พาชมเทคโนโลยีสุดฉลาดกับรถยนต์ฟอร์ดเจนเนอเรชั่นใหม่ และ Apps Ford Pass แสนสะดวก
วันนี้ฟอร์ดประเทศไทยได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษกับสื่อมวลชนสายเทคโนโลยี แน่นอนว่าทีม Sanook Hitech ได้รับเชิญเข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย โดยรถยนต์ฟอร์ดเจนเนอเรชั่นใหม่นั้นประกอบด้วย เรนเจอร์ รถกระบะสุดฉลาด และ เอเวอเรสต์ รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่กับ 4 ฐานที่ทางฟอร์ดได้จัดขึ้นมาให้แสดงศักยภาพของรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวกันไป
ก่อนที่จะไปถึงฐานต่างๆ นี้ ฟอร์ดก็ได้มีการนำเสนอเกี่ยวเรื่อง Apps ที่อำนวยความสะดวกอย่างเช่น Ford Pass มาให้ได้รู้จัก และเป็นอีกส่วนหนึ่งของเรื่องความ พร้อมเสมอ (Always On) ในการดูแลลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมโดยผู้เชียวชาญผ่านการมองจากแว่นระยะไกล, การติดต่อ Call Center, การเลือกบริการเข้าศูนย์และกำหนดเรื่องการซ่อม และรวมไปถึง Mobile Service ที่สามารถทำได้เกือบทุกอย่าง จนนึกว่าศูนย์บริการมาอยู่หน้าบ้าน และถ้าไม่สะดวกเข้าศูนย์ก็มีบริการรับรถและเราสามารถติดตามได้ว่ารถยนต์ของเราสถานะซ่อมเสร็จหรือยังและอยู่ที่ไหนได้ด้วย
ทีนี้เรามาดูกิจกรรมกันดีกว่าว่าฟอร์ดพามา
ฐานแรกคือ Smart Control เริ่มต้นกับการทำงาน FordPass Application ที่สามารถทำได้ทั้ง
- สั่งสตาร์ทรถยนต์ได้ แต่เงื่อนไขคือถ้าเกิดกดสั่งไปแล้ว 3 ครั้งจะไม่สามารถสั่งได้อีกจนกว่าจะกดติดเครื่องจริงจากรถยนต์ ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องเป็นเช่นนั้นเพื่อความปลอดภัยจากกรณีถูกโจรกรรม
- ปลดล็อค และ ล็อครถ
- สั่งเปิดสัญญาณไฟและแตะเพื่อตามหารถยนต์ ทั้งหมดนี้เพื่ออำนวยความสะดวก
- ตรวจสอบน้ำมันเชื้อเพลิง และ น้ำมันเครื่อง
- เช็คระยะ หรือจองคิวนัดศูนย์บริการ
- ตรวจสอบว่ารถยนต์ของเราจอดอยู่ที่ไหนได้
ทั้งนี้ Application สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานทั้ง Android เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไปและ iOS เวอร์ชั่น 13 ขึ้นไปทั้งคู่ แต่บริการที่จะรองรับนั้น สำหรับการควบคุมรถยนต์ทำได้กับ ฟอร์ด Next Gen ทั้ง เอเวอเรสต์ และ เรนเจอร์ ส่วนรถยนต์ก่อนหน้านี้จะทำได้แค่นัดหมายเข้าบริการเท่านั้น
ฐานที่ 2 คือ Smart Work
เพื่อเป็นความการตอบสนองกับยุคที่รถยนต์จะต้องอยู่ในชีวิตประจำวันอย่างง่าย รวมถึงการทำงานบางอย่าง เช่นในรถยนต์ที่ได้ทดลองอย่าง Ford Ranger มาทั้งปลั๊กเสียบรอบคันทำให้สามารถใช้เสียบเพื่อให้ใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดี การเพิ่มจุดยึดติดสำหรับช่างไม้ ในการทำงาน พื้นที่กระบะที่ใหญ่ใส่ของได้ และกระบะยังมีการทำเป็นแบบไม้บรรทัดที่ยาวถึง 130 เซนติเมตร ไว้วัดของได้ด้วย
แต่ถ้ามีแค่กระบะหลังที่อเนกประสงค์อย่างเดียงคงไม่ได้เพราะว่ายังมีบันไดข้างสามารถขึ้นไปหยิบของได้ และภายในรถเองก็มีปลั๊กเสียบให้ครบทั้ง USB-C, USB-A อย่างน้อย 2 จุด, ปลั๊กไฟแบบ 12V ของรถยนต์ให้ 2 จุดด้วยกัน แต่ถ้าด้านหลังเพิ่ม USB-C ได้สักช่องจะดีมากแลย ส่วนด้านหน้าก็เอาใจคนที่ใช้มือถือรุ่นใหม่ วางชาร์จไฟแบบไร้สายได้ด้วยครับ
ฐานที่ 3 คือ Smart Play
เรื่องทำงานผ่านไปแล้ว มาถึงเรื่องของท่องเที่ยวในครั้งนี้นอกจากพื้นที่เก็บของจาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นใหม่ที่รอบนี้จัดตัวท็อปอย่างเกรดสูงสุด Titanium Plus 4x4 นอกจากจุแล้วยังมีการออกแบบให้พับเบาะด้วยไฟฟ้า และเก็บของได้ง่ายแล้ว และมี Sunroof ในตัว หน้าจอของฟอร์ดก็จัดเต็มกับขนาด 12 นิ้ว จากการทดลองใช้งานการสัมผัสถือว่าเร็วมาก และสั่งงานได้ง่าย ปุ่มใหญ่กดได้ง่าย แถมยังรองรับภาษาไทย
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Sync 4A และมาพร้อมกับการเชื่อมต่อกับมือถือได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และหน้าจอยังสามารถวาดเขียนได้ผ่าน Sketch ทำให้เขียนสิ่งที่ต้องจำ หรือวาดรูปเล่นได้ด้วย
ฐานที่ 4 Smart Feature
อีกเรื่องที่ทุกวันนี้รถยนต์มีคือ ระบบจอดเองหรือระบบความปลอดภัยต่างๆ ในรถยนต์ฟอร์ดก็จัดเต็มมาให้ โดยเฉพาะในรุ่นเอเวอเรสต์ใหม่ที่มีปุ่ม Active Parking Assist 2.0 เหมือนกับมีผู้ช่วยจอดรถมือโปร โดยทีมได้ทดลองแล้ว ขั้นตอนแรกอาจจะต้องหาซองหรือที่จอดให้พอดีกับรถก่อนและต้องกดในตัวรถ ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เมื่อระบบหาได้แล้ว เราแค่เปลี่ยนเกียร์เดียวเท่านั้นแล้วกดปุ่ม P ที่ Console ค้างไว้ จากนั้นรถยนต์จะถอดเข้าจอเดินหน้าควบคุมคันเร่งและเบรกให้เสร็จ และเมื่อจอดเสร็จจะเข้าเกียร์ P ให้เองด้วยอะไรจะฉลาดขนาดนั้น
และยังไม่ถ้าคุณคิดว่าเวลาออกนั้นยาก รถยนต์ก็ยังมีระบบช่วยออกจากซองอัตโนมัติด้วยครับ ช่วยให้การขับรถยนต์ขนาดใหญ่อย่าง ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายไปเลยครับ
การทดลองครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเทคโนโลยี IT ในรถยนต์ถือว่าล้ำจนเรียกได้ว่ารถยนต์จะเป็น Gadget ในกลุ่ม IoT (Internet Of Thing) ได้เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Infotainment และรวมไปถึงการปรับตัวเข้าหาผู้ใช้งานมากขึ้น จนทำให้คนใช้งานไม่กังวลในเรื่องการใช้งานอีกต่อไป Ford ก็เป็นอีกผู้ผลิตรถยนต์ที่พยายามทำให้ตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นเช่นเดียวกัน
ดังนั้นก่อนที่จะเดินทางไปถึงยุคของรถยนต์ไฟฟ้า คำว่า Smart Car คงไม่เกินความเป็นจริงอีกต่อไป เหลือแต่ผู้ใช้งานคงต้องปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีเหล่านี้ถ้าปรับตัวได้รับรองว่าชีวิตคงจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่านี้ครับ
ครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะพาคุณไปดูงานอะไรอีกรอติดตามกันต่อในโอกาสถัดไปครับ
อัลบั้มภาพ 33 ภาพ