กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้งรอบนี้ใครมองหาคอมพิวเตอร์น้ำหนักไม่มากนัก แต่ว่าศักยภาพต้องเรียกได้ว่าจัดเต็ม ต่อเสริมได้ไม่เป็นไร ขอแนะนำ ROG Flow Z13 รุ่นใหม่ล่าสุด มารับขมกันว่าคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ (ไม่สิ) Tablet บ้าพลังตัวนี้มันจะเป็นอย่างไร

รายละเอียดสเปกของ ROG Flow Z13 (GZ301ZE-LD035WS)

หน้าจอแสดงผลขนาด 13.4 นิ้ว IPS-LCD ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 พร้อมกับความสว่าง 400 nits รองรับค่า Refresh Rate 120Hz, Adaptive-Sync MUX Switch + Optimus Touch Screen รองรับปากกา Stylus
ขนาด : 30.2 x 20.4 x 1.20 ~ 1.20 เซนติเมตร
หนัก : 1.18 กิโลกรัม (รวม Keyboard แล้ว)
ชิปเซ็ตประมวลผล : 12th Gen Intel® Core™ i9-12900H Processor 2.5 GHz (24M Cache, up to 5.0 GHz, 14 cores: 6 P-cores and 8 E-cores)
ชิปประมวลผลกราฟิก : NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 Ti Laptop GPU
ROG Boost: 1085MHz* at 40W (1035MHz Boost Clock+50MHz OC, 35W+5W Dynamic Boost)4GB GDDR6
RAM : แบบ DDR4 16GB OnBoard แบ่งออกเป็น RAM 8GB ทั้งหมด 2 Slot
ความจุ : 1TB M.2 2230 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
กล้องหน้า : HD Camera
ตัวเชื่อมต่อ (Port)
- 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- 1x Thunderbolt™ 4 support DisplayPort™ / power delivery
- 1x ROG XG Mobile Interface
- 1x USB 2.0 Type-A
- 1x card reader (microSD) (UHS-II)
- 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™ / power delivery / G-SYNC

ลักษณะ Keyboard : Backlit Chiclet Keyboard RGB พร้อม Touchpad สามารถ ถอดได้
กล้องหน้า HD Webcam 720P
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล Auto Focus
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 AX (Wi-Fi 6E) + Bluetooth 5.2 Dual Band
ลำโพง : 2 จุดพร้อมกับ Smart AMP, Dolby ATMOS, รองรับ Hi-Res Audio
ไมโครโฟน : 3 ตัว + AI Noise Cancellation
ระบบปฏิบัติการ : Windows 11 Pro
แบตเตอรี่ขนาด 65 Wh (4 Cell) ที่ชาร์จแบบ 100W DC-IN รองรับการชาร์จไฟแบบ Power Delivery (PD) สามารถใช้ที่ชาร์จกำลัง ตัวอื่นได้แต่ว่าอาจจะชาร์จไฟช้าและไม่เต็ม
สีเครื่อง ดำ

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ ROG Flow Z13

เริ่มต้นกับรูปทรงจะเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมกับลวดลายของ Keyboard ด้านหลังที่บอกถึงความเป็น ROG Flow Z13 และเป็นแบบอัลคันทรา ที่ดูดีไม่น้อยเลย แต่อย่าโดนน้ำนะครับ ส่วนของ Keyboard สามารถถอดได้นะ

ROG Flow Z13

รอบตัวเครื่องออกแบบให้เป็นช่องระบายอากาศที่ดีมากมายเลยครับ ส่วนบนจะมีช่องระบายอากาศพร้อมกับคำว่า Republic Of Games

ROG Flow Z13

ฝั่งตรงข้ามของด้านนี้เป็นที่อยู่ของช่องการวาง Keyboard

ROG Flow Z13

ฝั่งซ้ายมีช่องเสียบ USB-C สำหรับเสียบอุปกรณ์และชาร์จไฟ, ROG XG Mobile Interface และส่วนล่าสุดมีลำโพงฝั่งซ้าย

ROG Flow Z13

ฝั่งขวามีปุ่ม Power, ปุ่มปรับระดับเสียง, ช่องเสียบ USB-A, ลำโพงฝั่งขวา

ROG Flow Z13

ด้านหลังมีการเว้นส่วนด้านหลังให้เห็นชิปภายในพร้อมกับฝาที่สามารถทำให้เครื่องตั้งอยู่ได้ โดยมีขนาดของฝาไม่ได้ใหญ่มากมายนักและยังสามารปรับได้หลายองศา สามารถเอียงได้สูงสุด 178 องศากันเลยทีเดียว ภายในจะสามารถใส่ microSD Card ได้อีก 1 ช่อง

ROG Flow Z13

เมื่อเปิดฝาออกมา

เมื่อเปิดฝาของ Keyboard ออกมาพบว่าหน้าจอมีอัตราส่วน 16:10 เมื่อเทียบกับ Surface Pro ทั้งหลายตัวนี้จะกว้างกว่าแบบชัดเจนเลยครับ และหน้าจอของ ROG Flow Z13 ใหม่นี้ ให้สีสันคมชัดไม่แพ้กลุ่มจอ AMOLED เลยครับ แต่บอกก่อนว่าคุณสามารถพกคอมพิวเตอร์นี้โดยไม่มี Keyboard แค่ดึง Keyboard ออกแล้วเก็บไว้ที่บ้านได้ทันที หรือถอดไว้ในกระเป๋า เมื่อไม่จำเป็นจะต้องใช้งานก็ได้ครับ

Keyboard ของ ROG Flow Z13

ROG Flow Z13

หน้าตาของ Keyboard ที่เห็นยังคงเป็นแบบ Chiclet แบ่งแยกออกชัดเจน ปริมาณปุ่มถือว่าพอเหมาะและขนาดของปุ่มที่ใหญ่กำลังดีทำให้การพิมพ์และกดถือว่าทำได้ แต่ว่าถ้านำมาเล่นเกมแนะนำว่า ถ้าอยู่เป็นที่ ถอดออก แล้วเอา Keyboard แบบ mechanical มาใช้แทนดีกว่า และยังสามารถเปลี่ยนสีได้ผ่าน Armoury Crate Touch Pad ทำงานไวและกดใช้งานได้อย่างดีแต่ไม่มีลูกเล่นอะไรสักเท่าไหร่

น้ำหนัก / การพกพา

ROG Flow Z13

ต้องยอมรับว่าคอมพิวเตอร์รุ่นนี้เป็นแบบ Tablet ทำให้นักหนักของคอมพิวเตอร์รุ่นนี้พอๆ กับ Ultrabook ทำให้มีควสามคล่องตัวพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับ Tablet ทั่วไป = หนัก!!! นิดนึง

เปิดเครื่องลองประสิทธิภาพของ ROG Flow Z13

ROG Flow Z13

จากคะแนนประสิทธิภาพที่ออกมาถือว่าสมกับการเป็น Tablet สายเกม แค่ประสิทธิภาพแบบไม่ต่อกับ ROG XG Mobile Interface ยังทำได้ดี ลองคิดดูว่าถ้าต่อแล้วจะแรงขนาดไหน

ทางด้านระบบระบายความร้อน เมื่อเป็น Tablet ที่ดูบางเฉียบแต่ก็ทำได้ดีเท่ากับ Gaming Notebook ในค่ายก็จะมีชิ้นส่วนมากมายไม่ว่าจะเป็น

ROG Flow Z13

MUX-Switch ระบบควบคุมการทำงานของกราฟิก สลับโหมดเบาและหนักเมื่อเครื่องเห็นสมควร หรือเราจะกดเองก็ได้
มีการใช้สาร Liquid Metal ช่วยลดความร้อนได้ 15 องศา
ติดตั้ง Vapor Chamber ครอบทั้ง RAM, CPU, GPU ทำให้ลดความร้อนในการทำงานได้ดี
พัดลม Arc Flow Fans บางเฉียบทำให้การทำงานในโหมด Silent เงียบลงถึง 0 เดซิเบล
การออกแบบให้ช่องระบายความร้อนไหลลื่นไม่ติดขัด
พร้อมกับโหมดทำงานทั้ง Performance, Turbo, Sient ปรับได้ผ่าน Armoury Crate

การแสดงผลภาพและเสียง

การแสดงผลภาพหน้าจอแม้ว่าจะเป็นแบบ IPS LCD แต่ก็ให้การแสดงผลที่คมชัดสีสันแม่นและยังรองรับการสัมผัสหน้าจอทำ ก็ทำให้การเล่นเกมหลายเกมรองรับการแตะสัมผัสไปด้วย และยังรองรับการใช้ Stylus Pen เช่นเดียวกัน

ROG Flow Z13

ส่วนระบบเสียงมาพร้อมกับระบบเสียง Dolby ATMOS การที่มีฟีเจอร์ Smart AMP ทำให้เสียงที่ออกมานั้นทำได้มีมิติมากขึ้นแต่ต้องเข้าใจว่าพื้นฐานของตัวนี้คือ Tablet ครับ

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย

ROG Flow Z13 มาพร้อมกับ Windows 11 Home Edition มาพร้อมกับ Wallpaper ของ ROG ที่สามารถดาวน์โหลดและปรับแต่งได้ลงตัว

Armony Crate 5.0 โปรแกรมควบคุมประสิทธิภาพของเครื่องที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติมากมายเช่น

ROG Flow Z13

Game Virsual เพิ่มประสิทธิภาพและทำให้เกมที่คุรเลือกเล่นว่าจะมีระบบการจัดการภาพแบบไหนและความเร็วการตอบ เป็นอย่างไร รอบนี้เปลี่ยนเป็นแบบวัดความเร็ว
Aura Creator ปรับแต่งสีไฟได้ตามใจ
Scenario Profiles เลือก Profile ของเครื่องได้และทำงานแบบ Realtime เช่นการเปลี่ยน ระหว่างโหมดเงียบ (Silent Mode), โหมดประสิทธิภาพสูง (Performance Mode) กับโหมดเทอร์โบ (Turbo Mode)
รองรับการเชื่อมต่อผ่านมือถือ Android / iOS ผ่าน Apps Armony Crate

นอกจากฟีเจอร์ที่ออกแบบคล้ายกับ ROG และ TUF มาแล้วสิ่งที่แตกต่างกันแบบชัดเจนคือรุ่นนี้จะมีฟีเจอร์ Aura Sync สามารถปรับการแสดงผลของหูฟัง และ Mouse โยดมีการกดปุ่มและตั้งค่าปุ่ม Per-Key RGB มาด้วย แต่ว่ารุ่นที่ได้มาทดลองนั้นจะทำได้ค่าเชื่อมต่อเมาส์และ หูฟังและกำหนดไฟได้ทั้งหมด 4 Zone Keyboard, โลโก้และฐานล่างเท่านั้น

ROG Flow Z13

My ASUS โปรแกรมตรวจสอบสถานะของเครื่องว่าใช้งานเป็นอย่างไรและมีปัญหาหรือไม่และยังมีฟีเจอร์มากมายเช่น

การตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นของเครื่อง รวมถึงการขึ้น Blue Screen
อัปเดต Software ภายในเครื่อง
AppDeal สำหรับคนที่อยากได้ของถูกและเสียตังค์น้อย ASUS ก็จัดมาให้
ติดต่อกับ Call Center ผ่านเครื่องได้
โปรแกรมจัดการแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน หรือต้องการถนอมแบตเตอรี่
Link to MyASUS เชื่อมต่อกับมือถือได้แบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นการแชร์หน้าจอ, File, แชร์หน้าจอ เป็นต้น

แต่ระบบความปลอดภัยยังเป็นการใช้ Pin ของ Windows เหมือนเดิม

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ

MUX Switch OFFMUX Switch On

แบตเตอรี่ของ ROG Flow Z13 จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 56mWh แม้จะไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายนัก แต่ก็สามารถใช้งานได้ทั้งวัน เพียงแต่ว่าถ้าเล่นเกมนั้น อาจจะไม่ได้ยาวอย่างที่คิด

ROG Flow Z13

ส่วนการชาร์จไฟรองรับแบบ USB-C (Power Delivery) กำลังสูงสุด 100W ที่ติดมากับกล่องทำให้ใช้งานได้ลงตัว เพียงแต่ ถ้าไม่สะดวกพก สามารถนำที่ชาร์จไฟอื่นๆ ไปใช้งานได้ แต่ว่าความเร็วนั้นต้องทำใจไม่ได้เร็วอย่างที่คิดนะ

สรุปหลังได้ลองใช้ ROG Flow Z13 มาสักระยะเวลาหนึ่ง

ROG Flow Z13

เรียกได้ว่าเป็น Tablet ที่พกพาสะดวก ติดตั้งเกมได้ เวลาเสียบจ่ายพลังงานจะเล่นเกมโหด ๆ ก็สามารถทำได้ ถ้าเสียบ ROG XG Mobile ก็เหมือนกับการยกเครื่อง Gaming ชั้นดีติดตามเราไปทุกที่เลยครับ แม้จะหนักกว่า Tablet ธรรมดาเพราะต้องจัดการระบบระบายความร้อนด้วยส่วนหนึ่ง

สำหรับราคาของ ROG Flow Z13 จะมี 2 สเปกให้เลือกได้แก่

ROG Flow Z13 (2022) GZ301ZC-LD052WS ขุมพลัง Intel Core i7 ยังไม่เปิดเผยราคา
ROG Flow Z13 (2022) GZ301ZE-LD035WS ขุมพลัง Intel Core i9 = 69,990 บาท

สรุปสั้นๆ ปิดบทความว่าถ้าคุณต้องการคอมพิวเตอร์บ้าพลังแต่รูปร่างต้องพกพาถือง่าย นี่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่พูดเลยว่าอย่าพลาดเลยครับ มันดีจริงๆ นะ

จุดเด่น

ประสิทธิภาพถือว่าแรงใช้ได้
ขนาดเครื่องพกพาสะดวก
ลูกเล่นตัวเครื่องถือว่าเยอะมาก
ได้ Windows 11 มาตั้งแต่เปิดกล่อง
ชาร์จไฟสะดวกด้วย USB-C

ข้อสังเกต

น้ำหนักมากกว่า Tablet ทั่วไป
Keyboard ไม่สามารถกำหนดไฟเป็นโซนได้ เพราะข้อจำกัดของการขจัดวาง
ไม่รองรับที่ชาร์จไฟกำลังต่ำกว่า 90W

อัลบั้มภาพ รีวิว ROG Flow Z13 ครั้งแรกของขุมพลัง Intel Core i9 12 Gen กับ Tablet ร่างบางเบา ภาพที่ 5 / 26

รีวิว ROG Flow Z13 ครั้งแรกของขุมพลัง Intel Core i9 12 Gen กับ Tablet ร่างบางเบา

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

หลุด Huawei Mate70 Pro+ ตัวท๊อปรุ่นใหม่ซีอีโอขาประจำ

ระวัง! 6 สัญญาณเตือนภัยจาก Tinder ช่วยคุณเดทออนไลน์อย่างปลอดภัย

ใหม่! Facebook Messenger อัปเดตวีดีโอคอล HD,พื้นหลัง AI และอื่นๆ

Samsung กำลังปล่อยอัปเดต One UI 6 (Wear OS 5) ให้กับ Galaxy Watch รุ่นเก่า!