ทดลองใช้ HONOR X9 มือถือรุ่นกลางที่ดีไซน์สวยโดดเด่นกับกล้องวงกลมขนาดใหญ่
กลับมาพบกับรีวิว Gadget จากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้งในรอบนี้ทีมได้รับ HONOR X9 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 รุ่นชิมลางกับตลาดมือถือเมืองไทยอีกครั้ง และถือว่าเป็นรุ่นที่ยังมีความเป็นกลิ่นอายของค่ายอดีตลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่ แต่มันจะมีดีและแตกต่างกันแค่ไหน มารับชมกันได้เลย
รายละเอียดของ HONOR X9
- ขนาดตัวเครื่อง 166.1 x 75.8 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก 189 กรัม
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 81 นิ้วความละเอียดระดับ 2388x1080 พิกเซล พร้อมค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 Octa Core
- กราฟิก : Adreno 610
- RAM ขนาด 8GB
- พื้นที่จัดเก็บภายใน : 128GB
- พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่มี
- การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.1, 4G
- ลำโพงมีเฉพาะด้านใต้
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล วิดีโอ Full HD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ รูรับแสง F/1.8 พร้อม PDAF
- มุมกว้างความ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.3 พร้อมกับมุมกว้าง 120 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080p@30fps
- LED Flash
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :ไม่ระบุ
- ระบบปลดล็อค Face Recognition และ ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง
- แบตเตอรี่ความจุ 4800mAh
- รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 66W (HONOR Super Charge)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 + Magic UI 4.2
- สี Titanium Silver และ Midnight Black
แกะกล่อง HONOR X9 ประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง HONOR X9
- สายชาร์จไฟแบบ USB-C To USB-A
- Adapter กำลัง 66W
- คู่มือ / ใบรับประกัน
- หูฟัง - ที่แปลงหูฟังเป็น USB-C
- เคสตัวเครื่องแบบใส
รูปลักษณ์หน้าตาของ HONOR X9
เริ่มต้นกับดีไซน์ของ HONOR X9 ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.81 นิ้ว เรียกได้ว่าใหญ่โตอลังการงานสร้างเลยก็ว่าได้ และเป็นแบบ IPS LCD พร้อมกับ Refresh Rate 90Hz
ส่วนบนของหน้าจอมี Tap การแจ้งเตือน และสัญญาลักษณ์ Bluetooth, Wi-Fi, คลื่นมือถือ, แบตเตอรี่ และ นาฬิกา พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลแบบลอย
ส่วนด้านล่าง จะมีปุ่มกดตามสไตล์มือถือระบบปฏิบัติการ Android และสามารถเปลี่ยนเป็นแบบ ปัดสัมผัสหรือกดก็ได้
รอบตัวเครื่องออกแบบให้โค้งรับกับมือโดยฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มกดอะไรแต่เน้นเรื่องความเรียบง่าย
ฝั่งขวามีปุ่ม Power ที่ติดตั้งระบบสแกนนิ้วมือมาให้, ปุ่มปรับระดับเสียงและถ้าจะ Capture หน้าจอก็สามารถทำได้ด้วยกัน 2 วิธีคือ
- ปัดด้วย 3 นิ้วที่หน้าจอ
- กดปุ่ม Power และ ลดระดับเสียงพร้อมกัน
ด้านบนจะเห็นลำโพงสำหนาสนทนาและไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมาให้
ด้านล่างมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Dual SIM, USB-C, ไมโครโฟนตัวเครื่อง และลำโพงหลักของเครื่อง
พลิกมาด้านหลังจะเห็นด้านหลังคล้ายกับกระจกใสและดูดีไม่น้อยมาพร้อมกับกล้องหลัง Matrix AI Camera ทั้งหมด 4 ตัวพร้อมกับ LED Flash ด้านบนและยังมีโลโก้ HONOR มาให้ทางด้านล่างให้โดดเด่น
น้ำหนักในการถือเป็นอย่างไร
สิ่งที่ต้องยอมรับกับความจริงของ HONOR X9 คือน้ำหนักของเครื่องที่ค่อยข้างหนักหน่อยเพราะมีน้ำหนักจริงอยู่ที่ 189 กรัม แต่ถามว่าหนักแบบรับไม่ได้เลยหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ถึงขนาดนั้น ก็ยังถือได้อยู่ครับ นอกจากนี้ยังมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Midnight Black และ สีเงิน Titanium Silver ครับ
กันน้ำหรือไม่
สำหรับ HONOR X9 นั้นไม่ได้มีการระบุที่ชัดเจนว่ากันน้ำได้ในระดับไหน แต่คำแนะนำของทีมงานหลังจากทดลองใช้งานประกอบกับช่วงที่ทดลองฝนตกประจำ ก็พบว่าตัวเครื่องพอจะทนต่อการหยดของฝนได้ แต่ไม่ควรให้โดนฝนเต็มๆ เพราะเสี่ยงที่ช่องชาร์จจะพังได้ง่าย
การแสดงผลภาพ / ระบบเสียง
สำหรับการแสดงผลหน้าจอ IPS LCD ของ HONOR X9 ถือว่าสดใสมากและสีสันให้การแสดงผลที่คมชัดและดึงดูดใจไม่น้อยเลยครับ แต่สิ่งที่ต้องทำใจเล็กๆ กับมือถือรุ่นนี้คือ สีดำอาจจะไม่สนิดมากเพราะเป็น LCD นี่แหล่ะ แต่ยังถือว่า จอสวยครับ
ส่วนเสียงกับลำโพงตัวเดียวอาจจะมองถ้างบประมาณนี้น่าจะเป็น Dual Speaker ทั้งบนและล่างก็ตาม แต่เสียงที่เปิดมาถือว่าดังดีใช้ได้ครับ
ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม
ภาพรวมของสเปกอาจจะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ว่าสิ่งที่ได้จากมือถือรุ่นนี้คือ การเล่นเกมที่ลื่นไหลนอกจากจอไวแล้วยังได้ความคลีนของ ROM ที่ทำให้การตอบสนองกับการเล่นเกมถือว่าทำได้ดีอยู่ครับ
การเชื่อมต่อไร้สาย / ทดลองนำทาง
HONOR X9 รองรับการเชื่อมต่อครบทั้ง 4G, Wi-Fi Dual Band, Bluetooth และ GPS บอกนำทางได้ทั้ง A-GPS และ GPS ปกติ
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบปฏิบัติการ
ทางด้านระบบปฏิบัติการของ HONOR X9 มาพร้อมกับ Android 11 และ Magic OS 4.2 ที่ทำงานได้ลื่นไหลการทำงานแม้ว่าจะแยกบริษัทจากค่ายลูกพี่ลูกน้องกันไปแล้ว แต่ก็ยังเก็บส่วนดีเช่น การปัดข้างค้างไว้สามารถเลือกเปิด Apps ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และรองรับการเปิดแบบ Multi Window ได้ด้วย และยังแสดงผล POPUP ได้
เครื่องมืออื่นๆ มีให้เลือกทั้งใช้ทั้ง เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ HONOR สามารถดาวน์โหลด Application จาก Google Play Store ได้เหมือนกับมือถือ Android ทั่วไป
ระบบความปลอดภัยจะมาพร้อมกับสแกนลายนิ้วมือด้านข้างและระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D
เปิดกล้องลองถ่ายภาพด้วย HONOR X9
รายละเอียดสเปกกล้องของ HONOR X9
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล วิดีโอ Full HD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ รูรับแสง F/1.8 พร้อม PDAF
- มุมกว้างความ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.3 พร้อมกับมุมกว้าง 120 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- วิดีโอถ่ายได้ที่ 1080p@30fps
- LED Flash
ฟีเจอร์ของกล้อง
สำหรับ Interface ของกล้อง HONOR X9 นั้นคล้ายกับมือถือจากลูกพี่ลูกน้องของค่ายนี้ ยังมี AI Scene Optimize ทำให้การปรับรูปแบบภาพถ่ายทำได้ง่ายและยังสามารถเลือกเมนูได้สะดวกมายิ่งขึ้น ส่วนวิดีโอนั้นรองรับการถ่ายความละเอียด FHD 30 FPS แต่ก็มีการซูมมาให้ 6 เท่า พร้อมกับ Timelapse และ Slow-motion มาให้อยู่ไม่ได้ตัดออกแต่อย่างใด
ตัวอย่างภาพจาก HONOR X9
ลองถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าของ HONOR X9
ด้วยความละเอียดกล้องหน้าให้มากถึง 16 ล้านพิกเซลและมีลูกเล่นที่จัดเต็มทั้งการละลายหลัง การเลือกฟิลเตอร์และ Beauty Mode ทำให้กล้องรุ่นนี้สามารถปรับภาพออกมาได้อย่างลงตัว ส่วนวิดีโอทำได้ที่ความละเอียด Full HD เท่านั้น
แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ
มาถึงแบตเตอรี่ขนาด 4800 mAh ของเครื่องและด้วยไม่มี 5G ทำให้การใช้งานของเครื่องลงตัวและทำได้ดีและโดดเด่นไม่น้อยเลย ถ้าคุณมองหามือถือที่ใช้งานรอดทั้งวันรุ่นนี้ถือว่าคบหาได้ครับ เพราะการทดสอบ PCMark ทำได้ที่ประมาณ 13 ชั่วโมงและการใช้งานปกติ หมดวันยังเหลือแบตฯอีก 20% จากเวลา 9:00 - 22:00 น.
ส่วนระบบชาร์จไฟของ HONOR X9 นั้นมาแบบแรงสุดด้วยกำลัง 66W ที่สามารถชาร์จไฟเต็มได้ในเวลาพริบตาเดียว
สรุปหลังลองทีม Sanook Hitech ลองใช้ HONOR X9 มาสักระยะเวลาหนึ่ง
HONOR X9 เป็นอีกเครื่องพิสูจน์ของค่ายนี้ที่บอกว่าฉันกลับมาแล้วด้วยความที่รูปร่างหน้าตาอาจจะคล้ายกับมือถือ Huawei Mate 40 Series แต่ว่าสิ่งที่ให้มาข้างในเรียกว่าลงตัวกลมกล่อมกำลังดีลื่นไหลและมี Google Mobile Service ทำให้มันเป็นอีกมือถือที่น่าสนใจอยู่ แม้ว่าจะไม่รองรับ 5G ก็ตาม
อย่างไรก็จตามกับราคาของเครื่องอยู่ที่ 9,490 บาท อาจจะมองว่าสูงไปนิดแต่ถ้าแลกกับคุณภาพของเครื่องที่ถือว่ายกระดับมือถือ Mid Range มากพอตัวแล้ว ก็ยังน่าคบหามาเล่นอยู่ครับ และการรับประกันอยู่ในกลุ่มของ Synnex เรียกได้ว่าหมดห่วงซ่อมได้ทั่วประเทศแน่นอน
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยงามและจับถนัดมือ
- จอภาพสวย
- ดาวน์โหลด Apps ผ่าน Google Play Store ได้
- กล้องให้ครบเครื่อง
- ชาร์จไฟเร็วมาก
ข้อสังเกต
- ราคาค่อนข้างสูง
- ไม่รองรับ 5G
- มีหูฟังให้แต่ตัวเครื่องไม่มีช่องเสียบหูฟัง
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ