รีวิว POCO X4 Pro 5G การกลับมาของมือถือสุดคุ้มที่ครบทั้งแบตฯ อึด กล้อง 108 ล้านพิกเซล
กลับมาพบรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง ในรอบนี้ทีมได้รับมือถือใหม่ล่าสุดจาก POCO ออกมา โดยในงาน MWC2022 ที่ผ่านมาจะมีทั้งหมด 2 รุ่นที่เปิดตัว แต่สำหรับรอบนี้ทีมได้รับ POCO X4 Pro มาทดลองใช้งานกับ ในงบหมื่นต้นกับความสามารถที่เรียกว่าปังได้อีก มันจะโดดเด่นจนต้องมองแค่ไหน รับชมกันเลย
รายละเอียดสเปกของ POCO X4 Pro
- หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล WFHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว Refresh Rate 120 Hz
- ขนาดตัวเครื่อง2 x 76.1 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก205 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G
- กราฟิก : Adreno 619
- หน่วยความจำRAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ256GB
- หน่วยความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.1, 5G / 4G
- ลำโพง เป็นแบบ Stereo ทั้งบนและล่าง
- การรองรับซิมการ์ด : Nano SIM 2 ช่อง + MicroSD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด108 ล้านพิกเซล + PDAF, EIS
- เลนส์ มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 119 องศา
- เลนส์ Macroความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- LED Flash
- ถ่ายวิดีโอ FHD 30/60 FPS
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ: IP53
- ระบบปลดล็อคสแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือ ด้านข้าง
- ช่องเสียบ USB-C, ช่องเสียบหูฟัง5 มิลลิเมตร
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟFast Charge 67W (ติดมาให้ในกล่อง)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการAndroid 11 ครอบทับด้วย MIUI 13
- สี Laser Black, Laser Blue, Poco Yellow
แกะกล่อง POCO X4 Pro ประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง POCO X4 Pro
- เคสใส
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
- Adapter ชาร์จไฟกำลัง 67W
- สาย USB-C
- คู่มือการใช้งาน
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ POCO X4 Pro
เริ่มต้นกับดีไซน์นด้านหน้าที่พูดได้คำเดียวว่า จอใหญ่มากกับขนาดอยู่ที่ 6.67 นิ้วใช้ Panel แบบ AMOLED รองรับ Refresh Rate 120Hz ความสว่างสูงสุด 1,200 nits เลยทีเดียว
ส่วนบนมีทั้งลำโพงสนทนา, การแสดงผลแจ้งเตือน, กล้องหน้า ส่วนนี้ไม่สามารถปิดการแสดงผลให้เป็นสีดำได้
ส่วนล่าง จะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- ปุ่ม
- การปัดด้วยท่าทาง
- นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย
รอบตัวเครื่องจะสังเกตว่าขอบตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดและมีความหนาใช้ได้ประมาณหนึ่งเลยครับ ฝั่งซ้ายไม่มีช่องเสียบอะไรทั้งสิ้น
ฝั่งขวามือ ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่ม Power ไว้สำหรับเปิด หรือสำหรับพักเครื่อง และมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้
ส่วนบนจะมีลำโพงตัวที่ 2 พร้อมกับ IR Blaster สำหรับสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าและมีไมโครโฟน, ช่องเสียบหูฟัง และลำโพงขนาดใหญ่เมื่อมองไปแล้วต้องให้คุณภาพเสียงที่ดีแน่นอน
ใต้เครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C, ไมโครโฟน, และ ลำโพงตัวเครื่องมาให้ ที่สำคัญคือช่องใส่ซิมการ์ดและ MicroSD จะอยู่ที่ด้านล่าง โดยการใส่ซิมของมือถือรุ่นนี้ด้านบนจะเป็น Nano SIM แต่ด้านล่างสามารถสลับได้ระหว่าง MicroSD และ NanoSIM อย่างใดอย่างหนึ่ง
พลิกมาด้านหลังกับการต้ดลวดลายที่สวยงามของสี Laser Black ทำให้ด้านหลังมีลูกเล่นการเล่นแสงที่สวยงาม และมีการแขกโซนกล้องที่ชัดเจน โดยติดกับคำว่า POCO มือถือรุ่นนี้ยังมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวพร้อมกับ LED Flash และมีการแปะคำว่ากล้องมี AI ช่วยคิดในเรื่องการถ่ายภาพด้วย
มาตรฐานกันน้ำของ POCO X4 Pro
แม้ว่าในสเปกของเครื่องจะไม่ได้บอกว่ามือถือรุ่นนี้กันน้ำในระดับมาตรฐาน IP อะไร แต่หากคิดไปแล้ว POCO คงออกแบบให้มือถือกันน้ำในระดับ IP53 คือกันน้ำกระเด็นและกันฝุ่นได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
น้ำหนักของเครื่อง / การถือของเครื่อง
ตัวเครื่องรุ่นนี้มีน้ำหนัก 205 กรัมไม่รวมเคส หากรวมเคสก็จะเพิ่มไม่กี่กรัม ก็ทำให้น้ำหนักของเครื่องอยู่ระดับที่รับได้และสามารถถือใช้งานได้คล่องตัว และยังมี 3 สีให้เลือกทั้ง POCO Yellow, Laser Blue และ Laser Black คือสีที่เราได้ทดลองใช้งานกัน
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงของเครื่อง
สำหรับหน้าจอของมือถือรุ่นนี้ด้วยความที่แสดงผลเป็นแบบ AMOLED ให้สีสันคมชัดอย่างมากเลยครับ และมาพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ทำให้การแสดงผลในการรับชมภาพยนตร์และการแสดงผลที่เป็นรายละเอียดยังคงทำได้ดี
ส่วนระบบเสียงนั้นรองรับการแสดงผลทั้งด้านบนและล่าง ให้เสียงที่ดังเพราะช่องลำโพงใหญ่ขึ้น สามารถปรับแต่งระบบเสียงได้ด้วยครับทำให้คุณภาพในการรับฟังเสียงทำได้ดี นอจกากยนี้ยังมี ช่องเสียบหูฟังรองรับ FM Radio ด้วยครับ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย
POCO X4 Pro ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 อยู่แต่ครอบด้วย MIUI 13 ใหม่ล่าสุด โดยมีการเรียกเวอร์ชั่นนี้ว่า POCO Edition ข้อสังเกตที่แตกต่างจาก MIUI ทั่วไปคือจะมี Apps Dower จุดเด่นคือในเวอร์ชั่นนี้จะมีน้ำหนักเบากว่าและทำให้โหมดได้เร็วมากขึ้น เพราะโปรแกรมรบกวนน้อยลงกว่าเดิม
และยังสามารถแบ่ง Multi Tasking หรือการทำหน้าจอ 2 หน้าจอได้ดีเหมือนเดิม โดยการกดปุ่ม Recent แล้วกดที่ Apps ที่เราต้องการค้างไว้แล้วเลือก ส่วนแยกหน้าจอได้ทันที
ลูกเล่นทั่วไปที่ติดตั้งถือว่าครบ เน้นเรื่องของการใช้งานจริงเช่น เครื่องอัดเสียง, เครื่องอัดภาพหน้าจอ, Mi Remote ไว้สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องคิดเลข และ Application ของ Google หากไม่พอ สามารถดาวน์โหลดเพิ่มด้วย Google Play Store
ระบบความปลอดภัยของเครื่อง รุ่นนี้มีให้เลือกใช้แค่ระบบสแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power ทางด้านข้างขวา
ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม POCO X4 Pro
คะแนนประสิทธิภาพ AnTuTu V 9.3.2 = 343,447 คะแนน
คะแนนประสิทธิภาพของ Geekbench 5 = 687 คะแนน (Single Core) | 2050 คะแนน (Multi Core)
คะแนนผลการทดสอบ 3DMark
การทดสอบการสัมผัสหน้าจอทำได้ 10 จุด
จากประสิทธิภาพที่เห็นถือว่าเป็นมือถือระดับกลางไม่ได้แรงมากแต่คะแนนก็ไว้ใจได้อยู่ครับ และเมื่อทดลองเล่นเกมตั้งแต่การแข่งรถใน Apshalt9 Legend, PUBG และ Genshin Impact ถือว่าทำได้ดีอยู่แต่จะ Refresh Rate จะอยู่ที่ 30 – 50 Hz เท่านั้น
ในการเล่นเกมของมือถือรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบของ Game Turbo ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์จัดการความจำ, ปรับประสิทธิภาพ CPU, การบันทึกหน้าจอ, ปิดการแจ้งเตือน เป็นต้น เรียกได้ว่าฟีเจอร์ในส่วนนี้ถือว่าลงตัวครับ
การเชื่อมต่อ / ทดลองใชระบบนำทาง
อีกจุดเด่นของ POCO X4 Pro เลยครับเพราะมือถือรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi 5 (AC), Bluetooth 5.1, GPS/A-GPS และ 5G ใช้ได้ทุกเครือข่ายในเมืองไทยเลยครับ จุดนี้มีข้อสังเกตสำหรับคนที่ต้องนำมือถือรุ่นนี้มาใช้งานทั้งกล้องและระบบนำทาง อย่าลืมอัปเดต Firmware เป็นรุ่นล่าสุดเพราะตัวแรกมันจะมีปัญหากล้องตัดสัญญาณการบอกพิกัดได้เองครับ
เปิดกล้องลองถ่ายภาพ
สำหรับกล้องของ POCO X4 Pro รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะมีสเปกดังนี้
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล + PDAF, EIS
- เลนส์ มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 119 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- LED Flash
- ถ่ายวิดีโอ FHD 30/60 FPS
ฟีเจอร์กล้องของ POCO X4 Pro
หน้าตาเมนูกล้องยังไม่เหมือนกับ Xiaomi และ POCO ทั่วไป แต่ลูกเล่นของกล้องที่มาครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น โหมด โปรที่สามารถตั้งให้บันทึกเป็นแบบ RAW File และยังมีฟิลเตอร์เยอะมาก ลูกเล่นต่างๆ มีให้ครบและยังถ่ายภาพแบบโคลนได้และมีกล้องคู่ มาให้ด้วย รวมถึงการถ่ายภาพนิ่งในแบบ 108 ล้านพิกเซลได้ด้วย ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นจะรองรับความละเอียดสูงสุด 1080P เท่านั้นและยังรองรับ Timelapse และ Slowmotion ได้ด้วยครับ
ตัวอย่างภาพจาก POCO X4 Pro
ภาพแสงปกติ / กลางวัน
ภาพแสงน้อย / กลางคืน
ภาพรูปแบบอื่นๆ
กล้องหน้าของ POCO X4 Pro
ส่วนสเปกกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p แบบ 30 FPS ปรับฟีเจอร์ละลายหลัง, ฟีลเตอร์และรูปแบบต่างๆ ได้ครบจนเรียกได้ว่าเน้นกล้องอยู่บ้าง
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
ขนาดของแบตเตอรี่ในตัว POCO X4 Pro อยู่ที่ 5000 mAh เรียกได้ว่าใหญ่กำลังดีกับมือถือยุคนี้ และเมื่อใช้งานจริงมาประกบกับขุมพลัง Snapdragon 695 พบได้ทันทีว่า อึดและอยู่รอดทั้งวัน ทั้งนี้ทีมได้ทดสอบกับ PCMark โปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพ พบว่าทำได้อยู่ที่ 20:42 ชั่วโมง
ส่วนระบบชาร์จไฟของมือถือรุ่นนี้อัปเกรดขึ้นเป็น 67W และให้มาในกล่องเลยครับ ทำให้เวลาชาร์จไฟทำได้รวดเร็วมากพอสมควร และทันใจเวลาที่คุณจำเป็นต้องการใช้งานแบบเร่งด่วน
สรุปหลังใช้งาน POCO X4 Pro 5G มาสักระยะเวลาหนึ่ง
จัดว่าเป็นมือถือระดับกลางที่มาพร้อมกับในเรื่องของการออกแบบเครื่องที่แม้ว่าจะหนาขึ้นเล็กน้อย, สเปกของเครื่องที่มาแบบครบครันทั้งหน้าจอ AMOLED แบบ DotDisplay ลำโพงคู่ และคุ้มค่าไม่น้อยเลยครับจนเรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่นที่ผมว่าคุ้มค่าเหมือนเดิม แถมยังรองรับ 5G ด้วย
สำหรับมือถือรุ่นนี้มีราคาอยู่ที่ 10,990 บาท แม้จะแพงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ แต่ว่าก็จะมีโปรโมชั่นอยู่ทั้งนี้ใครต้องการมือถือรุ่นใหม่ที่เน้นเรื่องสเปกไว้ใจได้เล่นเกมได้ กล้องโดดเด่นและชาร์จไฟเร็วแซงทางโค้ง นี่เป็นอีกทางเลือกที่โดดเด่นอยู่นะครับ
จุดเด่น
- ตัวเครื่องน้ำหนักสมดุลถือว่าได้ดี
- สเปกเครื่องใหม่และรองรับ 5G
- กล้องหลังความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ถือว่าละเอียดมาก
- ได้รับ MIUI 13 ใหม่ล่าสุด
- ระบบความปลอดภัย, ลูกเล่นมาครบครัน
- สีสันสวยแม้จะเป็นสีดำ
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนา
- เคสจะมีที่ปิดช่องเสียบ USB-C จะดึงยากเมื่อต้องดึงใช้งาน
- ยังวางจำหน่ายแค่ช่องทางเดียวคือ JD Central
อัลบั้มภาพ 36 ภาพ