เรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ เมื่อต้องซื้อ "การ์ด" สำหรับอุปกรณ์ Android ของคุณเพิ่ม
Android เป็นระบบปฏิบัติการชั้นนำที่มีแอพในเครือข่ายรวมอยู่นับล้านภายใน Google Play Store หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของอุปกรณ์ Android (เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต โดรน กล้องติดรถยนต์ เครื่องเล่นเกมแบบพกพา) คือความสามารถในการติดตั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
ความสามารถในการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสามารถทำได้ง่าย ๆ แม้กับคนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค เพียงแค่เสียบการ์ด microSD หรือแฟลชไดร์ฟ USB ที่พอร์ตของอุปกรณ์ คุณก็มีพื้นที่เพิ่มพร้อมใช้งานได้ทันที ผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับแอพ วิดีโอ ภาพถ่าย ภาพยนตร์และเอกสาร สามารถจัดเก็บและเคลื่อนย้ายไฟล์ได้ง่าย ๆ ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแต่อย่างใด
หากคุณมีการ์ด SD หรือ microSD ที่เคยใช้มาก่อนหน้า คุณจะรู้ดีว่าตัวเลือกมีอยู่มากมายทั้งในด้านความจุ ประเภทและการใช้งาน แต่คุณจะทราบได้อย่างไรว่าควรเลือกซื้อตัวไหน ก่อนที่จะลงรายละเอียด เรามาพูดถึงข้อมูลทั่ว ๆ ไปกันก่อน
มองหาสัญลักษณ์ Class A1 หรือ Class A2 ที่ตัวการ์ด สัญลักษณ์เหล่านี้ใช้ระบุว่าการ์ดออกแบบมาสำหรับการใช้งานและจัดเก็บแอพ นี่เป็นเครื่องหมายกำกับที่ใช้ในมาตรฐานใหม่อย่าง Application Performance Class Specification ซึ่งออกแบบโดย SD Association โดยเฉพาะสำหรับการ์ด SD และ microSD ที่ต้องมีการทำงานอย่างหนักร่วมกับแอพพลิเคชั่นเช่นในอุปกรณ์ Android การ์ดเหล่านี้มีความเร็วที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์พกพา ทั้งเพื่อบันทึกข้อมูลมีเดียและเพื่อเรียกใช้แอพต่าง ๆ
คุณอาจสงสัยว่ามีข้อแตกต่างอะไรบ้างระหว่างการจัดเก็บวิดีโอ ข้อมูลเสียง ภาพถ่ายและการเรียกใช้งานแอพ การจัดเก็บข้อมูลเป็นกระบวนการเขียนข้อมูลตามลำดับที่ความเร็วต่อเนื่องที่ใกล้เคียงกัน ข้อมูลจะถูกรับเข้ามาที่ความเร็วคงที่ และจัดเก็บเข้ามาในพื้นที่รองรับตามปกติ ขณะเรียกใช้แอพ บิตข้อมูลจะถูกเขียนแบบสุ่มและจัดวางไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่สามารถเรียกใช้ได้ ดังนั้นจึงเรียกกระบวนการนี้ว่าเป็นการอ่าน/เขียนข้อมูลแบบสุ่ม
ทั้งการ์ด Class A1 และ A2 ล้วนเหมาะสำหรับผู้ใช้ Android เนื่องจากมีความเร็วในการเขียนแบบสุ่มที่เหมาะสมสำหรับใช้งานแอพ และยังมีความเร็วในการเขียนข้อมูลต่อเนื่องที่คงที่ที่ระดับอย่างน้อย 10MB/s
สิ่งแรกที่จะต้องทำในการเลือกเมมโมรี่การ์ด microSD สำหรับอุปกรณ์ Android คือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ดเป็นมาตรฐาน Class A1 หรือ Class A2 หากไม่เป็นไปตามนี้ ไม่แนะนำให้เลือกใช้
ในด้านความจุ การ์ด microSD สามารถรองรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้มากถึง 512GB ในกรณีนี้ ความจุที่มากกว่าไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญเสมอไป หากคุณทำหายหรือทำเสียหาย คุณอาจต้องสูญเสียไฟล์ข้อมูล เอกสารและข้อมูลสำคัญอื่น ๆ มากถึงครึ่งเทราไบต์! นับเป็นราคาที่แพงเพียงเพื่อแลกกับความสะดวกในการบรรจุทุกอย่างไว้ในการ์ดตัวเดียว
การ์ด microSD มีอยู่สองประเภทแตกต่างกันไปตามช่วงความจุ ได้แก่ Secure Digital High Capacity (SDHC) และ Secure Digital Extended Capacity (SDXC). SDHC จะมีช่วงความจุระหว่าง 2GB - 32GB, SDXC จะอยู่ที่ 32GB - 512TB การ์ดขนาด 32GB สามารถเก็บภาพ 18MP ได้มากถึง 5,300 ภาพหรือบันทึกวิดีโอ 720p 30fps ได้เกือบ 3 ชั่วโมง
การ์ด microSD (และ SD แบบมาตรฐาน) รองรับความเร็วในการทำงานต่าง ๆ กัน โดยการ์ดส่วนใหญ่จะมีระบุรายละเอียดทางเทคนิคไว้ ทางเลือกของคุณจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น การ์ด U1 หรือ U3 จะใช้งานได้ดีสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไปและในการจัดเก็บข้อมูลแอพ แต่หากคุณต้องการถ่ายวิดีโอ 4K แนะนำให้ยกระดับเป็น U3/V30, V60 หรือ V90 จะดีกว่า
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกใช้การ์ด microSD แต่อีกทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลก็ยังมีแฟลชไดร์ฟ USB อุปกรณ์ Android ส่วนใหญ่จะมีพอร์ต microUSB หรือ USB-C® ให้เลือกใช้ ขณะเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ คุณจะต้องแน่ใจว่าหัวต่อตัวผู้ของคุณสามารถเสียบต่อเข้ากับพอร์ตของคุณได้ หากคุณต้องการแค่เสียบต่อแฟลชไดร์ฟเข้ากับสมาร์ทโฟน หัวต่อเพียงช่องเดียวก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม มีแฟลชไดร์ฟเป็นจำนวนมากที่มีหัวต่อคู่แบบ USB-A ด้านหนึ่งเพื่อให้สามารถเสียบต่อแฟลชไดร์ฟเข้ากับโน้ตบุ๊กหรือ PC ของคุณได้อย่างสะดวก
การ์ด microSD มีขนาดกะทัดรัดและสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแค่เสียบการ์ดเข้ากับอุปกรณ์ของคุณก็เสร็จเรียบร้อย แฟลชไดร์ฟ USB เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่แยกต่างหากจากตัวอุปกรณ์ของคุณ ดังนั้นหากอุปกรณ์ของคุณเสียหายหรือสูญหาย ข้อมูลของคุณก็ยังถูกสำรองไว้อย่างปลอดภัย
สื่อบันทึกข้อมูลต่อพ่วงคือหนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของการใช้อุปกรณ์ Android (ซึ่งผู้ใช้ Android ทุกคนรู้ดี!) แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อสื่อบันทึกข้อมูลแบบใด สิ่งสำคัญคือคุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ Android ของคุณรองรับสื่อบันทึกข้อมูลดังกล่าว