รีวิว ASUS Zenbook DUO Pro (UX8402) คอมพิวเตอร์เพื่อนักสร้างสรรค์ ร่างเล็ก ที่ทำได้มากกว่าที่คิด
กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง ในรอบนี้เอาใจสายนักสร้างสรรค์ หรือ Creator สักหน่อยกับคอมพิวเตอร์ที่หลายคนรอคอยอย่าง ASUS Zenbook DUO Pro UX8402 ใหม่ล่าสุด มาดูกันว่ามันน่าใช้จริงไหมและรอบนี้ไม่ได้เครื่องใหญ่กว่าแต่ก่อน แต่พูดเลยว่ามันกลับน่าใช้มากขึ้น
รายละเอียดสเปกของ ASUS Zenbook DUO Pro
- ขนาด : 32.35 x 22.47 x 1.79 ~ 1.96 เซนติเมตร
- หนัก : 1.75 กิโลกรัม
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2880 x 1800)อัตราส่วน 16:10 พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ค่าสีตรงตามมารฐาน PANTONE Validated และยังถนอมสายตา และรองรับระบบ Touch Screen
- จอที่ 2 : ScreenPad Plus ขนาด 12.7 นิ้วความละเอียด 2880x864 พิกเซลเป็นแบบ IPS LCD รองรับ Stylus Pen
- ชิปเซ็ตประมวลผล : Intel® Core™ i7-12700H Processor 2.3 GHz (24M Cache, up to 4.7 GHz, 6P+8E cores)
- ชิปประมวลผลกราฟิก : NVIDIA® GeForce® RTX™ 3050Ti Laptop GPU, 4GB GDDR6
- RAM : แบบ 16GB LPDDR5 ไม่สามารถเพิ่มได้
- ความจุ : 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD
- กล้องหน้า : HD Camera
- ตัวเชื่อมต่อ (Port)
- 1 x USB 3.2 รุ่น 2 Type-A
- 2 x Thunderbolt™ 4 รองรับการแสดงผล/การป้อนไฟ
- 1 x HDMI 2.1 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- 1x DC-in
- SD Express 7.0 card reader
- ลักษณะ Keyboard : Backlit Chiclet Keyboard ไม่มีไฟเรืองแสง
- กล้อง Webcam : ความละเอียด HD+
- เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 AX (Wi-Fi 6E) + Bluetooth 5.2
- ลำโพง : 2 จุด พร้อมกับ Smart Amp Technlogy
- ไมโครโฟน : 2 ตัวพร้อมกับ ANC
- ระบบปฏิบัติการ : Windows 11
- แบตเตอรี่ขนาด 76 Wh (4 Cell) ที่ชาร์จแบบ AC กำลังสูงสุด 180W และรองรับการชาร์จไฟแบบ USB-C Power Delivery กำลัง 65W ขึ้นไป
- สีเครื่อง ดำ Tech Black
รูปลักษณ์ภายนอก
การออกแบบของ ASUS Zenbook Duo 14 Pro ตัวนี้จะมีการเปลี่ยนโลโก้จากเดิมจะใช้คำว่า ASUS แต่รอบนี้เป็นโลโก้ A เพียงอย่างเดียวเท่านั้นวัสดุยังเป็น อลูมิเนียมเหมือนเดิม แต่ถ้ากลัวว่าจะไม่รู้ว่ารุ่นไหนในฝาก็จะมีการบอกว่าเป็นรุ่นอะไรด้วยที่ด้านล่างตรงกลาง
ใต้เครื่องจะมาพร้อมกับช่องระบายอากาศเต็มตัว และยังมีลำโพงทั้ง้านซ้ายและขวาที่ครอบไปถึงด้านข้างของเครื่องกันเลยทีเดียว
รอบตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมที่โดดเด่นในเรื่องการ ไม่ได้หนาและบางเกินไปฝั่งซ้ายจะมีช่องระบายอากาศพร้อมกับช่องเสียบหูฟังเท่านั้น
อีกฝั่งจะมาพร้อมกับไฟสัญญาณการเปิดเครื่อง / แบตเตอรี่, ช่องเสียบ USB-C ทั้ง 2 ช่องรองรับ Thunderbolt, USB-A 3.2
ด้านหลังที่หันออกจากตัวคุณนอกจากมีบานพันแล้วยังมาพร้อมกับช่องเสียบ HDMI, microSD Card Reader, DC-IN เป็นต้น
ทางด้านหน้าที่หันมาหาคุณจะเป็นรองสำหรับเปิดยกหน้าจอขึ้น
เมื่อเปิดฝาเครื่อง
จะพบกับหน้าจอแบบ Touch Screen ขนาด 14.5 นิ้วและยังมาพร้อมกับ Webcam ส่วนแผง Keyboard จะมีขนาดไม่ได้ใหญ่เกินไปพิมพ์ได้สะดวกและมี ScreenPad Plus เป็นสิ่งที่น่าสนใจและสะดวกสำหรับ สร้างสรรค์ โดยจอที่ 2 และ Keyboard จะออกแบบให้ยกขึ้นเพราะต้องการปรับให้เหมาะกับศรีระและการระบายอากาศ
น่าเสียดีที่ไม่มีที่เก็บปากกา แต่สามารถเก็บได้กับเคสกระเป๋าที่ติดมาในกล่อง
การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง
Asus zenbook Pro Duo 14.5 ได้หน้าจอแบบ AMOLED ความละเอียด 2.8 K ทำให้ในการแสดงผลนั้นออกมาค่อนข้างคมชัดดังนั้นเนี่ยสีสันที่ออกมาค่อนข้างตรงตามมาตรฐานของสเปคที่ได้ปรากฏอยู่ด้านบนและยังรองรับ Touch Screen ได้ด้วย
ส่วนลำโพงแม้ว่าจะไม่เห็นว่ามีมากกว่า 2 ตัวแต่เนื่องจากมันติดตั้ง smartแอมป์ทำให้ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะเสียงที่ออกมาค่อนข้างที่จะดังดีใช้ได้และแน่นอนการปรับจูนจาก Harman/Kardon ก็ไม่เคยทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนสำหรับคนที่ชอบฟังเสียง เรียกได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์สาย creator โดยแท้จริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพหรือเรื่องเสียงมันตอบสนองได้ดีทั้งหมด
Keyboard / การสัมผัส
แม้ว่าตำแหน่งของคีย์บอร์ดอาจจะดูเตี้ยไปสักหน่อยแต่การกดของคีย์บอร์ดนั้นค่อนข้างแม่นยำพอสมควรเลยครับแล้วก็ยังมีไฟเรืองแสงให้ด้วย
แต่ว่าสิ่งที่จะต้องปรับปรุงนั้นน่าจะเป็นเรื่องของความไว้ของ touchpad ที่อยู่ด้านข้างคีย์บอร์ดค่อนข้างที่จะเร็วพอสมควรดังนั้นใครที่คิดจะใช้คอมพิวเตอร์รุ่นนี้ลองศึกษาแล้วก็ลองกดพิมพ์ก่อนที่จะเลือกซื้อน่าจะดีที่สุด
หน้าจอ Screenpad+ ไว้ทำอะไร
ความพิเศษของคอมพิวเตอร์รุ่นนี้นั่นก็คือการมีหน้าจอที่ 2 ที่เรียกว่า screenpad+ แล้วมันไม่ได้มาเล่นๆมันสามารถใช้งานได้จริงโดยมีฟีเจอร์ต่างๆดังต่อไปนี้
- Pro creator สามารถใช้หน้าจอที่ 2 เป็นเครื่องมือในการเลือกอุปกรณ์ว่าเขียนหรือช่วยในการตัดต่อวีดีโอโดยทำงานกับโปรแกรมของ Adobe ได้ค่อนข้างครบทุกตัว
- หน้าจอที่ 2 หรือ Second Screen เวลาที่ทำงานอยู่คุณสามารถเปิดให้หน้าจอที่ 2 นั้นรันโปรแกรมอื่นเช่นเว็บ Browser หรือโปรแกรมดูหนังต่างๆได้
- เรียก Widget ของทาง Asus ที่ให้มาอย่างเช่นโปรแกรมวาดเขียนหรือโปรแกรมเกี่ยวกับเรื่องของการควบคุมเครื่องเบื้องต้นโดยไม่ต้องกดผ่านโปรแกรมภายในเครื่องได้เลย
ถ้าคิดว่า มันจะทำงานและเปิดค้างอยู่ตลอดเวลาคุณคิดผิดครับความจริงมันมีปุ่มที่สามารถกดเปิดปิดมันได้ตลอดเวลาโดยจะอยู่บนของ touchpad ตรงกลางพอดี
น้ำหนักและการพกพา
ต้องอย่าลืมว่า ASUS Zenbook Pro Duo ตัวนี้แม้จะมีจอขนาด 14.5 นิ้วก็จริงแต่น้ำหนักครื่องก็มากถึง 1.75 กิโลกรัมก็ถือว่าพอสมควร แต่ความคล่องตัวต้องบอกว่าพอเล็กเลยทำให้พกง่ายแต่อาจจะเยอะสักหน่อยแต่แลกกับข้อต่อไปนี้ที่ผมคิดว่ายากที่จะปฏิเสธ
ประสิทธิภาพของ ASUS Zenbook DUO Pro
อย่างที่ทราบกันดีว่าสเปคของเครื่องนั้นค่อนข้างที่จะแรงใช้ได้เลยดังนั้นการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องออกมาจึงทำได้ดีอย่างที่ภาพเห็นไม่ว่าจะเป็นคะแนนด้านไหนดังนั้นเนี่ยสามารถที่จะใช้ทำงานเกี่ยวกับกราฟิกต่างๆได้แต่ว่าการเล่นเกมนั้นอาจจะอยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างใช้ได้ในบางเกมเท่านั้น
ส่วนการเชื่อมต่อนั้นสามารถทำได้มาตรฐานสูงสุดถึง WiFi 6E และ Bluetooth 5.2 เรียกว่ารองรับอนาคตสุดๆ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภาพใน / ระบบความปลอดภัย
ทางด้านระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ Windows 11 Home Edition และยังมีโปรแกรมดูแลตัวเครื่องมาให้ครบครันผ่าน ProArt Creator จะคล้ายกับ Armony Crate ที่ประกอบด้วย
- วัดการใช้พลังงานของเครื่อง
- วัดปรับค่าสีหน้าจอให้ตรง
- WorkSmart จัดปรับแต่งหน้าจอให้เหมาะกับหมวดหมู่ในการทำงาน
- การตั้งค่าหน้าจอ Control Panel ที่มีหลากหลายโปรแกรม สามารถเลือกเมนูเข้าออกได้ โดยทำงานผ่าน Screenpad+
- ดูประสิทธิภาพและเลือก App Power Priority และ จัดการ Clean Flies เป็นต้น
ส่วนฟีเจอร์ต่างๆ เสริมใน My ASUS ประกอบด้วย
- การตั้งค่าเกี่ยวกับการตั้งค่าทั้ง การเชื่อมต่อ, เปิด / ปิด ระบบ Noise Canceling, ลูกเล่นเกี่ยวกับการทำงานของปุ่ม ฟังก์ชั่น และรวมไปถึงการปรับโหมดประสิทธิภาพของเครื่อง
- การตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นของเครื่อง รวมถึงการขึ้น Blue Screen
- อัปเดต Software ภายในเครื่อง
- AppDeal สำหรับคนที่อยากได้ของถูกและเสียตังค์น้อย ASUS ก็จัดมาให้
- โปรแกรมจัดการแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน หรือต้องการถนอมแบตเตอรี่
- Link to MyASUS เชื่อมต่อกับมือถือได้แบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นการแชร์หน้าจอ, File, แชร์หน้าจอ เป็นต้น
- บริการ ASUS One สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ ASUS ให้เป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยครับทำให้สะดวกต่อการเชื่อมต่ออย่างมาก
สิ่งที่แถมจากตัวนี้ตั้งแต่แกะกล่อง จะมาพร้อมกับ Microsoft Office แบบ Home & Student 2022 แต่ไม่สามารอัปเกรดได้
ส่วนระบบความปลอดภัยของ ASUS Zenbook DUO Pro รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าแบบ Iris Scan ทำงานคู่กับ Windows Hello และทำงานได้ไว
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
สำหรับแบตเตอรี่ของ ASUS Zenbook DUO Pro 14.5 ตัวนี้มีขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 75Wh เมื่อฉันกลับขุมพลังของเครื่องนี้ที่ได้มาเป็น Intel Core i7 ก็พบว่ามันสามารถประหยัดไฟได้และสามารถกินไฟได้ในระดับเดียวกันขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณแต่ว่าการประหยัดไฟของมันสุดๆทำได้ประมาณ 7 ชั่วโมงแต่จากการทดสอบจริงแล้วอยู่ได้ประมาณ 5 ชั่วโมงแต่ถ้าสมมุติว่า ต้องมีการ render วีดีโอจำนวนหนึ่งก็พบว่าไฟฟ้านั้นจะใช้งานได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนเรื่องของการใช้ไฟนั้นมีให้เลือก 2 ตัวเลือก ได้แก่ ตัวแรกจะเป็นการเสียบ DC in ของ Adapter ที่ติดมากับกล่องกำลังไฟก็จะได้สูงสุดอยู่ที่ 100W และตัวเลือกที่ 2 คือเราสามารถเปลี่ยน USB-C กำลังไปตั้งแต่ 40 ถึง 100 วัตต์
สรุปหลังทดลองใช้งาน ASUS Zenbook DUO Pro UX8402 มาสักพักหนึ่ง
เรียกได้ว่าค่อนยข้างครบเครื่องสำหรับคอมพิวเตอร์ที่มี 2 หน้าจอสุดคมชัดและมาพร้อมกับฟีเจอร์ทั้งคนทำงานสายธรรมดา แต่ต้องการเครื่องแรงและกลุ่มคนทำงานสาย Creator ที่ต้องการประสิทธิภาพเป็นหลักจบได้ในตัวเดียว และยังพกพาได้กับขนาด 14.5 นิ้ว ผมว่าแทบใช้คำว่ามันแรงและพกพาได้เลยดีกว่า
ส่วนราคาและรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทยของ Zenbook DUO Pro มีดังนี้
- UX8402ZE-M3701WS: Intel® Core™ i7-12700H/ 16GB LPDDR5 on board/ 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD/ Intel® Iris Xe Graphics/ NVIDIA® GeForce® RTX™ 3050 Ti Laptop GPU/ 14.0-inch 2.8K (2880 x 1800) OLED 16:10 aspect ratio/ 1.75 kg/ Office Home and Student 2021 included/ SleeveStandStylus ราคา 74,990 บาท
- UX8402ZA-M3701WS: Intel® Core™ i7-12700H/ 16GB LPDDR5 on board/ 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD/ Intel® Iris Xe Graphics/ / 14.0-inch 2.8K (2880 x 1800) OLED 16:10 aspect ratio/ 1.75 kg/ Office Home and Student 2021 included/ SleeveStandStylus ราคา 59,990 บาท << เครื่องที่ได้มาทดสอบ
ถือว่าราคาอาจจะไม่ได้ถูกหรือแพงจนเกินไป ถ้ามองว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้สามารถทำงานได้อย่างดีและตอบโจทย์ทุกสิ่งในการทำงานของคุณ ผมว่า ยังเป็นทางเลือกที่น่าใช้อยู่ ฉะนั้นแล้ว ถ้าคุณเป็นสายนักสร้างสรรค์และต้องการคอมพิวเตอร์ฟีเจอร์เยอะและบางเบานี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าคบอยู่ครับ
จุดเด่น
- การออกแบบตัวเครื่องเล็กลงกว่าเดิมแต่ทำให้จับถือแล้วก็พกพาได้ง่ายขึ้น
- ขุมพลังสามารถทำงานได้ทุกอย่างแม้กระทั่ง Render งาน 3D และเล่นเกมดีๆในบางตัวได้
- มีหน้าจอที่ 2 ที่สามารถใช้งานได้จริง
- แบตเตอรี่ของเครื่องค่อนข้างใหญ่และใช้งานได้ยาวนาน
- สามารถเลือกชาร์จไฟได้หลากหลายชนิด
ข้อสังเกต
- ตำแหน่งของทัชแพดนั้นค่อนข้างจะใกล้กับปุ่ม Enter ไปนิดนึง
- แม้ชาร์จไฟด้วย USB Type C ได้แต่ก็ไม่แนะนำอยู่ดีเพราะว่ากำลังไฟที่ได้ค่อนข้างแปรปรวนแหละก็ช้าในบางจังหวะ
- ช่องเสียบที่ให้มาอาจจะดูน้อยไปนิดโดย USB ตัวหลักนั้นให้แค่ช่องเดียว
อัลบั้มภาพ 29 ภาพ