ระวัง! รักแท้จากออนไลน์ มีมากมายที่ถูกหลอก!

ระวัง! รักแท้จากออนไลน์ มีมากมายที่ถูกหลอก!

ระวัง! รักแท้จากออนไลน์ มีมากมายที่ถูกหลอก!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในยุคที่เรามีอินเทอร์เน็ตใช้แทบจะทุกที่ทุกเวลา เอื้อให้การมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ ผ่านโลกออนไลน์นั้นง่ายและรวดเร็ว การสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนผ่านทางอินเทอร์เน็ตจึงไม่ใช่เรื่องยากและซับซ้อนอีกต่อไป เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งการพบรักในโซเชียลมีเดีย ในแอปฯ หาคู่ หรือไปรู้จักกันผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ คนที่พบรักแท้มันก็มี แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ตกเป็นเหยื่อในความสัมพันธ์ลักษณะนี้ ถูกมิจฉาชีพ “ลวงให้รัก” และ “หลอกให้โอนเงิน” ซึ่งเราจะพบได้ตามหน้าข่าวอยู่บ่อยครั้ง

การถูกหลอกว่าพบรักแท้จากโลกออนไลน์มีข่าวให้เห็นแทบทุกเดือน ส่วนมากเราจะเห็นว่าเหยื่อถูกหลอกลวงให้รักและโอนเงินไปให้จนสูญเสียทรัพย์สินมหาศาล ผ่านทางช่องทางออนไลน์ยอดนิยมต่าง ๆ ที่มิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือล่อลวงเหยื่อ ได้แก่ โซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันและเว็บไซต์หาคู่

เมื่อมนุษย์ได้ย้ายช่องทางการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ไปอยู่ในโลกออนไลน์กันมากขึ้น ในแง่การพบรัก นี่ก็น่าจะเป็นช่องทางให้กลุ่มคนมักจะมีตัวตนอยู่ในโลกออนไลน์ได้สมหวังในความรักบ้าง เพราะในโลกความเป็นจริงนั้นหาไม่เจอ การพบรักทางออนไลน์มีจำนวนมากทีเดียวที่กลายเป็นรักแท้ ลงเอยด้วยการแต่งงานสร้างครอบครัวอย่างมีความสุข จุดนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เพิ่มโอกาสให้เราได้เจอกับความรักที่หวานชื่น

อย่างไรก็ดี มันก็เป็นช่องทางที่เสี่ยงดวงไม่น้อยเช่นกัน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอรักแท้ เหนืออื่นใด ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอคนดี เราไม่รู้เลยว่าคนที่เข้าหาเรานั้นมีจุดประสงค์ใดแอบแฝงหรือไม่ คุณอาจเจอมิจฉาชีพที่แฝงมาในคราบของคนรัก เข้าหาคุณเพื่อหวังปอกลอก ซึ่งไม่ได้ทำให้เสียใจอย่างเดียว แต่ยังสูญเสียทรัพย์สินก้อนโตให้กับความรักจอมปลอม โดยที่คุณไม่ทันสังเกตเลยว่าเขาเข้าหาคุณเพราะหวังจะหลอกลวงมากกว่าจะมาสร้างความรักไปด้วยกัน

กรณีของคนที่ถูกหลอกให้รัก หลอกให้หลง และจบด้วยการหลอกให้โอนเงินหรือทรัพย์สินให้แบบที่เเหยื่อไม่ทันจะได้ตั้งสติดี ๆ นั้นมีให้เห็นเป็นอุทาหรณ์บ่อยกว่าที่คิดในปัจจุบัน กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกก็อาจหมดตัวแล้ว บางคนตัวเองไม่มีเงินให้ก็อุตส่าห์ไปสรรหาทำให้มี แล้วกดโอนให้เขาอย่างง่ายดาย ช่วงที่ข่าวออกถี่ ๆ เราอาจเห็นมากถึง 3-4 ข่าวในระยะเวลาเพียง 1 เดือน จริง ๆ แล้วค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะมีคนที่ถูกหลอกอยู่ทุกวัน และจำนวนเหยื่อก็มากกว่าที่เห็นในข่าว เพียงแต่มันไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้นเอง

การหลอกลวงดังกล่าวไม่ได้มีแค่ในบ้านเรา และไม่ได้มีแค่คนไทยที่หลอกกันเอง มีหลายข่าวที่คนไทยถูกคนต่างชาติหลอก และในต่างประเทศก็มีกรณีแบบนี้ให้เห็นไม่น้อยเช่นกัน อย่างกรณีของผู้หญิงในสารคดีของ Netflix เรื่อง 18 มงกุฎทินเดอร์ (The Tinder Swindler) ที่เพิ่งออกฉายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งหากอยากทราบรายละเอียดของเรื่องราวนั้น สามารถเข้าไปหาชมได้ โดยเรื่องนี้ก็มีประเด็นดราม่าจากบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมิจฉาชีพด้วย

istock-1223996994

ลอกให้รัก ถ้ารักแล้วก็ต้องโอนเงินให้นะ

ลักษณะการก่ออาชญากรรมแบบนี้ เป็นภัยแฝงที่มาจากการพบรักในโลกออนไลน์ โดยเรียกการหลอกลวงนี้ว่า “โรมานซ์สแกม” (Romance Scam) คือการหลอกให้เหยื่อรัก การให้ความหวังกับเหยื่อว่าจะมีชีวิตรักที่สวยงาม จากนั้นก็จะหลอกให้เหยื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งเคยมีข้อมูลจากงานวิจัยของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยถึงมูลค่าความเสียหายของการหลอกลวงลักษณะนี้ ว่าสูงถึง 6 พันล้านบาทเลยทีเดียว

คนที่ตกเป็นเหยื่อนั้นมีความคาดหวังในเรื่องของความรักเท่านั้น ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วเหยื่อไม่ทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของคนที่เข้าหาตัวเอง ว่าต้องการจะหาคนรัก หาคู่สักคนเหมือนกันกับตัวเอง หรือเป็นพวกมิจฉาชีพแฝงตัวมา นี่จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วคนโสดคุณภาพดีที่ต้องการหาคู่ให้กับตนเองก็มีอยู่มาก แต่ต้องไม่ลืมว่าพวกที่แฝงตัวมาด้วยจุดประสงค์อื่นก็มีอยู่เยอะ ดังนั้น การจะหาคู่ หาความรักจากสื่อออนไลน์นั้นก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง พิจารณาให้ดีว่าคนที่คิดว่าใช่ แท้จริงแล้วจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่

รูปแบบของ Romance Scam หรือหลอกรักออนไลน์ เช่น

  • หลอกให้หลงรัก
  • หลอกให้เชื่อว่ารัก
  • หลอกให้เชื่อใจ ตายใจ หลงคารม
  • ให้ความหวังว่าจะแต่งงานด้วย
  • หลอกแต่งงานแล้วเชิดเงินหนี
  • ทำให้เชื่อว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป
  • หลอกใช้ความรักความเชื่อใจหรือความหวังของเหยื่อเพื่อแสวงหาประโยชน์ เช่น หลอกให้โอนเงินหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ไปให้
  • หลอกให้กระทำผิดบางอย่างโดยที่เหยื่ออาจไม่รู้ตัวว่ากำลังทำเรื่องผิดกฎหมาย หรือรู้ตัวแต่ก็ทำเพราะรักและไว้ใจ
  • เมื่อเหยื่อเริ่มรู้ตัว คนร้ายจะหนีหาย ทิ้งให้เหยื่อที่เสียรู้เสียใจ เสียเงิน เสียทรัพย์สิน เสียหน้า เสียความรู้สึก

ขั้นตอนทั่ว ๆ ไปของการหลอกลวงเหยื่อให้ติดกับ

เมื่อช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์เตือนภัย เกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบของการหลอกให้รักทางออนไลน์ ว่าโดยทั่วไปแล้วมิจฉาชีพจะมีรูปแบบการก่อเหตุเพียง 4 ขั้นตอน คือ หลอก รัก ลวง และหลบหนี

  • หลอก

เป็นการสร้างตัวตนปลอม ๆ ขึ้นบนโลกออนไลน์ ทำให้ตนเองดูเป็นคนน่าเชื่อถือ เป็นนักธุรกิจ เป็นคนที่มีฐานะดีอยู่แล้ว เพื่อหลอกให้เหยื่อไว้วางใจว่าคนแบบนี้ไม่น่าจะเข้ามาหลอกลวง หรือการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น โดยใช้ภาพของบุคคลอื่นที่ผ่านการตัดต่อเรียบร้อยแล้ว หลอกล่อคนที่เข้ามาเห็นให้เกิดความประทับใจ มักใช้ภาพที่แต่งกายดูดี ดูภูมิฐาน หรืออาจเป็นคนในเครื่องแบบ มีสถานะเป็นคนโสด หรือเคยแต่งงานแล้วแต่เลิกราแล้วหรือคู่สมรสเสียชีวิตไปแล้วจึงอยากจะมีรักครั้งใหม่

นอกจากนี้ยังอาจมีการแอบตามดูโปรไฟล์ของเหยื่อที่หมายตาไว้แล้วในโซเชียลมีเดีย เพื่อเก็บข้อมูลแล้วนำความสนใจของเหยื่อมาแปลงเป็นโปรไฟล์ของตัวเอง จะได้ตรงใจหรือถูกสเปคตามความชอบของเหยื่อ จากนั้นก็เข้าหาโดยอาจจะแชตไปทักทำความรู้จัก อาจมีการเป็นฝ่ายเปย์ให้ก่อนในช่วงแรก ๆ จนกว่าเหยื่อจะตายใจ ซึ่งมิจฉาชีพส่วนใหญ่ก็จะแฝงตัวอยู่ในสังคมออนไลน์ทั่ว ๆ ไป พวกโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือแอปฯ หาคู่ มีการติดต่อพูดคุยกับเหยื่อได้ทุกช่องทางออนไลน์

  • รัก

หลังจากที่ติดต่อกันได้แล้ว ทำความรู้จักกันเบื้องต้น ก็จะเริ่มขั้นตอนการทำให้เหยื่อหลงรัก ด้วยการหว่านล้อมด้วยคำหวาน มีการออดอ้อน เพื่อตีสนิท หมั่นส่งข้อความมาทักทาย คอยตื๊อเช้าตื๊อเย็น ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแบบเป็นห่วงเป็นใยที่มากกว่าเพื่อนทั่วไป จนเหยื่อรู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญ พยายามที่จะสานสัมพันธ์อย่างรวบรัด อาจเร็วสุดเพียง 2-3 วัน แต่บางรายอาจต้องอดทนนานเป็นปี ๆ กว่าเหยื่อจะใจอ่อนเพราะแพ้ทาง ทำให้เหยื่อเชื่อใจและให้ความหวังเหยื่อว่านี่คือความรักจริง ๆ อาจลงเอยด้วยการแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป

ซึ่งคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของโรมานซ์สแกมนี้ได้ง่าย ก็มักจะเป็นคนที่มีสถานะโสด หย่าร้าง เป็นหม้าย คนกลุ่มนี้มีความเหงาเป็นทุนเดิม ต้องการหาเพื่อนคุย ต้องการคนดูแล หรือต้องการหาความรักจากโลกออนไลน์ เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมากเกินไป เชื่อคนง่าย ต้อนรับทุกคนให้เข้ามาทำความรู้จัก เปิดโอกาสให้คนที่ไม่รู้จักเข้ามาพูดคุยสร้างสัมพันธ์ได้ง่ายเกินไป โดยอาจมีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างอื่นอีก เช่น มีการใส่ข้อมูลประวัติส่วนตัว ภาพถ่าย ลงในช่องทางออนไลน์ ในเว็บไซต์หาคู่ต่าง ๆ อัปเดตเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ไว้บนโซเชียลมีเดียจนไปสะดุดตามิจฉาชีพเข้า

  • ลวง

เป็นขั้นตอนหลังจากที่เริ่มสนิทสนมกับเหยื่อในระดับหนึ่ง และเหยื่อเองก็เริ่มตายใจ มิจฉาชีพจะเริ่มออกลาย สร้างกลอุบายในการหลอกลวงเอาทรัพย์สิน เงิน หรือผลประโยชน์ต่าง ๆ จากเหยื่อ สร้างสถานการณ์ให้เหยื่อเกิดความสงสาร เห็นใจ หรือความหวังที่จะได้มีชีวิตคู่ร่วมกัน เช่น หลอกว่าเป็นนักธุรกิจหรือมหาเศรษฐีที่กำลังหาคนมาร่วมลงทุน ขอให้เหยื่อโอนเงินไปช่วยหมุนในธุรกิจ โดยมีผลตอบแทนสูง มีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน เช่น พ่อแม่ป่วย ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ธุรกิจถูกโกง/มีปัญหา เกิดอุบัติเหตุ หรือกำลังจะเดินทางมาหา แต่เงินซื้อตั๋วเครื่องบิน/ทำวีซ่าไม่พอ ขอยืมก่อน เป็นต้น

การที่เหยื่อหลงเชื่อก็เพราะหลงรักไปแล้ว บวกกับสงสาร ที่สำคัญคือการที่มิจฉาชีพให้ความหวัง ให้คำสัญญาว่าจะคืนเงินให้ตามจำนวนหรือมากกว่าหลายเท่า ไหน ๆ ก็กำลังจะได้แต่งงาน ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอยู่แล้วจึงยอมช่วยเหลือ

  • หลบหนี

เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว มิจฉาชีพหลายคนจะเริ่มตีตัวออกห่าง แต่ก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ยังคอยสูบผลประโยชน์จากเหยื่ออยู่ โดยพยายามแถไม่ให้เหยื่อรู้ตัว คนที่ยังไม่ไหวตัวก็ยังถูกหลอกไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเหยื่อเริ่มเอะใจ แล้วสงสัยว่าอาจจะกำลังถูกหลอกอยู่ มิจฉาชีพก็จะหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มีการปิดบัญชีออนไลน์ต่าง ๆ ที่สร้างไว้หลอกลวงเหยื่อ ด้วยการใช้ประวัติและรูปภาพปลอม หากเหยื่อแจ้งความก็ดำเนินการติดตามตัวได้ยาก เนื่องจากไปนำรูปภาพของคนอื่นมาใช้ บุคคลนั้นไม่ใช่คนร้ายตัวจริง ส่วนมิจฉาชีพก็จะสร้างตัวตนใหม่ แล้วไปหาเหยื่อรายใหม่ ๆ นั่นเอง

วิธีป้องกันตนเองจากการถูกหลอกให้รัก ทางที่ดีอย่าตกเป็นเหยื่อจะดีกว่า

วิธีต่าง ๆ ที่จะแนะนำต่อจากนี้ อาจเป็นการดำเนินการที่ค่อนข้างสะเทือนใจและมีผลต่อความรู้สึกมากทีเดียว เข้าใจดีถึงความรู้สึกที่ว่าจะมีความรักทั้งทีทำไมมันถึงได้ยากเย็นนัก ต้องมาคอยหวาดระแวง คอยตรวจสอบนู่นนั่นนี่ คาดหวังจะมีรักแท้ที่ดี ๆ อย่างใครเขาก็ต้องมาวุ่นวายแบบนี้ ทว่าในโลกยุคที่เราไม่สามารถเชื่อใจใครได้ง่าย ๆ การป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการตามแก้ปัญหา ดีกว่าเป็นไหน ๆ หากต้องเสียทรัพย์สิน เสียใจ เสียความรู้สึก เสียรู้ เสียหน้า (และอาจเสียตัวด้วย) โดยไม่ได้ความรักกลับมา บก.ปอท. แนะนำวิธีในการป้องกันการถูกหลอกให้รัก ด้วยหลัก 4 ส.

1. สติ ต้องมีสติอยู่เหนืออารมณ์ เนื่องจากภาวะทางอารมณ์ทั้งหลาย เช่น รัก โลภ โกรธ หลง มักมีอำนาจในการสั่นคลอนสติได้มากที่สุด เมื่อขาดสติ ปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นเข้าครอบงำ อาจทำให้เกิดภาวะหน้ามืดตามัวได้ง่ายมาก จนลืมระวังตัว และนำภัยมาหาตัวเองในที่สุด แบบที่เขาว่ากันว่า “ความรักทำให้คนตาบอด”

2. สืบ อาจต้องใช้ทักษะการเป็นนักสืบให้มากขึ้น ลองสืบประวัติคนที่เข้ามาทำความรู้จัก และแสดงออกชัดเจนว่ามาจีบ ส่วนใหญ่แล้วการก่ออาชญากรรมมักจะมีร่องรอยทางดิจิทัลอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะสืบก่อนเชื่อหรือเชื่อเลยทันที ทำตัวเป็นคนขี้สงสัยไว้ก่อน อย่าเพิ่งเชื่อใจใครง่าย ๆ ตรงนี้อาจดูเหมือนคนที่มองโลกในแง่ร้าย แต่ในเมื่อภัยลักษณะนี้มันเข้าถึงตัวเราได้ง่ายกว่าที่คิด เหยื่อทุกรายก็ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะโดนเข้ากับตัว ลองตั้งคำถามกับทั้งตัวเองและคนที่เข้ามาคุยด้วยอย่างตรงไปตรงมาเพื่อวิเคราะห์ถึงความน่าจะเป็น เอ๊ะบ่อย ๆ ว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมัน make sense หรือไม่ อย่าคิดว่าเพราะรักเขาจึงเชื่อใจกดโอนให้อย่างง่ายดาย

3. สตางค์ คือการรักษาทรัพย์สินไว้ อย่าหลงเชื่อ อย่าโลภมาก รู้จักคิดวิเคราะห์ให้มาก ๆ จำไว้ว่าเงินอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่โอนให้เสียอย่างก็ไม่มีความเสียหายใด ๆ ลองคิดให้ถี่ถ้วนก่อนกดโอนเงินให้ใคร คิดว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องให้นู่นให้นี่เพื่อแสดงความรัก โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้น หรือไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน ระลึกไว้เสมอว่าขนาดคนใกล้ตัวยังไว้ใจไม่ได้เลย มีกรณีตัวอย่างของคนที่ถูกเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัวทรยศหักหลังตั้งมากมาย เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าจะเชื่อใจคนแปลกหน้าได้

4. แสวงหา คือการหาความรู้ อัปเดตข้อมูลข่าวสารอาชญากรรมอยู่เสมอเพื่อให้รู้เท่าทันอาชญากร ศึกษาพวกกลโกง วิธีการที่ก่อเหตุ กรณีของการหลอกให้รักแล้วหลอกให้โอนเงิน โดนทรัพย์สินต่าง ๆ ให้ คนร้ายจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นเข้าหาจนกระทั่งปิดจ็อบด้วยการหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ เฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 7-30 วันเท่านั้นเอง การแสวงหาความรู้ก็เพื่อที่จะได้มีคลังประสบการณ์ไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ เรื่องแบบนี้อย่ารอมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง อย่าเป็นคนยื่นทรัพย์สินให้กับมิจฉาชีพด้วยตนเอง

หากตกเป็นเหยื่อแล้ว ต้องทำอย่างไร

หากการระมัดระวังตัวไม่เป็นผล เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วเริ่มรู้สึกเอะใจ และพบว่าตนเองกำลังตกเป็นเหยื่อความรักจากโลกออนไลน์ มีคำแนะนำจาก บก.ปอท. เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติเมื่อตกเป็นเหยื่อโรมานซ์สแกม ดังนี้

1. เตรียมเอกสารส่วนตัว อย่างสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

2. เตรียมหลักฐานที่พบการกระทำความผิด เช่น หน้าจอ หน้าเว็บไซต์ หน้าโปรแกรมแชตที่มีการหลอกลวง หลักฐานการโอนเงินต่าง ๆ พิมพ์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์แล้วนำไปแนบประกอบเป็นหลักฐานการแจ้งความ

3. ไปแจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook