รีวิว Microsoft Surface Pro 8 Tablet ที่ใหญ่ขึ้นและดูดี กับสเปกที่มาครบเครื่องกว่าเดิม

รีวิว Microsoft Surface Pro 8 Tablet ที่ใหญ่ขึ้นและดูดี กับสเปกที่มาครบเครื่องกว่าเดิม

รีวิว Microsoft Surface Pro 8 Tablet ที่ใหญ่ขึ้นและดูดี กับสเปกที่มาครบเครื่องกว่าเดิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้งในรอบนี้พบกับ Gadget ใหม่ล่าสุดอย่าง Microsoft Surface Pro 8 ถือว่าเป็นตัวท็อปและมีสเปกดี แถมได้ใช้ Windows 11 แล้ว กับเทคโนโลยี Intel EVO Platform มันดีแค่ไหนเรามารับชมกันเลยครับ

รายละเอียดของ Microsoft Surface Pro 8

  • หน้าจอแสดงผล PixelSense ขนาด 13 นิ้วความละเอียด 2880 × 1920 พิกเซล รองรับ Touch Screen อัตราส่วน 3:2 Refresh Rate 120Hz
  • ขนาด : กว้าง 287 x ยาว 208 x หนา 9.3 มิลลิเมตร  
  • หนัก : 891 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล : Intel Core i7 1185 G7
  • ชิปประมวลผลกราฟิก : Intel Iris Xe 
  • RAM : 16GB LPDDR4x Dual Channel
  • ความจุ(SSD) : 512GB เป็นแบบสามารถถอดได้
  • กล้องหน้า : HD Camera
  • ตัวเชื่อมต่อ (Port)
    • พอร์ต USB-C® 2 ช่อง พร้อม USB 4.0/Thunderbolt™ 4
    • แจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
    • พอร์ต Surface Connect 1 ช่อง
    • พอร์ต Surface Type Cover
    • รองรับการใช้งานกับการโต้ตอบนอกหน้าจอของ Surface Dial*
  • เชื่อมต่อ WiFi 802.11 AX, Bluetooth V5.1
  • กล้องของ Surface Pro 8
    • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมวิดีโอ Full HD 1080p
    • กล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล โฟกัสอัตโนมัติ พร้อมวิดีโอ HD 1080p และ 4K
  • ระบบไมโครโฟน Studio Mics คู่แบบรับเสียงจากระยะไกล
  • ลำโพง 2W แบบคู่ รองรับ ระบบเสียง Dolby Atmos®
  • ความปลอดภัย ระบบ Iris Scan ทำงานกับ Windows Hello
  • ระบบปฏิบัติการ : Windows 11
  • แบตเตอรี่ขนาด 50 Wh 4 Cell ชาร์จไฟผ่าน USB-C กำลังสูงสุด 65W และผ่านพอร์ต Surface Connect 1 ช่อง

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Microsoft Surface Pro 8

เริ่มต้นกับหน้าจอขอ Microsoft Surface Pro 8 จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 13 นิ้ว โดยมีส่วนบนมีกล้องหน้าพร้อมกับไมโครโฟน พร้อมกับ Iris และมี Webcam มุมกว้างขนาด 5 ล้านพิกเซล

batch_sa_20220329_174112

รอบตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมที่ดูดีและเรียบโค้งมาพร้อมกับสีตัวเครื่องมีทั้ง เทา แกรไฟต์ที่เราได้ทดลอง และ เงินแพลตินัม โดยแต่ละส่วนประกอบด้วย ฝั่งซ้ายจะมีปุ่มสำหรับปรับระดับเสียง, ช่องเสียบหูฟัง และบานสำหรับตั้งเครื่องเพื่อวางได้และสามารถปรับได้หลายองศา

batch_sa_20220329_174617(0)

ส่วนฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่มกดเพื่อกดเปิดเครื่อง ฝั่งนี้มีช่องเสียบ USB-C รองรับการชาร์จไฟและการเชื่อมต่อได้ดี และยังมาพร้อมกับช่องชาร์จไฟ Surface พร้อมกับที่เปิดบานพับ

batch_sa_20220329_174604

batch_sa_20220329_174339

batch_sa_20220329_174354

batch_sa_20220329_174303เอียงได้มากถึง 170 องศา โดยประมาณ

ส่วนบนไม่มีช่องเสียบอะไรแต่มีช่องระบบระบายความร้อน มีทั้งด้านซ้ายและขวา 

batch_sa_20220329_174522

batch_20220329_175224


batch_20220329_175230

batch_20220329_175233

ส่วนล่างมีช่องเสียบกับ Surface Type Cover หรืออีกชื่อคือ Surface Pro Signature Keyboard

batch_sa_20220329_174535


batch_sa_20220329_174546
batch_sa_20220329_174631Surface Pro Signature Keyboard

ด้านหลังนอกจากบานพับที่ทำให้เครื่องวางได้เกือบเป็นแนวราบแล้วยังมีกล้องหลังความละเอียด 10 ล้านพิกเซลมาให้อีกด้วย โดยตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งสีเทาเข้มและสีเงิน Platinum

batch_20220329_174424

batch_sa_20220329_174321

อุปกรณ์เสริมที่ควรต้องมี

batch_sa_20220329_181645

batch_sa_20220329_174659
batch_sa_20220329_174729

สำหรับอุปกรณ์เสริมที่เราจะพาคุณมาพบก็จะมี 2 ชิ้นคือ Surface Pen แท่งใหม่ที่มีความใหญ่มากขึ้นทำให้การวาดเขียนทำได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ Surface Type Cover คีย์บอร์ดอเนกประสงค์ที่ออกแบบให้ตอบสนองได้ดีทำให้การพิมพ์งานทำได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิดเอาไว้เลยครับ โดย Keyboard มาพร้อมกับที่ชาร์จปากกามาให้ แถมปรับตั้งชันทำให้พิมพ์ได้ง่ายขึ้น

batch_sa_20220329_175026

น้ำหนัก / การถือ

batch_sa_20220329_174944

สำหรับน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 890 กรัมเท่านั้น หากมีการติดตั้งในเรื่องอุปกรณ์เสริมทั้ง Surface Type Keyboard และรองรับกับ Surface Pen แบบใหม่ด้วยครับ ทำให้มันคล่องตัวพกพาได้สะดวกเลยครับ

ประสิทธิภาพของเครื่อง

 batch_pcmark

 

batch_ssd

สำหรับในเรื่องของการทดลองประสิทธิภาพของเครื่องรุ่นนี้ต้องบอกก่อนว่ามันก็แรงสมตัว และยิ่งผ่านมาตรฐาน EVO Platform ก็พร้อมลุยในการทำงานได้ แต่ถ้าใช้แรงเยอะก็จะมีผลกับแบตเตอรี่บ้างนะครับ

การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง

batch_sa_dsc05996

สำหรับหน้าจอของภาพการแสดงผลถือว่าคมชัดในแบบ Pixel Sense โดยมีสัดส่วนถือว่าดีไม่เบา แต่ว่าสิ่งที่ดีขึ้นคือการตอบสนองของหน้าจอรุ่นนี้ไวมากชึ้นนั่นเอง

batch_sa_20220329_181526ลำโพงของ Microsoft Surface Pro 8 อยู่ด้านหน้า
batch_sa_20220329_181534ลำโพงของ Microsoft Surface Pro 8 อยู่ด้านหน้า

ส่วนระบบเสียงเนื่องจากไว้ลำโพงทางด้านหน้าทำให้เสียงที่ออกนั้นถือว่าโดดเด่นและคมชัดโดยลำโพงมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้เสียงที่ออกมามีมิติ แถมรองรับ Dolby ATMOS

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย

batch_1

batch_2

ระบบปฏิบัติการของเครื่องมาพร้อมกับ Windows 11 และ 11 Pro ที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบทั่วไปและยังรองรับการอัปเดตในอนาคต แต่ในรอบนี้จะมี Software บอกสเปกและการอัปเดตของ Microsoft Surface มาให้ด้วยและมีฟีเจอร์ดูและเครื่อง

batch_3

และยังมีระบบความปลอดภัยแบบ Windows Hello ที่เป็นการสแกนใบหน้า ผ่าน Iris Scanner และยังสามารถเลือกให้ SSD จะมีการะบบการเข้าระบบความปลอดภัยได้ด้วย

batch_win_20220330_08_38_28_pภาพจากกล้องหน้า Surface Pro 8

batch_win_20220329_20_09_26_p_1ภาพจากกล้องหน้า Surface Pro 8
batch_win_20220330_08_39_46_pภาพจาก Surface Pro 8
batch_win_20220330_08_39_53_p
batch_win_20220330_08_39_59_p

ส่วนกล้องหน้าหลังมาให้ถ่ายภาพถือว่าไม่แย่นะครับ

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ

batch_batt

ส่วนขนาดแบตเตอรี่ยังคงมีขนาดเท่าเดิมคือ 50 mWh เท่านั้นแต่ว่าด้วยขุมพลังที่เปลี่ยนไปทำให้การประหยัดพลังงานกลับทำได้ดีขึ้น เฉลี่ยแล้วใช้งานได้ 8 ชั่วโมง แต่ทาง Microsoft เคลมว่า 14 ชั่วโมง

batch_20220329_174504_1

ส่วนระบบชาร์จทำได้ 2 ระบบคือ USB-C แบบ Power Delivery กำลัง 65W และที่ชาร์จ Surface Port กำลังสูงสุด 65W แถมยังจ่ายไฟออกผ่าน USB-C ได้ด้วย

สรุปหลังทดลองใช้ Microsoft Surface Pro 8 มาสักระยะเวลาหนึ่ง

batch_sa_20220329_174105

ยังคงเป็น Tablet ที่ฝากความหวังในการทำงานได้ดีแม้ว่าอาจจะไม่ได้แรงมากนักแต่ว่าในเรื่องของการทำงานรุ่นนี้ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน อุปกรณ์เสริมบางอย่างใช้ด้วยกันได้ แต่ฟิล์มกันรอยอาจจะต้องเพิ่งพาของ Surface Pro X หรือรุ่นเฉพาะของมันเท่านั้น แต่เรื่องอื่นพูดเลยว่า ยังคงตอบโจทย์ได้ดีอยู่

โดยราคาของ Microsoft Surface Pro 8 จะมีเริ่มต้นที่ 39,900 บาท ไปจนถึง 69,900 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสเปกของเครื่องด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้วทั้งออนไลน์และหน้าร้านทั่วไปครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์เปลี่ยนใหม่บางและเบาขึ้น
  • สเปกแรงขึ้น
  • หน้าจอสวยคมชัดและเสียงดี
  • มีที่เก็บปากกาและใช้แบบเดียวกับ Surface Pro X
  • มีให้เลือกหลายสีสัน

ข้อสังเกต

  • ไม่มีช่องเสียบ USB-A มาให้
  • ไม่สามารถเพิ่มความจำผ่าน MicroSD ได้อีกต่อไป
  • ราคาค่อนข้างสูง
  • ยังไม่ได้ขุมพลัง Intel Core 12th Generation

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ ของ รีวิว Microsoft Surface Pro 8 Tablet ที่ใหญ่ขึ้นและดูดี กับสเปกที่มาครบเครื่องกว่าเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook