สัมผัสแรก Huawei Super Device เทคโนโลยีเชื่อมต่ออัจฉริยะใหม่ล่าสุดจาก Huawei
ภายในงาน MWC 2022 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานมานี้ Huawei เองไม่ได้เปิดตัว Gadget อะไรใหม่สักเท่าไหร่ แต่ว่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่าก็คือเรื่องขงอการโชว์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ใน Eco System ที่มีชื่อว่า Huawei Super Device เรียกได้ว่าปฏิวัติการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลายเข้ามาได้ง่าย โดยให้อุปกรณ์อย่าง Notebook, มือถือ หรือ Tablet เป็นศูนย์กลาง
หลักการทำงานของ Huawei Super Device
สำหรับคนที่สงสัยในเรื่องของการทำงาน Huawei Super Device นั้นขอให้นึกถึงภายของ One Hop และ Multi-screen Collaboration ที่เกิดขึ้นในปี 2018 – 2020 ที่ผ่านมา แต่สำหรับ Huawei Super Device นั้นจะเป็นหน้าจอที่มีอุปกรณ์เป็นศูนย์กลาง
โดยคุณจะกำหนดให้ Notebook, Tablet หรือ มือถือ เป็นศูนย์กลางก็ได้ ตัวอย่างที่ยกขึ้นมาคือ Huawei Matebook D Series ในรุ่นปี 2022 รุ่นใหม่ล่าสุด จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีแล้ว (แต่รุ่นอื่นสามารถอัปเกรด Huawei PC Manager ก็สามารถใช้งานได้)
เมื่อมีการเข้า Super Device จะมี อุปกรณ์หลักเป็นศูนย์กลาง แต่มีอุปกรณ์อื่นเช่นมือถือ สามารถลากเข้าวงเพื่อเชื่อมต่อแสดงผลหน้าจอมือถือ หรือจะจัดเก็บ File ในรูปแบบของ Flash Drive ก็ได้, Huawei MatePad สามารถเชื่อมต่องการทำงานที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม และ Huawei MateView / Huawei Vision S สามารถต่อเชื่อมกับ Huawei MateBook ได้ทันที
แต่ถ้าเป็นกรณีของมือถือเราสามารถวางในช่อง NFC (One-Hop) ก็สามารถต่อเชื่อมได้ทันที ถ้าเป็น Huawei P50 Pro จะแสดงผลหน้าจอที่เป็น Desktop Mode ได้
ส่วนอุปกรณ์ AIoT ที่เคยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อยู่แล้ว จะแสดงผลใน Huawei Super Device เช่นเดียวงกัน แต่ถ้าไม่เคยเชื่อมต่อ จะแสดงผลเป็นแบบ Pop Paring แสดงผลขนาดใหญ่พร้อมให้กดเชื่อมต่อทันที
เงื่อนไขที่ควรรู้ก่อนใช้งาน
เงื่อนไขของการทำงานนี้นอกจากอุปกรณ์กลุ่ม AIoT ที่จะรองรับแล้วแล้วจะมีอีกเรื่องที่ต้องทำคืออุปกรณ์ทั้งหมดต้องลงทะเบียนในชื่อ Huawei Account เดียวกันด้วย และการเชื่อมต่อยังต้องอยู่ในวง Wi-Fi เดียวกัน และขยายความสักหน่อย ที่บอกว่าวงเดียวกันนั้นต้องต่อเชื่อมในชื่อเดียวกันเช่น test1234.2.4G ต่อกับ Huawei MatePad ถ้าจะให้ Huawei MateBook ใช้ฟีเจอร์นี้ได้ต้องต่อ Wi-Fi ชื่อ test1234.2.4G เช่นเดียวกัน
และระบบปฏิบัติการที่รองรับเพิ่มเติมคือ Huawei MatePad จะต้องเป็น Harmony OS 2.0, มือถือ Huawei จะรองรับกับ EMUI 12 ขึ้นไป ส่วน Huawei MateBook ต้องอัปเดต PC Manager เวอร์ชั่นล่าสุด เท่านั้น
นอกจากนี้ ทางด้านคุณแชมป์-สหศักดิ์ เตชะธรรมจิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ข้อมูลว่าในการที่ Huawei ทำเทคโนโลยี Super Device เพื่อต้องการให้เกิดการเชื่อมต่อที่ง่ายและเกิดความเป็นมิตรกับผู้ใช้งานได้มากขึ้น
และในอนาคตอันใกล้ คาดว่าจะขยายรองรับกับอุปกรณ์อื่นๆ มากขึ้นเช่นเดียวกับที่ MeeTime ที่ต้องนี้ให้บริการกับอุปกรณ์ในฝั่ง Android ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารได้กว้างขวางมากขึ้น
สำหรับใครที่อยากทดลองใช้งานสามารถพบของจริงได้ที่ Huawei Experience Store ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนการรีวิวเจาะลึกของเทคโนโลยีพบกันได้เร็วๆ นี้
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ