รีวิว realme GT Neo 3 มือถือสเปกแรงจัดกับดีไซน์สุดซิ่งแห่งปี 2022
กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง สำหรับใครที่มองหามือถือที่เรียกได้ว่าดีไซน์ที่ดูแรง! และสเปกก็ต้องแรงด้วยการทำงานเครื่องสมดุลกล้องถ่ายภาพสวยแต่งบไม่เกิน 20,000 บาท ขอนำเสนอรีวิวตัวนี้กับมือถือ realme GT Neo 3 ที่เรียกได้ตอบโจทย์กว้างทุกสิ่งที่คุณต้องการ พร้อมแล้วมารับชมกันเลย
รายละเอียดสเปกของ realme GT Neo 3
- ขนาดตัวเครื่อง 163.3 x 75.6 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก 188 กรัม
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้วความละเอียดระดับ 2412x1080 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz เลือกปรับระดับได้แบบ Adaptive ใช้กระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 8100 Octa Core
- กราฟิก : Mali G610 MC6
- RAM ขนาด 8GB แบบ LPDDR5
- พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB แบบ UFS 3.1
- พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่มี
- การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/AX หรือ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, 5G / 4G
- ลำโพง Stereo ทั้งบนและล่าง
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล วิดีโอ Full HD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 รูรับแสง F/1.8 พร้อม OIS, EIS, PDAF
- มุมกว้างความ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.3 พร้อมกับมุมกว้าง 120 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps
- LED Flash 2 ดวงแบบ Dual Tone
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :ไม่ระบุ
- ระบบปลดล็อค Face Recognition และ Optical Finger Print ในหน้าจอ
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว SuperDART กำลัง 80W(แบบสาย
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3
- สี Nitro White / Nitro Blue
ภายกล่องให้อะไรบ้าง
- ตัวเครื่อง realme GT Neo 3
- เคส
- คู่มือ / ใบรับประกัน
- สายชาร์จ USB-C
- Adapter กำลัง 80W
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ realme GT Neo 3
เริ่มจากด้านหน้าของเครื่อง หากคุณจำภาพของ realme GT Neo 2 ได้ต้องบอกเลยว่าหน้าจอรุ่นนี้ขอบชิดกว่าเดิมมากพอสมควรทำให้ได้พื้นที่หน้าจอเพิ่มเป็น 6.7 นิ้ว และจอเป็น AMOLED พร้อมกับค่า Refresh Rate 120Hz สีสันคมชัด
ส่วนบนมาพร้อมกับเลนส์กล้องทางมุมซ้าย และมีการแจ้งเตือน ระดับสัญญาณ และรวมไปถึงเซนเซอร์สำหรับปิดหน้าจอเวลาโทร พร้อมกับลำโพงสนทนา
ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบปฏิบัติการ ที่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Convenience Tools (เครื่องมืออำนวยความสะดวก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด 2 แบบคือ
- ปุ่มกดปกติ
- การปัด
รอบตัวเครื่องเป็นเฟรมแบบโลหะสัมผัสแล้วเย็นไม่โค้งมากรับกับมือได้ดี มาพร้อมกับฝั่งซ้ายมีแค่ปุ่มปรับระดับเสียงเท่านั้น
ฝั่งขวาจะมีปุ่มสำหรับเปิด / ปิดตัวเครื่อง สามารถตั้งค่าเป็นปุ่มเรียก Google Assistant ได้
ส่วนบนจะมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนเท่าที่ได้สัมผัสรุ่นนี้อัดเสียงทั้งใช้เครื่องอัดและวิดีโอเก็บเสียงได้เนียนดีมากครับ
ส่วนด้านล่างจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่องแบบพลิกไปมาได้ และยังมี ไมโครโฟน, USB-C และลำโพงตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าดังกำลังดีเช่นเคย
พลิกมาด้านหลัง การออกแบบต้องบอกไว้ก่อนว่าคล้ายกับมือถือ realme ยุคนี้ที่มีกล้องไว้บนกระจกและแยกสีชัดเจน สำหรับสิ่งที่ realme GT Neo 3 จะแตกต่างกว่าเพื่อนคือลายของเครื่องที่เป็นเหมือนกับรถแข่งเช่น Ford GT40 เลยครับและยิ่งถ้านำไปเทียบกับ Model ภาพของสี Nitro Blue ยิ่งเหมือนกันเข้าไปใหญ่ และด้านล่างมีโลโก้ realme Dare to Leap
มาตรฐานกันน้ำ
ข่าวร้ายสำหรับคนอยากเอาน้องไปลุยน้ำสงกรานต์ มือถือรุ่นนี้ไม่ได้รองรับมาตรฐานกันน้ำ แต่สามารถโดนน้ำได้เพียงเล็กน้อยอย่าให้เช้าช่องชาร์จไฟก็เพียงพอแล้ว
น้ำหนักการสัมผัส / สีสันที่จำหน่ายในประเทศไทย
ส่วนการออกแบบแม้ว่าจะไม่ใส่เคสแต่ก็จับได้ถนัดมือด้านหลังออกแบบเรียบเนียนแต่แอบลื่นอยู่ถ้าใส่เคสใสติดเครื่องจะหนึบมือกว่ามาก นอกจากนี้ส่วนกล้องนั้นถ้าเป็นสีนี้จะดูกลมกลืนไปหมด น้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 188 กรัมไม่ได้หนักเท่าไหร่ และสีสันในประเทศไทยจะมีแค่ Nitro White และเครื่องที่ได้รับมาจะเป็นสี Nitro Blue
ประสิทธิภาพของเครื่อง / ความรู้สึกเมื่อเล่นเกม
ภาพรวมของคะแนนประสิทธิภาพที่ออกมาถือว่าทำได้สูงประมาณหนึ่งเลย อาจจะมองว่าถ้าคุณ ถ้าเล่นเกมหนักรุ่นนี้ตอบโจทย์
ยิ่งในโหมดเดี่ยวกับการเล่นเกมที่จะพูดถึงอย่าง GT Mode จะดันศักยภาพของเครื่องทั้งประสิทธิภาพ, การแตะสัมผัสหน้าจอที่รวดเร็วทำให้สามารถสั่งงานได้อย่างแม่นยำได้ถึง 1,000 ms กันเลยทีเดียวเรียกได้ว่าไม่ผิดหวังสำหรับมือถือรุ่นนี้ และนอกจากนี้ยังมีการป้องกันการแจ้งเตือนได้ด้วย
การเชื่อมต่อไร้สาย
realme GT NEO 3 มาพร้อมกับการเชื่อมต่อทั้ง 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, GPS และ A-GPS ทำให้สามารถใช้เชื่อมต่อเครือข่ายเล่นเน็ต นำทางและเล่นเกมได้ดี
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
หน้าจอของ realme GT Neo 3 สามารถปรับรูปแบบของ Refresh Rate ได้ระหว่าง 60 / 120Hz แถมเป็นแบบ Adaptive โดยเครื่องจะปรับเอง ส่วนการแสดงผลสีสันถือว่ายังรับได้คมชัดสำหรับการดูหนัง เพราะมีชิปประมวลผลของหน้าจอแยกออกไปแล้ว จึงไม่เป็นภาระของ CPU และ GPU มากนัก
ส่วนระบบเสียงนั้นมาให้ลำโพงคู่ที่รอบนี้แยกออกระหว่างลำโพงสนทนาและลำโพงเครื่องทำให้เสียงออกมาดังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ลำโพงด้านบนเมื่อเทียบกับมือถือระดับเดียวกัน เล็กไปหน่อยให้เสียงยังไปกองอยู่ด้านล่างเยอะกว่า
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ประจำเครื่อง / ระบบความปลอดภัย
มาถึงเรื่องระบบปฏิบัติการของมือถือรุ่นนี้ ได้ใช้ Android 12 มาจากกล่อง และครอบทับ realme UI 3.0 ใหม่ล่าสุดเลยครับ มันดูดีเลยนะ เพราะมีในเรื่องของการจัดวางที่ง่ายและมีการดูรายละเอียดที่เต็มที่กดได้ง่ายกว่าระบบปฏิบัติการอื่น แถมยังสามารถใช้งาน แบ่งหน้าจอได้หลากหลายแบบ
ส่วนเครื่องมือในเครื่องติดตั้งมาให้ครบทั้งโปรแกรมเกี่ยวกับดูภาพและสามารถปรับแต่งภาพหรือจะทำวิดีโอสั้นผ่าน Soloop Cut และยังมี เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, กระจก รวมไปถึง เครื่องมือดูแลเครื่องอย่างครบครัน และสามารถใช้ Google Play Store
ส่วนระบบความปลอดภัยที่ทำให้คุณมั่นใจคือ ระบบสแกนใบหน้า และ ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ทำงานได้รวดเร็ว
เปิดกล้อง realme GT Neo 3
สำหรับ realme GT Neo 3 นั้นมีกล้องมาให้ครบทั้งหน้าและหลังดังนี้
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล วิดีโอ Full HD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน3 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 รูรับแสง F/1.8 พร้อม OIS, EIS, PDAF
- มุมกว้างความ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.3 พร้อมกับมุมกว้าง 120 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps
- LED Flash 2 ดวงแบบ Dual Tone
ฟีเจอร์กล้องของ realme GT Neo 3
โหมดของกล้องใน realme GT Neo 3 ยังเน้นเรื่อง การใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน มีโหมดให้เลือกทั้ง ภาพกลางคืน, บุคคล, การถ่ายภาพปกติ เรียกได้ครบเครื่องเลย มาพร้อมกับโหมดโปรที่สามารถปรับรายละเอียดของภาพได้เช่นเดียวกัน และยังมีฟิลเตอร์ปรับได้ แต่ว่าถ้าเป็นโหมดบุคคลจะใช้การปรับแบบ AI เท่านั้น และมีโหมด สแกนบัตรประชาชน หรือ ID Card มาให้และทำงานได้ดี
ส่วนวิดีโอแม้จะไม่มีให้กดระบบกันสั่นแต่การทำงานจะเป็นแบบอัตโนมัติ ทำได้ที่ความละเอียด 4K / 60 FPS รองรับทั้งโหมดภาพยนตร์ โหมด Timelapse ที่ปรับการหน่วงพร้อมกับ Hyperlapse ไหลภาพไปจุดที่ต้องการ และ Slowmotion ที่ 480 FPS แต่ความละเอียดแค่ 720P เท่านั้น
ตัวอย่างภาพจาก realme GT Neo 3
ภาพแสงปกติ / กลางวัน
ภาพกลางคืน / ที่แสงน้อย
ภาพรูปแบบอื่นๆ
จากภาพทั้งหมด ถ้ายกให้การถ่ายภาพของมือถือยุคหลังๆ ของ realme กับโหมด ท้องถนน (Street) ถือว่าสนุกมากๆ ครับเพราะลูกเล่นต่างๆ เอื้อให้เยอะ ปรับแต่งสีสันและการเลือกใช้เลนส์ได้เหมาะสม
ลองถ่ายภาพ Selfie ด้วยกล้องหน้า
และกล้องหน้าของ realme GT Neo 3 นั้นเลือกใช้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แม้ว่าจะดูน้อยไปหน่อยแต่ยังดีที่ลูกเล่นครบทั้งฟิลเตอร์ละลายหลัง ฟิลเตอร์เกี่ยวกับเปลี่ยนฉากเป็นขาวดำ สำหรับวิดีโอและฟิลเตอร์ให้เลือกแบบจุใจนอกจากนี้ยังมาพร้อมการถ่ายวิดีโอทั้งแบบปกติที่ความละเอียด 1080p / 30FPS และ Timelapse
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
แบตเตอรี่ของ realme GT Neo 3 คือการพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม แบ่งออกเป็น 2 ก้อนกำลังรวมกัน 5000 mAh ถือว่าให้มากอยู่ แต่เนื่องจากสเปกภาพรวมทั้งหมดนั้นสูงมากจนทำให้ก็ส่งผลต่อการประหยัดไฟ เพราะ PCMark ที่ทดสอบจาก 100 – 19% ใช้เวลาถึง 9:41 ชั่งโมง เท่ากับถ้าใช้งานหนักๆ ยังไงต้องชาร์จ 1 รอบ อย่างแน่นอน แต่ถ้าใช้ปกติไม่เล่นเกมเยอะ ชิลๆครับ
แต่ว่าระบบชาร์จไฟนั้นสามารถจ่ายไฟได้เร็วที่กำลัง 80W แบบ Super Dart Charge (มีให้ในกล่อง) อาจจะไม่แรงเท่าเวอร์ชั่นที่ขายในเมืองจีนที่ 150w แต่แค่นี้ก็ทำให้แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จไฟได้เต็มในเวลาเกินครึ่งชั่วโมงเล็กน้อยเท่านั้น
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน realme GT Neo 3 มาสักพักหนึ่ง
ถ้าจะกล่าวปิดท้ายกับรีวิวมือถือ realme GT Neo 3 คงต้องยกคำว่า มือถือที่มีหน้าตาดูซิ่งแห่งชาติ จะเลือกสีน้ำเงินที่ได้อารมณ์รถแข่งและ Super Car ในตำนาน หรือจะเป็นสีขาวดำที่ก็ได้อีกอารมณ์หนึ่ง มันคือมือถือที่เกิดมาเพื่อเล่นเกมและการทำงานภาพรวมที่ดี ความร้อนเกิดขึ้นน้อยกว่าที่คิดความลื่นถือว่าดี แม้ว่าอาจจะติดในเรื่องของกล้องหน้าที่กั๊กไปหน่อย
กับราคาของเครื่องที่ 18,999 บาท แม้จะมีโปรโมชั่นแบบ Early Bird ผมว่าดูสูงไปนิดแต่ถ้าแลกกับสิ่งที่ได้และบริการหลังการขายที่ตอนนี้สามารถเข้าศูนย์ของ OPPO ผมว่า realme GT Neo 3 ก็ยังน่าคบหาอยู่ ครับ
แต่ถ้ามองไปแล้วกับสเปกขนาดนี้อาจจะมากไปก็มีอีกทางเลือกที่เป็นรองกับ realme GT Neo 3T ที่ได้สเปกใกล้เคียง realme GT Neo 2 แต่จอใหญ่กว่า ก็เป็นอีกทางเลือกที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ
จุดเด่น
- พื้นที่หน้าจอมากพอสมควรและเรียบไม่โค้งจับได้กำลังดี
- ความร้อนจากเครื่องเวลาเล่นเกมไม่สูงนัก
- ประสิทธิภาพจัดว่าดีระดับหัวแถว
- เซนเซอร์และฟีเจอร์ของกล้องครบเครื่องใช้ถ่ายงานได้เลย
- สีสันของเครื่องสวยงาม
- ความจุให้มาเยอะ
ข้อสังเกต
- ราคาค่อนข้างแพง
- ลำโพงด้านบนค่อนข้างเบา
- ไม่ระบุมาตรฐานกันน้ำมาให้
อัลบั้มภาพ 43 ภาพ