รีวิว "HUAWEI Watch FIT 2" สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ สวมใส่ใช้งานสบาย ฟีเจอร์ด้านสุขภาพครบ
กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้งนี้รอบนี้เป็นการกลับมาของ HUAWEI Watch FIT 2 ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นกว่าเดิม มันจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และราคาเป็นอย่างไร เรามารับชมกันเลยครับ
แกะกล่อง HUAWEI Watch FIT2 ประกอบด้วย
- สมาร์ทวอท์ช x 1
- แท่นชาร์จ (รวมสายชาร์จ) x 1
- คู่มือการใช้งาน & ข้อมูลความปลอดภัย & ใบรับประกัน x 1
รายละเอียดสเปกของ Huawei Watch FIT2
- ขนาดตัวเครื่อง : 46 x 33.5 x 10.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 26 กรัม ไม่รวมสาย
- ขนาดหน้าจอ : 1.74 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 336 x 480 พิกเซล, 336 PPI
- ระบบปฏิบัติการ : Harmony OS 2.0
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
- เซนเซอร์
- เซ็นเซอร์ IMU 9 แกน (เซ็นเซอร์มาตรความเร่ง, เซ็นเซอร์ไจโรสโคป, เซ็นเซอร์แม่เหล็ก)
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล
- ระบบชาร์จไฟ : แม่เหล็กดูดติดกับตัวเครื่อง
- ระบบเสียง : มีลำโพง / ไมโครโฟน ในตัว
- สีสัน : Midnight Black, Sakura Pink, Isle Blue
รูปลักษณ์ดีไซน์ HUAWEI Watch FIT 2
เริ่มต้นกับหน้าจอของ HUAWEI WatchFIT 2 ที่มาพร้อมกับขนาด 1.74 นิ้ว AMOLED รองรับระบบทัชสกรีนที่แม่นยำและทำงานได้ดี ครอบด้วยกระจกที่ทนรอยประมาณหนึ่ง ถ้าสังเกตกับรุ่นที่แล้วพบว่าหน้าจอนั้นใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อยเท่านั้น
รอบตัวเรือนเป็นสีเงินแบบ Matte Finished จับแล้วดูแพง ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มอะไร เพราะปุ่มจะอยู่ทางขวามือส่วนคำสั่งที่กดเข้าไปนั้นมีดังนี้
- กดครั้งเดียวเข้าเมนูกลาง
- กดค้างคำสั่งเปิด / ปิดตัวเครื่อง
นอกจากนี้ด้านล่างของมุมซ้ายจะมีลำโพงและไมโครโฟนในตัว เท่ากับคุณสามารถใช้ HUAWEI Watch FIT 2 ใช้สนทนาทางโทรศัพท์ได้เช่นเดียวกัน แต่เรื่องการลงน้ำไม่ต้องห่วงเพราะลำโพงนั้นติดตั้งลึกสามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปได้
ส่วนบนและล่างของ HUAWEI Watch FIT2 เป็นที่อยู่ของสายรอบนี้มีให้เลือกสายหลายแบบแถมสามารถกดเปลี่ยนสายได้ง่ายมากขึ้นโดยการกดจากด้านล่าง ที่สำคัญสายนั้นใกล้เคียงกับรุ่นที่แล้วทำให้ใส่ได้พอดีครับ
ด้านใต้มาพร้อมกับเซนเซอร์วัดชีพจร มาทั้งสีเขียววัดเรื่องจังหวะการเต้นของหัวใจและสีแดง SpO2 วัดเรื่องระดับ Oxygen ในเลือดได้ด้วย แต่ที่เหลือติดตั้งเซนเซอร์ภายในรอบตัวช่วยให้การวัดการออกกำลังกายได้แม่นยำ และมีขั้วชาร์จไฟด้านล่าง
มาตรฐานกันน้ำของ HUAWEI Watch FIT2
ในเรื่องการกันน้ำของ Huawei Watch FIT 2 รองรับแบบ 5ATM เท่ากับสามารถ 5 ATM สามารถกันน้ำได้ 50 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งหมายความว่าอาจใช้สำหรับกิจกรรมน้ำตื้นเช่นการว่ายน้ำในสระหรือมหาสมุทร แต่แนะนำว่า ไม่ควรนดำน้ำลึกหรือใช้เกี่ยวกับกีฬาที่ใช้ความเร็วในน้ำ
น้ำหนักในการสวมใส่
มาถึงเรื่องน้ำหนัก ในตัวเรือนไม่รวมสายอยู่ที่ 26 กรัม ถ้ารวมสายคาดว่าประมาณ 32 – 35 กรัม ไม่ถือว่าหนักเลยครับ ใส่ได้สบายได้ทุกโอกาส ถ้าเป็นสายในแบบโลหะหรือหนังก็อาจจะหนักกว่านี้เล็กน้อยครับ
การเชื่อมต่อผ่านมือถือครั้งแรก
สำหรับการเชื่อมต่อกับมือถือสามารถรองรับทั้ง iOS และ Android ถ้าเป็นมือถือของ HUAWEI สามารถติดตั้งผ่าน Huawei AppGallery ซึ่งตอนนี้เริ่มเปิดให้สามารถให้มือถือ Android ทั่วไปดาวน์โหลดได้แล้ว หรือจะกดลิงก์ตรงได้ที่นี่
หลังจากติดตั้ง HUAWEI Health ให้กดเข้าไปที่หน้าอุปกรณ์ จากนั้นเลือกไปที่ Add หรือ Scan ก็ได้ แต่ระบบจะแสดงผลอัตโนมัติขึ้นมา จากนั้นให้กดยอมให้ Apps เข้าถึงเรื่องการแจ้งเตือนและภายในของมือถือเพื่อจดจำข้อมูลในกิจกรรมของคุณ
เมื่อเสร็จแล้ง HUAWEI Watch FIT 2 จะมีการอัปเดตทั้งหมด 2 ครั้งปล่อยอัปเดตไป แต่แนะนำให้ชาร์จไฟแล้วอัปเดตใน 2 ครั้งแรกเพราะ File ค่อนข้างใหญ่ เป็นอันเสร็จการเชื่อมต่อครั้งแรก
ภายใน HUAWEI Health มีอะไรบ้าง
สำหรับ Application HUAWEI Health สามารถบอกข้อมูลเรื่องของการออกกำลังจากตัว Apps ได้ยังสามารถเชื่อมต่อกับตัว Smart Watch กำหนดในเรื่อง การแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่น, ข้อความ, สายโทรเข้า เมื่อมีกิจกรรมหรืออะไรก็แล้วแต่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนได้ และยังอัปเดต Firmware ได้ด้วย
ฟีเจอร์ภายในของ HUAWEI Watch FIT2 เป็นอย่างไร
ภายในหน้าจอของ HUAWEI Watch FIT 2 จะมาพร้อมกับ Harmony OS ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Smart ทรงเหลี่ยมแบบนี้จะมีระบบปฏิบัติกแบบเดียวกับ Huawei Watch และ Huawei Watch GT นอกจากการปรับแต่งหน้าปัดที่มีให้เลือกหลากหลายสีและรูปแบบยังสามารถทำเรื่องต่างๆ เช่น ใช้ดูข้อมูลที่จำเป็นผ่าน HUAWEI Assistant ซึ่งบอกได้ทั้งสภาพอากาศ, การเล่นเพลงในตัวม เวลาออกกำลังกายหรือการเดิน พร้อมกับสั่ง Celia คำสั่งเสียงอัจฉริยะ (ที่ยังไม่รองรับภาษาไทย)
ปัดจากบนลงล่างเป็นการดูการแจ้งเตือนด่วน
ปัดจากล่างขึ้นบน เป็นการดูการแจ้งเตือนของมือถือ
ปัดซ้าย หรือ ขวา เป็นการดูหน้าจอแสดงผลสุขภาพ, ชีพจร, ระดับ Oxygen ในเลือด หรือ SpO2, สภาพอากาศ, ประวัติการโทร, การมองเห็นพระจันทร์ และสามารถเพิ่มได้
กดปุ่มจะเป็นการเข้าเมนูเพื่อเข้า Apps ได้ ถ้าเป็นมือถือของ HUAWEI สามารถสั่งเป็น Remote Shutter ได้เช่นเดียวกันครับ
โปรแกรมเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
สำหรับการบอกเรื่องสุขภาพยังคงจัดเต็มกับโปรแกรมออกกำลังกายมากถึง 97 รูปแบบ พร้อมกับการเป็น Coach ที่สามารถแนะนำการออกกำลังกายได้ในเรื่องการวิ่ง และท่าทางการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และอื่นๆ เช่น
- เตือนการนั่งนานเกินไป
- บอกวิธีการวอร์มอัปก่อนวิ่ง
- ทำตารางการวิ่งและออกกำลังกาย
- บอกเส้นทางและนำทางได้เวลาวิ่ง
- วัดการนอนผ่าน HUAWEI TruSleep
- วัดรอบเดือน
- วัดความเครียด
เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างในเรื่องของการติดตามสุขภาพจริงๆ ครับ
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
Huawei Watch FIT 2 ออกแบบให้ใช้งานได้สูงสุด 10 วันในแบบธรรมดา โดยมีการใช้งานโทร, เล่นเพลง เปิดการแจ้งเตือนและวัดการนอนเล็กน้อย กับออกกำลังกาย 30 นาที รวมถึงเปิด SMS 50 ข้อความ แต่ถ้าใช้งานหนักกว่านี้จะใช้งานได้ 7 วัน ทั้งนี้ถ้าเปิด HUAWEI TruSleep และออกกำลังกาย 60 นาทีต่อสัปดาห์ หรือทำอะไรที่หนักกว่าข้อแรกที่บอกไปก็จะอยู่ได้สั้นลง
แต่การชาร์จไฟผ่านขั้วชาร์จสามารถทำให้ชาร์จไฟได้เร็วมากเพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็สามารถทำให้เต็มได้แล้ว
สรุปหลังลองใช้ HUAWEI Watch FIT 2 จากทีม Sanook Hitech มาสักระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากที่ได้ทดลองใช้งาน HUAWEI Watch FIT 2 รุ่นใหม่ล่าสุดแล้วต้องบอกว่า ส่วนตัวของผู้เขียนเองมีความประทับใจ Huawei Watch FIT ตัวแรกพอสมควรทั้งขนาดเล็กใช้งานได้ลงตัวมาก และมีโปรแกรมช่วยออกกำลังกายที่เข้าใจง่ายสอนให้ออกกำลังกายเป็น ในหลายๆ อย่างที่ไม่เข้าใจ
แต่รุ่นนี้เพิ่มสิ่งที่ขาดไปเช่นสามารโทรศัพท์ได้, ฟังเพลงได้ และรวมไปถึงในเรื่องจุดเปลี่ยนที่ระบบปฏิบัติการที่อัปเกรดผ่านมือถือได้แล้ว ทำให้เป็นอีก Smart Watch สายแฟชั่นที่โดดเด่นที่หน้าตาและฟีเจอร์ใช้ได้จริงในราคา 4,990 บาท (โปรเปิดจองตอนนี้มีแถมเครื่องชั่งน้ำหนัก) ถือว่าก็คุ้มอยู่ถ้าอยากได้ นาฬิกาจบในตัวเดียว
จุดเด่น
- จอใหญ่สดใจเห็นรายละเอียดชัดกว่าเดิม
- ฟีเจอร์การออกกำลังกายจัดเต็มมีให้ครบ
- สามารถใช้คุยสาย หรือ ฟังเพลงผ่านลำโพงได้แล้ว
- ดีไซน์สวยน้ำหนักเบา
- แบตเตอรี่อึดมาก
ข้อสังเกต
- ราคาสูงกว่าตัวเดิมพอสมควร
- สายเปลี่ยนได้แต่ยังเป็นแบบเฉพาะรุ่น
- ฟีเจอร์การสั่งงานกล้องถูกจำกัดเฉพาะมือถือ Huawei
