แกะกล่องรีวิว "POCO X4 GT" สมาร์ทโฟน 5G ราคาไม่หนัก เล่นเกมแรงสะใจ
สวัสดีครับกลับมาพบกับพวกเราทีมงาน Sanook! Hitech และบทความรีวิวสินค้าใหม่อีกครั้ง สำหรับบทความล่าสุดนี้เป็นคิวของ Poco X4 GT สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ขึ้นชื่อว่า POCO ความน่าสนใจคือการให้สเปคได้อย่างโดดเด่นและทำมาให้เจ้าแห่งความเร็วที่ตอบโจทย์สายเกมมิ่งและสายเอ็นเตอร์เทนเม้นในราคาที่จับต้องได้ POCO X4 GT มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8100 ทำงานบน TSMC 5nm ซึ่งผ่านกระบวนการผลิตขั้นสูง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน โดยการใช้พลังงานและความร้อนต่ำจะช่วยประหยัดพลังงานในการเชื่อมต่อ 5G แต่มันดีแค่ไหนเรามาติดตามและดูผลไปพร้อมกันครับ
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- ตัวเครื่อง POCO X4 GT
- อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 67W
- สาย USB Type-C To Type-A
- เคสซิลิโคน
- เข็มนำถาดซิมออก
- คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
สเปคเบื้องต้นของ POCO X4 GT
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.74 x 75.03 x 7.99 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 187 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว หน้าจอ 144Hz DynamicSwitch DotDisplay มอเตอร์แบบ X-axis linear
- หน่วยประมวลผล : ชิปเซ็ตเรือธง MediaTek Dimensity 8100 ขนาด 5nm ประสิทธิภาพสูงด้วย dual 5G
- GPU : IMG PowerVR GE8320
- RAM : 8GB
- หน่วยความจำ : 128GB/256GB
- รองรับ MicroSD Card ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว
- Main Camera :64 ล้านพิกเซล (f/1.9)
- Ultra-Wide : 8ล้านพิกเซล (f/2.2)
- Telephoto : 2ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้า : 20ล้านพิกเซล (f/2.5)
- ถาดซิมการ์ด : แบบ 3 Slot
- การเชื่อมต่อ : การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot,Bluetooth 5.2, GPS , NFC
- พอร์ต : USB Type-C
- ระบบเสียง : พร้อมลำโพงแบบสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos®
- มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น : IP54
- ระบบความปลอดภัย : เซ็นเซอร์ : Fingerprint (สแกนด้านข้าง), accelerometer, proximity, gyro, compass, color spectrum
- ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ความจุ 5,080mAh รองรับชาร์จไว 67W เทอร์โบชาร์จ
- สี : มี 3 สีให้เลือก คือสีดำ เทา และฟ้า
สัมผัสแรกว่าด้วยเรื่อง Design – การออกแบบ
เริ่มต้นกับส่วนแรกที่ต้องเห็นคือหน้าจอของ POCO X4 GT จะมาพร้อมกับขนาดใหญ่เช่นเคยถึง 6.6 นิ้วแต่เป็นแบบ IPS LCD พร้อมกับ Refresh Rate มากถึง 144Hz ส่วนความสว่าง 650 nits อาจจะไม่ได้มากมายเท่าไหร่ แต่มาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass 5 ที่แกร่งมากเลยทีเดียว
ส่วนบนของหน้าจอมีกล้องหน้าติดตั้งตรงกลางพอดี โดยมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Tab แจ้งเตือนที่บ่างเป็นข้างซ้ายของ Application และ ขวา เป็นการแจ้งเตือนของเครื่อง
ส่วนล่างจะเป็นปุ่มควบคุมของระบบ Android เบื้องต้นจะเป็นค่า การนำทางแบบปุ่ม แต่สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Home Screen (หน้าจอหลัก) > Navigation การนำทาง สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือ
- ปุ่ม
- การปัดด้วยท่าทาง
- นอกจากนี้ยังมีการทำปุ่มลัดและการปิดใช้งานปุ่มลัดอัตโนมัติอีกด้วย
รอบตัวเครื่องเป็นแบบโพลีคาร์บอนเนตจะมาพร้อมกับการออกแบบที่เป็นแบบเรียบง่ายเป็นเหลี่ยมสันจับได้ถนัดมือมากขึ้น ซึ่งฝั่งซ้ายจะไม่มีปุ่มกดแต่อย่างใด
ฝั่งขวามาพร้อมกับ ปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมกับปุ่ม Power ที่มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้
ส่วนบนรอบนี้มีทั้ง IR Blaster สำหรับใช้ส่งสัญญาณสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่าน Mi Remote, ลำโพงขนาดใหญ่ และมีช่องเสียบหูฟังมาให้เลือกใช้บริการ
ใต้เครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบ USB-C, ไมโครโฟน, และ ลำโพงตัวเครื่องมาให้ ที่สำคัญคือช่องใส่ซิมการ์ดและ MicroSD จะอยู่ที่ด้านล่าง โดยการใส่ซิมของมือถือรุ่นนี้ด้านบนจะเป็น Nano SIM เท่านั้นไม่สามารถเพิ่มความจำอีกต่อไป
สำหรับด้านหลังในรอบนี้เครื่องที่ได้มาทดสอบเป็นสีเงิน โดยวัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ว่าสิ่งที่โดดเด่นคือ ความที่เป็นประกายขึ้นมาของฝาหลังและการออกแบบไม่ให้นาเกินไปทำให้สามารถใช้งานได้อย่างลงตัวและแน่นอนว่ากล้องติดตั้งด้านบนมีให้เลือกใช้งาน 3 ตัวด้วยกันครับ
มาตรฐานกันน้ำ
ยังคงไม่ได้มีมาตรฐานกันน้ำมาให้เลยแม้แต่น้อยทำให้แต่เบื้องต้นพวกน้ำหกต่างๆ ถ้าไม่เขาช่องเสียบก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่เรื่องกันฝุ่นสามารถกันได้พอสมควร
น้ำหนักหลังจากสัมผัส
ด้วยน้ำหนักของเครื่องอยู่ที่ 200 กรัมพอดีอาจจะไม่ได้เบาและหนักเกินไปและที่สำคัญคือการออกแบบทำได้กระชับกับมือถือแล้วอยู่ในอุ้งมืออย่างสบายๆ เลยครับ และทรงแบบนี้ทำให้การถือเล่นเกมไม่ใช่เรื่องยากเลย ส่วนสีสันมีให้เลือกทั้งสีดำ, น้ำเงิน และ สีเงินเท่านั้น แต่ในตลาดโลกจะมีสีฟ้าให้เลือก
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียงที่ได้รับฟัง
สำหรับหน้าจอรุ่นนี้ไม่ได้เป็นแบบ AMOLED ก็จริงแต่เรื่อง Refresh Rate หรือความเร็วของหน้าจออยู่ที่ 144Hz ถือว่าทำได้ดีมากและการสัมผัสรวดเร็วเวลาเล่นเกมใช้คำว่าหมดห่วงได้เลย ส่วนการชมภาพยนตร์ยังคงทำได้ดีเพราะรองรับ HDR10+ DCI-P3 และ Dolby Vision แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือความสว่างที่แม้ว่าสเปกจะบอกว่า 650 nits แต่เวลาออกกลางแจ้งยังสว่างน้อยกว่าจอ AMOLED ประมาณหนึ่ง และยังมี DynamicSwitch 7 ขั้น เพื่อปรับเปลี่ยนอัตราการรีเฟรชเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และการใช้หน้าจอที่ลื่นไหล
แต่เรื่องเสียงอันนี้พูดจริงๆ ว่าดังมาก เพราะลำโพงทั้งบนและล่างตำแหน่งกำลังดี เสียงดังใช้ได้และยังมี FM Radio ผ่านการเสียบหูฟัง และยังปรับจูนเสียงได้เล็กน้อย
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย
ทางด้านระบบปฏิบัติการ รอบนี้เปลี่ยนแปลงมาใช้ Android 12 แต่ยังครอบด้วย MIUI 13 POCO Edition สิ่งที่ แตกต่างจาก MIUI ทั่วไปคือจะมี Apps Dower จุดเด่นคือในเวอร์ชั่นนี้จะมีน้ำหนักเบากว่าและทำให้โหมดได้เร็วมากขึ้น เพราะโปรแกรมรบกวนน้อยลงกว่าเดิม
การเปิดหน้าตาแบบ Multi Window ยังทำได้แต่ไม่สามารถกดเป็นแบบ Popup ได้แล้ว
ลูกเล่นทั่วไปที่ติดตั้งถือว่าครบ เน้นเรื่องของการใช้งานจริงเช่น เครื่องอัดเสียง, เครื่องอัดภาพหน้าจอ, Mi Remote ไว้สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องคิดเลข และ Application ของ Google หากไม่พอ สามารถดาวน์โหลดเพิ่มด้วย Google Play Store
ระบบความปลอดภัยของเครื่อง รุ่นนี้มีให้เลือกใช้แค่ระบบสแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power ทางด้านข้างขวา
ประสิทธิภาพของเครื่อง / การเล่นเกมด้วย POCO X4 GT
มันคือจุดขายของรุ่นนี้เลยครับเพราะการเลือกใช้ขุมพลัง MediaTek Dimensity 8100 ซึ่งทำให้การเล่นเกมนั้นผลงานออกเรียกได้ว่าลื่นมากๆ โดยเกมที่ผมเล่น ทั้ง Asphalt 9 Legend ตัวนี้ปรับ 60 FPS ได้แล้ว, PUBG Mobile ยังกดและตอบสนองได้ดี รวมไปถึง Genshin Impact ยังเล่นได้และไม่หน่วงจนเกินไป
เคล็ดลับมันก็มีอยู่ที่นอกจากขุมพลังแรงแล้ว POCO X4 GT มาพร้อมระบบระบายความร้อน LiquidCool Technology 2.0 ซึ่งรวมถึงกราไฟต์เจ็ดชั้นที่ช่วยกระจายความร้อนออกจากหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องไม่ร้อนเท่าไหร่
ลูกเล่นที่สามารถใช้งานระหว่างการเล่นเกมยังคงเป็น Game Turbo ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์จัดการความจำ, ปรับประสิทธิภาพ CPU, การบันทึกหน้าจอ, ปิดการแจ้งเตือน เป็นต้น เรียกได้ว่าฟีเจอร์ในส่วนนี้ถือว่าลงตัวครับ
การเชื่อมต่อไร้สาย / ระบบการนำทาง
POCO X4 GT มีการเลือกใช้ระบบการเชื่อมต่อไร้สายที่เรียกว่าใหม่และดีสุดในกลุ่มนี้ โดยเริ่มจาก Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 และ 5G ดังนั้นการใช้นำทางด้วยยังถือว่ารับได้และทำงานได้ดีอยู่ครับ
เปิดกล้องถ่ายภาพ
รายละเอียดของกล้อง POCO X4 GT มีดังนี้
- กล้องหลัง 3 ตัว
- Main Camera :64 ล้านพิกเซล (f/1.9)
- Ultra-Wide : 8ล้านพิกเซล (f/2.2)
- Telephoto : 2ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องหน้า : 20ล้านพิกเซล (f/2.5)
ฟีเจอร์ของกล้อง POCO X4 GT
หน้าตาเมนูกล้องยังไม่เหมือนกับ Xiaomi และ POCO ทั่วไป แต่ลูกเล่นของกล้องที่มาครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น โหมด โปรที่สามารถตั้งให้บันทึกเป็นแบบ RAW File และยังมีฟิลเตอร์เยอะมาก ลูกเล่นต่างๆ มีให้ครบและยังถ่ายภาพแบบโคลนได้และมีกล้องคู่ มาให้ด้วย รวมถึงการถ่ายภาพนิ่งในแบบ 64 ล้านพิกเซลได้ด้วย ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นจะรองรับความละเอียดสูงสุด 4K 60FPS และ 1080p 30/60 FPS ยังรองรับ Timelapse และ Slowmotion ได้ด้วยครับ
ตัวอย่างภาพจาก POCO X4 GT
ภาพกลางวัน / การซูม
ภาพกลางคืน
ภาพรูปแบบอื่นๆ
การลองถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า
มีการอัปเกรดกล้องหน้าให้เพิ่มความละเอียด 20 ล้านพิกเซลเมื่อใช้งานจริงถือว่าตอบโจทย์การทำงานได้ดีและเก็บรายละเอียดในที่แสงน้อยดีขึ้น ส่วนการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1080p แบบ 30 FPS ปรับฟีเจอร์ละลายหลัง, ฟีลเตอร์และรูปแบบต่างๆ ได้ครบจนเรียกได้ว่าเน้นกล้องอยู่บ้าง
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
ส่วนแบตเตอรี่อยู่ที่ 5080 mAh ถือว่าใหญ่อยู่ ถ้าเล่นเกมด้วยใช้งานไปด้วยแบบไม่หนักมากอยู่ได้ทั้งวันแบบสบายๆ แต่ถ้าเกิดเล่นเกมแบบโหมดปรับสุดก็อาจจะใช้คำว่าพอเอาตัวรอด แต่การทดสอบ PCMark ทำได้ที่ 16:20 ชั่วโมงครับ
ส่วนระบบชาร์จไฟยังคงเป็นแบบ Fast Charge 67W และที่สำคัญคือ มันมีให้อยู่ในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่มครับถือว่าสะดวกมากๆ และใช้เวลาชาร์จแป๊ปเดียวก็เต็มแล้วครับ
สรุปหลังจากทดลองใช้งาน POCO X4 GT มาสักพักหนึ่ง
อย่างที่บอกไปขั้นต้นว่า POCO X4 GT นั้นออกแบบเพื่อคนที่อยากได้มือถือเล่นเกมดีสเปกต้องจัดเต็ม มาพร้อมกับขุมพลัง Dimensity 8100 ใหม่ล่าสุดและหน้าจอไวระดับ 144Hz แม้ไม่ใช่จอ AMOLED แต่ก็ให้สีสันที่สวยและกล้องถือว่าพร้อมใช้งานได้แบบไม่ต้องห่วง
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงคงเป็นเรื่องเคสของเครื่องที่ยังต้องทำใจกับเรื่องนี้ตรงที่ฝาปิด USB ค่อนข้างแน่นไปหน่อยแต่ที่เหลือถือว่ารับได้และใช้งานได้เลยครับ ทั้งนี้ราคาของ POCO X4 GT ถือว่าเซอร์ไพรส์ อยู่ที่
- RAM 8GB / 128GB ราคาเปิดตัว 9,990 บาท (จากราคาปกติ 10,990 บาท)
- RAM 8GB / 256GB ราคาเปิดตัว 11,990 บาท (ปกติ 12,990 บาท)
และยังคงหาซื้อได้ทาง JD Central หรือเรียกว่าออนไลน์เท่านั้น ถ้าใครต้องการมือถือแรงเล่นเกมได้กล้องถือว่าตอบโจทย์อยู่นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผมว่า ครบเครื่องครับ
จุดเด่น
- หน้าตาถือว่าหลอและดูดีในภาพรวม
- สเปกแรงจัดเล่นเกมได้สบาย
- ควบคุมการทำงานง่ายผ่าน MIUI 13
- สีสันสวยงามและน้ำหนักเครื่องกำลังดี
- รอบรับ 5G โดยราคาไม่แพงเกินไป
ข้อสังเกต
- ยังไม่ได้กันน้ำนะครับ
- จำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้น
- ฝาปิดช่องเสียบ USB-C ของเคสแน่นเหมือนเดิม
อัลบั้มภาพ 29 ภาพ