แกะกล่องทดลองใช้ Skullcandy Push Active หูฟังอัจฉริยะที่สามารถสั่งงานได้แค่พูด
กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้งในรอบนี้ทีมได้รับหูฟังไร้สายตัวใหม่ล่าสุดของ Skullcandy ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ กับ Skullcandy Push Active รุ่นใหม่ล่าสุดที่หน้าตาดู Sport และยังสามารถมีความฉลาดภายในตัวคือ สั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย มันเด็ดและดีแค่ไหน มารับชมกันเลย
รายละเอียดสเปกของ Skullcandy Push Active
- น้ำหนัก 95 กรัม
- หูฟังเป็นแบบ : In Ear
- ขนาด Driver : 6 มิลลิเมตร
- ความดังของเสียง: 112db +-3db
- ย่านความถี่ 20Hz - 20KHz
- รองรับ Bluetooth 5.2
แกะกล่อง Skullcandy Push Active ประกอบด้วย
- ตัวเคสใส่หูฟัง
- จุกเปลี่ยนขนาด มีให้เลือกทั้งขนาด S, M, L
- สายชาร์จไฟ
- หูฟัง
- คู่มือการใช้งาน / แผ่น QR Code สำหรับติดตั้ง Application
รูปลักษณ์หน้าตาของ Skullcandy Push Active
เริ่มกับดีไซน์ด้านนอกเคสถือว่าใหญ่เอาเรื่องเหมือนกัน โดยมีโลโก้ของ Skullcandy ทั้งนี้ยังมีสีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ สีเทาโดยหูข้างในเป็นสีฟ้าและสีดำ ข้างในจะเป็นสีส้ม
ด้านหน้าของกล่องหูฟังจะมีไฟเรืองแสง 4 เม็ดเพื่อบอกว่าปริมาณไฟอยู่ที่เท่าไหร่ นอกจากด้านหลังฝั่งตรงข้ามก็มีช่องเสียบ USB-C สำหรับไว้เสียบชาร์จไฟได้ด้วย
เวลาเปิดฝาจะพบกับหูฟัง Skullcandy Push Active ใหม่ล่าสุดที่มีสีแบบเดียวกับเคสตัวเครื่องทำให้มันออกมาลงตัว และมีส่วนฝาเป็นสีฟ้าสวยงาม เมื่อเอาออกจากกล่องจะมีขั้วชาร์จไฟ ฝั่งซ้ายและขวาถ้าวางหูฟังไปจะมีการดูดเก็บอัตโนมัติ
หูฟังเป็นแบบ In Ear มาพร้อมกับก้านสำหรับคล้องหู ทำให้สามารถสวมใส่ได้ง่ายและไม่หลุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับขั้วชาร์จที่อยู่ด้านในและปุ่มสั่งงานสีฟ้า หรือ ส้มแล้วแต่สีภายนอก ให้กดได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ พร้อมกับมีไฟเรืองแสงบอกสถานะ โดยสีฟ้าคือพร้อมใช้งาน สีแดงคือไฟอ่อน ส่วนถ้ากระพริบ 2 คือพร้อม Pairing
สวมใส่ Skullcandy Push Active และ มาตรฐานกันน้ำ
วิธีการสวมใส่ Skullcandy Push Active มีรายละเอียดดังนี้
- ดึงก้านให้ใส่ได้สะดวกมากขึ้น
- วางที่หูของเรา
- กดจุก In-ear เข้าไป
- ถ้าจุกไม่ถนัดสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ครับ
ส่วนมาตรฐานกันน้ำของหูฟัง Skullcandy Push Active รองรับมาตรฐานแบบ IP55 คือกันเหงื่อและกันน้ำได้ดี
คุณภาพเสียง / ไมโครโฟน
ส่วนหูฟังรุ่นนี้มีขนาด Driver ขนาด 6 มิลลิเมตร แม้จะดูตัวเล็กแต่ก็มีการปรับแต่งเสียงได้เองผ่าน Application Skullcandy และยังมีการปรับเรื่องของการเข้ากันได้กับหูได้ทำให้เสียงที่ออกมาจะดีมากขึ้นครับ
ส่วนเรื่องของไมโครโฟนมีการติดตั้งทั้ง 2 ด้านทำให้เสียงที่ออกมานั้นทำได้ดีและมีการปรับปรุงในเรื่องของคุณภาพเสียงได้ดี และที่ต้องทำให้ดีเพราะต้องมีการรับคำสั่ง Skull IQ นั่นเอง
ฟีเจอร์ภายใน Apps Skullcandy
จุดเด่นในเรื่องของหูฟัง Skullcandy ในรุ่นใหม่ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมี Application เพิ่มการควบคุมได้ด้วยในชื่อ Skullcandy ความสามารถของหูฟังรุ่นนี้ไม่ได้มีเพียงแค่กดสั่งงานต่างๆ คุณสามารถตั้งค่าต่างๆ ผ่าน Apps ที่มีชื่อว่า Skullcandy ได้ โดยใน Apps จะสามารถบอกได้ทั้ง
- ปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลือ เฉพาะตัวหูฟังนะ
- ระดับเสียงของคุณที่ใช้
- Equalizer รูปแบบของเสียงที่กล่าวไปขั้นต้น แต่สำหรับรุ่นนี้ปรับ รูปแบบของ Equalizer เองได้ด้วยครับ
- ปรับแต่ให้เสียงภายนอกเข้ามาได้หรือลดเสียงรบกวนได้
- สั่งเปิด / ปิดคำสั่งเสียงได้
- Find With Tile หาหูฟังผ่านระบบของ Tile
- คู่มือการใช้งาน ซึ่งละเอียดเอามากๆ
และยังมีการสั่งงานผ่านคำสั่งเสียงของหูฟังอย่าง Skull IQ
ทดลองใช้งาน Skull IQ
ถือว่าเป็นขุดเด่นเลยก็ว่าได้สำหรับหูฟังรุ่นนี้ที่มีการนำเทคโนโลยี AI สุดล้ำ มาใช้งานครั้งแรก ซึ่งเทคโนโลยีนี้พัฒนาร่วมกับ Bragi ประเทศเยอรมันและใช้ชิปเซ็ตจาก Airoha ทำให้หูฟัง Skullcandy ใช้เสียงในการควบคุม Apps Spotify การเล่นเพลง ปรับเสียง รับสาย วางสายโทรศัพท์ หรือเรียก Siri, Google Assistant เพื่อใช้งานคำสั่งเสียงแบบเต็มรูปแบบ
Voice Control คำสั่งเสียงง่ายนิดเดียวเพียงแค่พูดว่า “เฮ้ สกัลแคนดี” สำเนียงแบบไทยใช้ได้ มีคำสั่งง่ายๆ ดังนี้
- Spotify เพื่อเปิดแอพ Spotify ตัวอย่าง “เฮ้ สกัลแคนดี” "Spotify”
- Play เพื่อเล่นเพลง “เฮ้สกัลแคนดี” เพลย์
- Pause เพื่อหยุดเพลง “เฮ้สกัลแคนดี + พอส”
- Volume Up เพื่อ เพิ่มเสียง “เฮ้สกัลแคนดี + วอลลุมอัพ”
- Volume Down เพื่อ ลดเสียง “เฮ้สกัลแคนดี + วอลลุมดาวน์”
- Next เพื่อเลื่อนไปเพลงถัดไป “เฮ้สกัลแคนดี + เน็กส์”
- กรณีมีสายเรียกเข้า สามารถใช้คำสั่ง Accept เพื่อรับสาย หรือ Reject เพื่อตัดสาย
ตั้งปุ่มเองได้ Custom Button เพิ่มเติมได้เช่น
- ตั้งการใช้งานปุ่มกดให้ใช้ตามความถนัด
- แชร์เพลงให้เพื่อนฟัง Share Audio
- แชร์เพลงโปรดผ่านหูฟังกับเพื่อน
นอกจากนี้ยังสามารถอัปเดต Firmware ในแบบ FOTA ได้ อัพเดทความสามารถได้ผ่าน App Skullcandy ทำให้หูฟังทำงานได้ดีขึ้นและมีฟีเจอร์ใหม่ๆ รออยู่
ดังนั้นที่บอกว่าเวลาถอดหูฟังแล้วเพลงไม่หยุดนั้นสามารถแก้ได้ด้วยการพูดนั่นเอง จุดด้อยมีเพียงแค่ ถ้าจะใช้คำสั่งเสียงต้องเปิด Apps Skullcandy ไว้เท่านั้น ถ้าไม่พอดีก็ไม่ทำงาน แต่ปุ่มกดทำงานตลอดสามารถกดได้อยู่ครับ
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
มาถึงเรื่องแบตเตอรี่ของ Skullcandy Push Active สามารถใช้งานได้นานสุดที่ 44 ชั่วโมงแบ่งออกเป็นหูฟัง 10 ชั่วโมงและเคสสามารถให้ชาร์จไฟหูฟังได้นานสุด 34 ชั่วโมง ถือว่าเป็นอีกหูฟังที่ใช้งานได้นาน
ส่วนการชาร์จไฟทำได้ง่ายเพียงแค่เสียบ USB-C กับเคสก็สามารถชาร์จในกล่องได้หรือนำหูฟังกลับเข้าไปได้ด้วยก็ทำให้ไฟฟ้าเต็มได้
สรุปหลังลองใช้งาน Skullcandy Push Active มาสักระยะเวลาหนึ่ง
ถือว่าเห็นหูฟังที่ออกแบบเพื่อการออกกำลังกายได้และรองรับกับการสั่งงานด้วยเสียงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างลงตัวทั้งเสียงดีและสามารถใช้ออกกำลังกายได้ดี และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียงซึ่งเป็นหูฟัง 2 รุ่นที่แรก เรียกได้ว่าฉลาดสุดๆ ในงบประมาณ 4,990 บาท และมีโปรโมชั่นเวลาจำกัดกับราคา 4,490 บาท โดยมีให้เลือก 2 สีครับ
จุดเด่น
- การออกแบบทำได้ดีสามารถใส่ได้สบาย
- กันน้ำได้ดีมาก
- คำสั่งอัจฉริยะเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เสียงหูฟังถือว่าทำได้ดีและปรับแต่งได้
- แบตฯ อึดมาก
- ราคาถือว่าไม่แรง
ข้อสังเกต
- กล่องเคสค่อนข้างใหญ่
- ยังไม่รองรับภาษาไทย
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ