวาจะมีปุ่มสำหรับเปิด / ปิดตัวเครื่อง
ส่วนบนจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนเท่าที่ได้สัมผัสรุ่นนี้อัดเสียงทั้งใช้เครื่องอัดและวิดีโอเก็บเสียงได้เนียนดีมากครับ
ส่วนล่างมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟน, USB-C และลำโพงตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าดังกำลังดีเลยครับ
พลิกมาด้านหลังถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเพราะกล้องหลังจัดมุมบนและมีการขยายเลนส์กล้องใหญ่ทั้งเลนส์ปกติและมุมกว้างพร้อมเลนส์ที่เป็นระยะเข้าใกล้ และการออกแบบลวดลายด้านหลังที่สวยงามมาก โดยเฉพาะสี Aurora Green ที่ได้มาทดลองจะมีประกายที่สวยงามไม่เบาเลยครับ
มาตรฐานกันน้ำของมือถือรุ่นนี้
สำหรับมือถือรุ่นนี้ยังไม่มีการบอกว่ากันน้ำหรือไม่ แต่คาดว่าจะกันในแบบแค่น้ำกระเด็นใส่เท่านั้นแต่ไม่สามารถลงน้ำได้นะ
น้ำหนัก / การถือของเครื่อง
ด้วยน้ำหนักของเครืองอยู่ที่ 182 กรัมเท่านั้นถือว่าไม่มากเท่าไหร่ และเมื่อเคสออกแบบให้เครื่องที่หนาทำให้จับได้ลงตัวมากขึ้น ทำให้ตัวเครื่องรุ่นนี้เป็นการจับที่ถนัดมือถ้าใส่เคส แต่ถ้าไม่มีเคสก็ยังจับได้ดีอยู่นะ ส่วนสีสันในประเทศไทยมีขายแค่ 2 สีคือ Aurora Green, Sunrise Blue
การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง
Realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจะมาพร้อมกับความละเอียด Full HD+ และมาพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ทำให้การรับชมภาพยนตร์สวยงามมากๆ และยังมีรายละเอียดที่เก็บได้สวยมากอยู่นะ
สำหรับรุ่นนี้ได้ลำโพงทั้งบนและล่างเป็นแบบ Stereo ให้เสียงที่คมชัดและรองรับการปรับแต่งได้ระดับหนึ่งเลยครับ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการของ realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นมือถือรุ่นต้นๆ ของมือถือค่ายนี้ที่ได้ใช้ Android 12 มาจากกล่อง และครอบทับ realme UI 3.0 ใหม่ล่าสุดเลยครับ มันดูดีเลยนะ เพราะมีในเรื่องของการจัดวางที่ง่ายและมีการดูรายละเอียดที่เต็มที่กดได้ง่ายกว่าระบบปฏิบัติการอื่น แถมยังสามารถใช้งาน แบ่งหน้าจอได้หลากหลายแบบ
แต่เครื่องมือของเครื่อง realme 9 Pro+ ที่มาทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, กระจก รวมไปถึง เครื่องมือดูแลเครื่องอย่างครบครัน และสามารถใช้ Google Play Store
ส่วนระบบความปลอดภัยที่ทำให้คุณมั่นใจคือ ระบบสแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว
ประสิทธิภาพของ realme 9 Pro+
คะแนนประสิทธิภาพจาก AnTuTu :
คะแนนประสิทธิภาพจาก Geekbench 5 :
ผลการทดสอบประสิทธิภาพจาก 3DMark
ผลการทดสอบการสัมผัสได้ทั้งหมด 10 จุด
เมื่อเห็นผลการทดสอบประสิทธิภาพ ถือว่าทำได้ดีประมาณหนึ่งเลยครับ และเมื่อทดลองเล่นเกมทั้ง Asphalt 9 Legend, PUBG Mobile ถือว่าตอบสนองได้ดี แม้กระทั่งเกมหนักๆ อย่าง Genshin Impact ถือว่าใช้ได้อยู่ครับ ส่วนฟีเจอร์ในเรื่องของการเล่นเกมสามารถปรับประสิทธิภาพ และยังอัดหน้าจอได้ด้วย
ระบบการเชื่อมต่อไร้สาย
อีกจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้คือรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 รองรับทั้ง 5G ครบทุกเครือข่าย, การนำทางของเครื่องถือว่าแม่นยำอยู่นะ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย realme 9 Pro+
เห็นกล้องของมือถือ realme 9 Pro+ ต้องบอกว่ามันมีดีอยู่เพราะสเปกของกล้องมีดังนี้
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + PDAF (Sony IMX766)
- เลนส์ มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 119 องศา
- เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวิดีโอ 4K 30fps, FHD 30/60/120/480 fps, 720p 960 fps
ฟีเจอร์ของกล้อง realme 9 Pro+
แม้ว่าระบบปฏิบัติของ realme 9 Pro+ จะเปลี่ยนไปแต่ว่า การออกแบบเมนูกล้องยังคงเรียบง่ายเหมือนเดิม เพราะมี มีโหมดให้เลือกทั้ง ภาพกลางคืน, บุคคล, การถ่ายภาพปกติ เรียกได้ครบเครื่องเลย มาพร้อมกับโหมดโปรที่สามารถปรับรายละเอียดของภาพได้เช่นเดียวกัน และยังมีฟิลเตอร์ปรับได้ แต่ว่าถ้าเป็นโหมดบุคคลจะใช้การปรับแบบ AI เท่านั้น และมีโหมด สแกนบัตรประชาชน หรือ ID Card มาให้และทำงานได้ดี
ตัวอย่างภาพจาก realme 9 Pro+
ภาพกลางวัน / แสงปกติ
ภาพกลางคืน / แสงน้อย
รูปแบบภาพอื่นๆ
ลองถ่ายภาพจากกล้องหน้า realme 9 Pro+
สำหรับกล้องหน้าของ realme 9 Pro+ ก็ยังคงให้มุมกว้างกำลังดี และมีรูปรับแสง F/2.4 ทำให้ถ่ายภาพกลางคืนได้สวยอยู่และยังมี Filter ที่ละลายหลังสวยงามอย่างมากเลยครับ
แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ
สำหรับแบตเตอรี่ของ realme 9 Pro+ มีขนาด 4500 mAh ขนาดถือว่าไม่มากเท่าไหร่แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ถ้าคุณใช้งานเยอะ พบว่า สามารถเอาตัวรอดได้ ยิ่งใช้ดูหนังเยอะๆ สบาย แต่ว่าถ้าเล่นเกมเยอะอาจจะหมดไวไปหน่อย ทั้งนี้ยังไงก็ข้ามวันได้ประมาณหนึ่ง ส่วน PC Mark ทำได้อยู่ที่ 17:03 ชั่วโมง
ส่วนระบบการชาร์จไฟของเครื่องรุ่นนี้จะรองรับแบบ Super Dart กำลังสูงถึง 60W เลยครับ ทำให้สามารถชาร์จไฟถือว่าทำได้เร็วมาก ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เต็มแล้ว
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ที่ได้ทดลองใช้งาน realme 9 Pro+ รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นระยะเวลาสักพักหนึ่ง
หลังจากที่ทีมได้ทดลองใช้งานของ realme 9 Pro+ ถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ที่มีความน่าสนใจไม่เบาเลยครับ และมีจุดเด่นทั้งกล้องหลังตัวหลักสเปกท็อปและมีระบบกันสั่นที่ดีมากเพราะมี OIS ทำให้ภาพสั่นไหว อย่างไรก็ตาม ในราคาของเครื่องอยู่ที่ 12,999 บาท ถือว่าไม่แรงเท่าไหร่ และถือว่าเป็นจุดได้เปรียบของมือถือรุ่นนี้เลยครับ
อย่างไรก็ตามถ้ามองว่ามือถือที่ครบเครื่องกล้องโดดเด่นที่ไว้ใจได้ในงบนี้ realme 9 Pro+ รุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ
จุดเด่น
- มือถือสวยอุปกรณ์ในกล่องครบ
- ชาร์จไฟไวมาก
- เซนเซอร์กล้องระดับท็อปถ่ายภาพสวย
- ลำโพง Stereo บนล่าง
- เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ล้ำกว่าเพื่อน
- ราคาไม่แรงเท่าไหร่นะ
ข้อสังเกต
- วัสดุของเครื่องจะเป็นรอยได้ง่าย
- ยังไม่กันน้ำ
- ไม่สามารถเพิ่ม Memory ได้
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ