พาสัมผัสแรก OPPO Find X5 Pro มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่จับมือกับ Hasselblad

ในที่สุด OPPO ได้เปิดตัวมือถือใหม่ล่าสุด OPPO Find X5 Pro อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย แน่นอนว่ามันก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องที่จับมือกับ Hasselblad และอีกสิ่งคือ OPPO Enco X2 ใหม่ ซึ่งในครั้งนี้ทีม Sanook Hitech ไม่พลาดที่จะพาคุณไปทดลองจับจริงมาเล่าก่อนที่หลายคจกำลังจะเป็นเจ้าของ พร้อมแล้วรับชมได้เลย

รายละเอียดสเปกของ OPPO Find X5 Pro

• หน้าจอ LTPO2 AMOLED ขนาด 6.7  นิ้วความละเอียดระดับ 3216x1440 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 1 - 120Hz  
• ขนาดตัวเครื่อง 163.7 x 73.9 x 8.5มม.
• น้ำหนัก 218 กรัม
• ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
• กราฟิก :Adreno 730 
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB LPDDR5 3200MHz 
• หน่วยความจำภายในความจุ 256GB 
• การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, 5G / 4G
• ลำโพงStereo ทั้งบนและล่าง รองรับ Dolby Audio
• กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น 
  • กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง F/1.8 พร้อม OIS, EIS, Omni-directional PDAF 
  • กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 เลนส์ Ultra Wide รูรับแสง F/2.2 
  • กล้องTelephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4 รองรับการซูมแบบ Optical 2x, Hybrid Zoom 5x และ ซูมไกลสุด Digital Zoom 20x 
• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68 
• ระบบปลดล็อค Face Recognition Optical Finger Print ในหน้าจอ
• แบตเตอรี่ความจุ5000mAh 
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็วSuperVOOC กำลัง 80W(แบบสาย), รองรับชาร์จไร้สาย AirVOOC Wireless กำลัง 50W จ่ายไฟออก หรือ Power Share กำลัง 10W 
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วยColor OS 12.1
• สี Ceramic White, Glaze Black

แรกเห็นรูปร่าง

เริ่มจากด้านหน้าที่เห็นคือยังคงขนาดเท่าเดิมคือ 6.7 นิ้วที่หน้าจอและมีการเจาะรูกล้องที่เดิมคือมุมซ้ายมือความละเอียดกล้องหน้าก็เท่าเดิมคือ 32 ล้านพิกเซล สิ่งที่เปลี่ยนไปคือหน้าจอแบบ LTPO2 ใหม่ล่าสุด จุดเด่นคือกินพลังงานน้อยลงความสว่างมากขึ้น ยังคงความโค้งเหมือนเดิม รอบนี้ Refresh Rate อยู่ระหว่าง 1 – 120Hz ด้วยกัน

รอบตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมสวยงาม บางเฉียบตัดด้วยขอบกระจกด้านล่างและด้านบน ยังคงแบ่งเป็นปุ่มปรับระดับเสียงฝั่งซ้ายและปุ่ม Power ที่ฝั่งขวามือ

ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ด้านล่างช่องใส่ซิมการ์ด, USB-C, ลำโพงตัวเครื่องและไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา

พลิกมาด้านหลังเครื่องสำหรับรอบนี้จะมีให้เลือกคือสีดำ และ สีขาว ที่ดูดีไม่เบาเลยครับ แต่ว่าสิ่งที่เป็นข้อสังเกตสักหน่อยคือกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและใช้เวลานานคือเคล็ดลับความงามของด้านหลัง สำหรับกล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัวโดยสเปกนั้นใกล้เคียงกับของเดิมแต่มีการติดตั้งชิป Marisilicon X เข้าไปนั่นเอง

ฟีเจอร์ภายในที่โดดเด่น

สำหรับระบบปฏิบัติการของ OPPO Find X5 Pro เลือกใช้ Color OS 12.1 รุ่นใหม่ล่าสุดปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นและนอกจากนี้มี สเปกที่ครบเครื่อง

ส่วน กล้องหลังคู่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลทั้งมุมกว้างปกติ และ Ultrawide ยังคงใช้ Sony IMX766 (1/1.56”, 1.0 µm) และมีการใช้งานชิป MariSilicon X ครั้งแรกของเครื่องรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับการจัดการ AI Noise Reduction และหน่วยประมวลผลอื่นๆ และยังมีฟีเจอร์ 4K Night Video และลด Noise ลง

และ OPPO ยังเคลมว่า สามารถถ่ายภาพ Video HDR ในแบบ 20-bits และสามารถปรับเรื่องของ Dynamic Range ได้ระดับ 120db และแน่นอนว่าทำได้ดีกว่า Find X3 Pro และเมื่อจับมือกับ Hasselblad ก็จะฟีเจอร์เพิ่มในโหมดโปรชื่อว่า Hasselblad Natural Color Calibration ทำให้สีสันของภาพนั้นสามารถตรวจช่องสีได้มากถึง 13 Channel

และมีเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวได้ถึง 5 แกนในแบบ OIS ทั้งนี้มุมกว้าง 3 องศา และ มุมกว้างควางระดับ 110 องศา จะใช้ระบบ EIS แต่ว่ากล้องตัวที่ 3 คือ Telephoto โดยความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซูมได้ 2 เท่าแบบ Optical และ 5 เท่าแบบ Hybrid Zoom และมีโหมด XPAN ถ่ายภาพในสไตล์ของ Hasselblad

(ตัวอย่างภาพจากกล้อง OPPO Find X5 Pro)

รวบรัดตัดความกับการสัมผัส OPPO Find X5 Pro สักระยะเวลาหนึ่ง

เอาล่ะเห็นไปทั้งหมดแล้วคงต้องมาดูกันว่าราคาเป็นอย่างไร สำหรับ OPPO Find X5 Pro ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะมีสเปกคือ RAM 12GB / 256GB เปิดที่ 39,990 บาท ถือว่าราคาสูงอยู่ แต่ก็แลกกับสิ่งที่ได้ ถ้าใครใช้กล้องเยอะและเน้นเรื่องการประมวลผลไว ไม่ได้เน้นงานซูมเท่าไหร่แต่สีสันต้องจัดเต็ม นี่ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่พึ่งพาได้

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว OPPO Enco X2 ใหม่ล่าสุดกับราคาเครื่องอยู่ที่ 5,999 บาท

ส่วนการวางจำหน่ายนั้นจะเริ่มปลายเดือนเมษายน ซึ่งซื้อกับผู้ให้บริการก็จะลดลงไปประมาณหนึ่งครับ สำหรับบทความนี้ขอจบลงเท่านี้ ครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะพาไปสัมผัส Gadget อะไรใหม่ ติดตามต่อในครั้งต่อไปครับ