รีวิว "iPad Air 5" คุ้มมากขึ้นด้วยชิพ M1 แบบเดียวกับรุ่นโปร แถมรองรับ 5G

รีวิว "iPad Air 5" คุ้มมากขึ้นด้วยชิพ M1 แบบเดียวกับรุ่นโปร แถมรองรับ 5G

รีวิว "iPad Air 5" คุ้มมากขึ้นด้วยชิพ M1 แบบเดียวกับรุ่นโปร แถมรองรับ 5G
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

iPad Air 5 รุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple เรียกว่าเป็นการอัปเกรดใหม่ ทั้งเรื่องของความแรงที่มาพร้อมชิป M1 เทียบเท่ารุ่นพี่อย่าง iPad Pro มีกล้องกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่วางไว้ตรงกลาง และลก้องหลัง 12MP รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K และมีสีสันให้เลือกมากถึง 5 สี ทั้ง เทาสเปซเกรย์ สตาร์ไลท์ ชมพู ม่วง และฟ้า

iPad Air 5

iPad Air 5 จะมีให้เลือก 2 ความจุ ทั้ง 64GB และ 256GB แบ่งออกเป็นรุ่น Wi-Fi มีราคาเริ่มต้นอยุ่ที่ 20,900 และรุ่น Wi-Fi + Cellular ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท

แกะกล่องสัมผัสแรกกับเรื่องของ Design – การออกแบบของ iPad Air 5

เริ่มจากกล่องของ iPad Air 5 ก็ยังคงมาในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยที่ด้านหน้าจะมีรูป iPad พร้อมกับวอลเปเปอร์ที่มีสีตรงกับตัวเครื่อง โดยสีที่เราได้มารีวิวจะเป็นสีฟ้า ส่วนด้านข้างก็จะมีเขียนว่า iPad Air ทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมกับโลโก้ Apple ที่ข้างกล่องบน-ล่าง และจะเห็นว่าตัวหนังสือและโลโก้ก็จะใช้สีเดียวกับตัวเครื่องเช่นกัน

iPad Air 5

เปิดออกมาด้านในก็จะพบกับ ตัวเครื่องของ iPad Air 5 หากเทียบกับรุ่นที่แล้วเรียกว่าไม่ได้เปลี่ยนมากเท่าไหร่ แต่จะมีสีตัวเครื่องและการวางตำแหน่งบางจุดที่ต่างกัน

iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5

iPad Air 5 ยังคงมีขอบข้างแบบแบนเท่ากันทุกด้าน ความหนาอยู่ที่ 6.1 มิลลิเมตร โดยที่ของมุมทั้ง 4 ด้านมีความโค้งมนสวยงาม และตัวเครื่องด้านบนจะมีลำโพงเสียง ไมโครโฟน พร้อมกับเซ็นเซอร์ Touch ID ที่มุมขวา ใช้สำหรับปลดล็อกลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่หน้าจอหลัก

iPad Air 5

iPad Air 5

iPad Air 5

ด้านล่างตัวเครื่องก็ยังใส่ลำโพง พร้อมพอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C ที่รองรับการโอนถ่ายข้อมูลกับอุปกรณ์ที่มี Type - C ได้สูงสุด 10Gbps ไม่ว่าจะต่อกับกล้องถ่ายรูป Hard Disk ก็เชื่อมต่อกันได้ทันที

iPad Air 5

ตัวเครื่องด้านซ้ายออกแบบให้เรียบไม่มีพอร์ตใดๆ ส่วนด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม - ลด ถัดมาตรงกลางจะมีแถบแม่เหล็กสำหรับใช้ติดกับ Apple Pencil โดยจะรองรับการใช้งานกับรุ่นที่ 2

iPad Air 5

iPad Air 5

iPad Air 5
ด้านหลังตัวเครื่องของ iPad Air 5 สีฟ้า จะมีผิวสัมผัสแบบเรียบและใช้วัสดุที่มีความด้านเล็กน้อย ทำให้จับถือไม่ลื่นและยังลดการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

iPad Air 5

นอกจากนี้ ที่มุมซ้ายบนจะมีเลนส์กล้องไวด์ ความละเอียด 12MP ถัดลงมาเล็กน้อยจะมีไมโครอีกหนึ่งตัว โดยที่ตรงกลางเครื่องมีโลโก้ Apple ที่มีลักษณะเงาวางอยู่

iPad Air 5

อีกหนึ่งจุดที่แตงต่างจาก iPad Air รุ่นที่แล้วคือด้านหลังเครื่องจะมีตัวหนังสือบอกชื่อรุ่นติดมาด้วย  อย่างรุ่นนี้ก็สกรีนติดไว้ว่าเป็น iPad Air และถัดลงมาด้านล่างเล็กน้อยก็จะเป็นแถบแม่เหล็กแบบวงกลมสีทอง 3 จุด หรือเรียกว่า Smart Connector สำหรับเชื่อมต่อกับ Magic Keyboard

iPad Air 5

หน้าจอ

iPad Air 5 มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล  ซึ่งยังไม่ได้เต็มขอบจอ แต่ยังมีขอบดำรอบด้าน

iPad Air 5

โดยเป็นจอแสดงผลแบบ True Tone ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 ทำให้ได้จอที่มีสีสันสดใสและสมจริง ยังสว่างสูงสุด 500 นิต เมื่อใช้ในที่แจ้งก็ยังสู้แสงได้ดี และการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อน และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ไม่ให้เกิดรอยนิ้วมือง่าย

iPad Air 5

ชิป M1

iPad Air 5 เป็นอีกรุ่นที่สเปคน่าสนใจ เพราะให้ชิป  M1 ที่ทั้งเร็วและแรงเหมือนกับ iPad Pro พร้อมด้วย CPU แบบ 8‑core ที่เร็วขึ้นสูงสุด 60% กว่ารุ่นก่อน  ไม่ว่าจะเล่นเกม ตัดต่อ หรือแม้แต่การสลับแอปฯ ก็จะเห็นได้ว่าตัวเครื่องทำงานได้เร็ว เล่นเกมที่มีกราฟิกเยอะๆ ก็แสงภาพที่สวยงามและลื่นไหล

iPad Air 5

นอกจากนี้ GPU ก็ให้มาแบบ 8-core ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟิกได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า มาพร้อม RAM 8GB ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ ดีไซน์ หรือการใช้ สร้าง 3D ด้วย uMake หรือจะออกแบบฟิลเตอร์ AR สำหรับใช้บนโซเชียลมีเดียใน Procreate ก็ทำได้บนเครื่องนี้ทั้งหมด ทำให้งานสร้างสรรค์ทั้งหลายเป็นเรื่องง่าย

iPad Air 5 ยังมาพร้อม Apple Neural Engine แบบ 16‑core ซึ่งจะช่วยเร่งการเรียนรู้ของระบบให้ทำงานเร็วขึ้น ช่วยเรื่องของการแต่งภาพบน Adobe Lightroom ที่ทำงานเร็ว ประมวลผลภาพที่แต่งออกมาได้ทันและฉลาดเพียงคลิกเดียว

กล้องหน้า Wide

กล้องหน้าถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งใหม่คือตรงกลางตัวเครื่อง มีความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.4 มุมมองภาพ 122° ซึ่งเป็นข้อดีในการใช้งานวิดีโอคอล ถ่ายภาพเคลื่อนไหว ให้ออกมาเป็นธรรมชาติ และยังมีฟีเจอร์ Center Stage ที่จะช่วยปรับภาพให้อยุ่กลางเฟรม เช่น ขณะที่กำลังใช้งานกล้องหน้าแล้วมีคนเข้ามาเพิ่มในเฟรม กล้องก็จะปรับขยายหรือซูมเข้าเอง เพื่อให้วัตถุอยู่ตรงกลาง

iPad Air 5


นอกจากนี้ กล้องหน้ายังรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติที่เข้ามาช่วยให้การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

กล้องหลัง

iPad Air 5

กล้องถ่ายรูปด้านหลังของ iPad Air 5 เป็นกล้องไวด์ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 รองรับดิจิตอลซูมสูงสุด 5 เท่า ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels มีโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง ทั้งยังรองรับการบันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง รวมถึงระบบ HDR อัจฉริยะ สำหรับถ่ายภาพในที่แสงจ้า

นอกจากนี้ ยังรองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว ช่วยให้วิดีโอที่ถ่ายออกมามีความสมูทมากขึ้น

แบตเตอรี่

สำหรับแบตฯ ของ iPad Air 5 เป็นที่รู้กันว่า Apple ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลความจุ แต่จากได้ทดลองใช้งานพบว่า iPad Air 5 แบตฯ ค่อนข้างอึด ใช้งานได้ทั้งวัน โดยเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่อง 28.6 วัตต์ต่อชั่วโมง ใช้งานท่องเว็บผ่าน Wi-Fi ได้สูงสุด 10 ชั่วโมง แต่สำหรับรุ่น Wi‑Fi + Cellular ใช้ท่องเว็บด้วยเครือข่ายใช้งานได้นาน 9 ชั่วโมง

ส่วนการชาร์จแบตฯ ก็ง่ายเพราะ iPad ยังมีอะแดปเตอร์มาให้ในกล่อง และสายชาร์จก็เป็น USB Type-C to Type-C ไม่ยุ่งยากต้องหาที่ชาร์จเอง

ระบบปฎิบัติการ

iPad Air 5

iPad Air 5 รันบนระบบปฎิบัติการ iPadOS 15 ที่ช่วยให้การใช้งานง่ายและสะดวก อย่างเช่น Multitasking ใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ของ iPad ด้วยหลายแอปฯ พร้อมกัน หรือจะใช้งานแบบ Slide Over, Split View แบ่งออกเป็นหลายหน้าต่างก็ทำได้เช่นกัน

iPad Air 5

ปุ่มลัดแป้นพิมพ์

เมื่อติดคีย์บอร์ดเข้ากับ iPad Air 5 สามารถดูปุ่มลัดทั้งหมดได้ด้วยการกด Command เท่านี้ก็เลือกใช้งานปุ่มลัดสำหรับแอปฯ และมัลติทาสก์ได้เลย

วิดเจ็ตบนหน้าจอโฮม

สามารถวางวิดเจ็ตบนหน้าโฮมของ iPad ได้ในแบบที่ต้องการ ทั้งกรอบเล็ก ใหญ่ ก็มีพื้นที่ให้วางได้แบบจุใจและตอบโจทย์การใช้งานที่ง่ายขึ้น

iPad Air 5

โน้ตด่วนและแอปโน้ต

โน้ตด่วน ออกแบบมาให้ใช้งานได้เร็วและง่ายขึ้น สามารถจดโน้ตได้ทุกที่ที่ต้องการ โดยการเริ่มใช้งานจากปุ่มลัดบนแแอแป้นพิมพ์ หรือปัดขึ้นจากมุมโดยใช้นิ้วหรือ Apple Pencil นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มลายมือ ลิงค์ หรืออะไรก็ได้ลงโน้ตด่วน เรียกว่าใช้งานได้ครบและครอบคลุมทั้งหมดในโน้ตเดียว

SharePlay

แชร์ประสบการณ์กับครอบครัวได้ง่ายขึ้นด้วยฟังก์ชั่น SharePlay ที่สามารถใช้งาน FaceTime ไปพร้อมกับการรับชมรายการทีวีหรือภาพยนตร์ หรือจะแชร์หน้าจอให้ครอบครัวก็ได้เช่นกัน

อุปกรณ์เสริม

Apple Pencil รุ่นที่ 2  iPad Air 5 ยังคงรองการทำงานกับอุปกรณ์เสริมของ Apple ได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็น Apple Pencil รุ่นที่ 2 สำหรับการขีดเขียนโน้ต วาดรูป จะจดหรือขีดเขียนก็ทำได้เหมือนปากกา เพราะ  Apple Pencil 2 ออกแบบมาให้เหมือนปากกาที่เราใช้งานทั่วไป ตัวหัวปากกาไวต่อแรงกดและการเอียง เขียนง่าย และยังสามารถพกง่ายด้วยแถบแม่เหล็กที่ติดกับด้านข้างของ iPad ได้เลย และยังเป็นการชาร์จแบตฯ ไปด้วยในตัว

iPad Air 5

 Magic Keyboard

 Magic Keyboard เป็นอุปกรณ์คู่หูของ iPad โดยที่ครั้งนี้ใช้งานได้กับ iPad Air 5 เช่นกัน ไว้สำหรับพิมพ์งาน ตอบเมล ก็สะดวก และยังเป็นเคสที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วยได้อีกด้วย

 Magic Keyboard ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก ตัวคีย์บอร์ดยกลอยและปรับองศาได้ตามที่ถนัด มีปุ่มแบบแบ็คไลท์และกลไกแบบกรรไกรที่มีการขยับขึ้นลงของปุ่มที่ระยะ 1 มม. ตอบสนองการพิมพ์ได้เร็วและเงียบ ทั้งยังมีทร็คแพดในตัว สำหรับใช้เป็น Multi-Touch ละเคอร์เซอร์ใน iPadOS

iPad Air 5

Smart Folio

เคส Smart Folio สำหรับ iPad Air 5 ที่ช่วยปกป้องหน้าจอทั้งด้้านหน้าและด้านหลังได้อย่างเรียบง่าย โดยที่ตัวเคสยึดกับ iPad ด้วยแม่เหล็ก สามารถใช้งานพับฝั่งที่เป็นปกและใช้เป็นขาตั้ง นอกจากนี้ ยังมีความบางและเบา ที่สำหรับมีสีใหม่อย่าง สีมารีนบลู ที่เข้ากับ iPad Air 5 สีฟ้าอีกด้วย

iPad Air 5
ปิดท้ายกันด้วยตัวอย่างของภาพที่ถ่ายด้วย iPad Air 5 ในสภาพแสงต่างๆ

iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5

iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5

ลองกล้องหน้ากันหน่อย เห็นเล็กๆ แบบนี้ภาพคือดีย์

iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5
iPad Air 5

สรุปท้ายรีวิว

iPad Air 5 เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอกำลังดีไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ทั้งยังใช้งานได้ลื่นด้วยชิปตัวแรง M1 ไม่ว่าจะดูหนัง ทำงาน เล่นเกม หรือตัดต่อ ก็ทำได้หมดทุกอย่างบนเครื่องนี้ มาพร้อมสีสันหลากหลายให้เป็นเจ้าของ และใช้งานลงตัวสุดๆ กับอุปกรณ์เสริมของทาง Apple

ราคาและการวางจำหน่าย iPad Air 5 มีตัวเลือกทั้งมด 5 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า วางจำหน่ายในราคา

  • รุ่น Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา 20,900 บาท และความจุ 256GB ราคา 25,900 บาท
  • รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB ราคา 25,900 บาท และความจุ 256GB ราคา 30,900 บาท

iPad Air 5


สเปค iPad Air 5

  • หน้าจอ Liquid Retina กว้าง 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล
  • เทคโนโลยีหน้าจอ : จอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3),  True Tone, Full Lamination, ความสว่าง 500 นิต
  • ชิปเซ็ต Apple M1 CPU แบบ 8‑core
  • กราฟิกแบบ 8‑core
  • Apple Neural Engine
  • RAM 8GB + ROM 64GB/256GB
  • กล้องหลังไวด์ ความละเอียด 12MP, รูรับแสงขนาด f/1.8
  • กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP, มุมมองภาพ 122°, f/2.4
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi‑Fi 6, 2.4GHz และ 5GHz,  Bluetooth 5.0
  • ระบบปฏิบัติการ iPadOS 15
  • ขนาดตัวเครื่อง 247.6 x 178.5 x 6.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : รุ่น Wi‑Fi 461 กรัม, รุ่น Wi‑Fi + Cellular 462 กรัม
  • สี : เทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง และฟ้า

อัลบั้มภาพ 85 ภาพ

อัลบั้มภาพ 85 ภาพ ของ รีวิว "iPad Air 5" คุ้มมากขึ้นด้วยชิพ M1 แบบเดียวกับรุ่นโปร แถมรองรับ 5G

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook